ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Posthizzt555 ที่ พฤศจิกายน 19, 2018, 08:59:16 am



หัวข้อ: wartscaring จัดประเภทชี้แนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ การรักษา ยารักษาหายได้ เชื่อคำแ
เริ่มหัวข้อโดย: Posthizzt555 ที่ พฤศจิกายน 19, 2018, 08:59:16 am
wartscaring ชี้แนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ ป้องกัน ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด โรคหูดหงอนไก่ ลดความเสี่ยง รักษาหายทันท่วงที, ยารักษาหูดหงอนไก่ โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์
วิตามินที่จำเป็นต้องสำหรับโรคหูดหงอนไก่
Update กันยายน 2560
สวัสดีครับผม ในบทความก่อนๆได้ชี้แนะในเรื่องของตัวยารักษาโรคหูดหงอนไก่กันไปแล้ว แต่ว่าก็ยังมีปัญหาสำหรับคนไม่ใช่น้อยเกี่ยวกับการกระทำการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการดูแลและรักษาและก็เสริมสร้างภูมิต้านทานสำหรับในการขัดขวางโรคนี้ บางคนหายแต่ว่าก็กลับไปติดเชื้อโรคใหม่ได้ง่าย และบางคนใช้เวลาสำหรับเพื่อการรักษานานแรมเดือนถึงหลายๆเดือนเนื่องจากสถานการณ์ร่างกายมิได้พักผ่อนอย่างมาก สภาพการณ์เครียด ตัวยาจึงปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เต็มคุณภาพ บางคนที่ไปพบแพทย์บางครั้งอาจจะได้ยามากินเพิ่มซึ่งก็คืิอตัวยาที่ช่วยเกี่ยวกับภาวการณ์กลุ่มนี้นั่นเองนะครับ ส่วนตัวยารักษาโรคนี้โดนตรงจะเป็นยาจำพวกทานะนะครับไม่ใช่ยารับประทาน ผมจึงเสนอแนะว่าถ้าเกิดให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีแล้วก็มีคุณภาพจำเป็นที่จะต้องทานวิตามินเสริมและก็ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยรวมถึงการพักผ่อนครับผม
ส่วนนี้จะมาแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้ยาทาอยู่ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม สามารถหาซื้อวิตามินรวมบำรุงร่างกายกลุ่มนี้จะมีขายตามร้านขายยาใหญ่ๆครับ ราคาบางทีก็อาจจะสูงหน่อยแต่ว่าผลดีที่ได้เห็นชัดครับ
1 ฟาร์มาตอม
2 เซนทรัม
3. กางล็คมอร์ มัลติวิตามิน
ตัวยากลุ่มนี้ให้เลือกทานเพียง 1 ตัวเท่านั้นครับ ไม่มีความจำเป็นต้องทานตลอด แต่ตอนที่เป็นโรคหูดหรือกำลังรักษาคือช่วงที่สภาวะร่างกายมีปัญหาภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตนเองอย่างเต็มที่ สามารถทานควบคู่กับยาใช้ภายนอกกระทั่งหูดหงอนไก่จะหลุดออกรวมทั้งหายสนิทขอรับ
 
หูดหงอนไก่จำแนกเป็นระยะ 4 ระยะดังนี้
1.ระยะฟักเชื้อ(HPV) ช่วงนี้จะเป็นตอนที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆแม้กระนั้นยังไม่ออกอาการเป็นติ่งให้มองเห็น จะไม่อาจจะทราบได้ว่าจะเป็นหูดหงอนไก่รึเปล่า หูดหงอนไก่สามารถฟักเชื้อได้นานถึง 6 เดือน จึงชี้แนะถ้าหากคนไหนกันสงสัยว่าอยู่ในภาวการณ์เสี่ยงควรไปตรวจที่ รพ.
2.ระยะเริ่มต้นเริ่ม จะเริ่มมีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นมาบริเวณอวัยวะเพศทั้งยัง โคน ปลาย แล้วก็รอบรูทวาร เม็ดหูดระยะต้นจะเล็กมากคล้ายผื่นแม้กระนั้นจะไม่มีหนอง หรือคัน หรือแสบอะไรก็แล้วแต่ ช่วงสัปดาห์แรกแม้ผู้ใดกันสังเกตุว่าเป็น จะสามารถรักษาด้วยการใช้ครีมกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อชื่อ aldara cream (จะลงข้อมูลตัวยาด้านล่างนะครับ)
3.ระยะขยายตัว ระยะนี้จะอยู่ที่ 3 สัปดาห์ ขึ้นไปจนกระทั่งขั้นเป็นมาแล้วยาวนานหลายเดือน เม็ดหูดจะเริ่มขึ้นเป็นติ่งแจ้งชัดจนถึงขนาดเท่าหรือใหญ่มากยิ่งกว่าหัวไม้ขีดไฟ หรือหัวเข็มหมุด การดูแลรักษาจำเป็นต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดผิวหูดให้ยุ่ยรวมทั้งค่อยๆหลุดออก แล้วก็เมื่อหูดเริ่มลอกก็ควรจะทายาทำลายเชื้อควบคู่ไปด้วยเพื่อคุ้มครองปกป้องการเกิดซ้ำ อาจจะไม่ 100% แต่ว่าลดการเสี่ยงสำหรับการกลับมาเป็นซ้ำได้มากขอรับ (ยารักษาก็จะเป็น wart control )
4.ระยะแพร่กระจาย ระยะนี้เป็นหูดจะขยายตัวเต็มกำลังเนื่องด้วยปล่อยไว้เป็นเวลานานมากรวมทั้งปลายหูดจะแตกเป็นเสมือนดอกกระหล่ำ แลละกินบริเวณรอบอีกทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ ในผู้ชายอาจจะมีการเสี่ยงในการที่หูดไปขัดปลายท่อฉี่ครับ การดูแลรักษาจะเป็นการจี้กระแสไฟฟ้า หรือผ่าตัดเล็กนั่นเองครับผม
เบื่องต้นเลยถ้าเกิดผู้ใดกันแน่ต้องการรักษาโดยการจี้ไฟฟ้า จักจี้ไนโตรเจนเหลว หรือการผ่าตัดกรณีที่เป็นมากแล้วลุกลามไปทั่วแต่ไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่การรักษา การเข้าไปติดต่อที่ โรงพยาบาลต่างๆรวมทั้งการเบิกค่ารักษาจากสวัสดิการต่างๆที่ท่านมีอยู่ ลองโทรมาปรึกษาผมได้ครับผม ยินดีให้คำปรึกษา รพ.ใกล้บ้านท่านโดยเฉพาะ กทม เพื่อการเข้ารับการรักษาที่สบายที่สุดนะครับ
ถุงยาง ช่วยได้แน่ หากใช้ถูกแนวทาง
แม้กระนั้น ถุงยางยังช่วยคุ้มครองป้องกันโรคติดต่อทางเพศสมาคมจำนวนมากได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแต่จำเป็นต้องใช้ให้ถูกทาง
ควรที่จะทำการเลือกขนาดของถุงยางอนามัยให้เหมาะสมกับขนาดของอวัยวะเพศของคุณสุภาพบุรุษ ถ้าหากไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องใช้ขนาดไหน ให้ทดลองซื้อมาให้หลายๆขนาด แล้วพินิจความแน่นสำหรับการใส่
ไม่สมควรสวมถุงยางเกิน 2 ชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้ถุงยางเสียดสีกันจนถึงขาดได้ง่าย
ควรใช้ถุงยางอนามัย 1 ครั้งต่อ 1 ชิ้น ให้เสร็จให้ทิ้งเลย ห้ามเก็บมาใช้ต่อ
สามารถใช้สารหล่อลื่นทาฉาบด้านนอกถุงยางอนามัย เพื่อให้การใส่เป็นไปได้โดยง่ายมากเพิ่มขึ้น แต่ควรที่จะเลือกใช้ชนิดเจล ไม่ควรเลือกใช้แบบเป็นน้ำมัน เพราะบางทีอาจททำให้ถุงยางอนามัยพัง หรือฉีกให้ขาดได้
ควรจะรูดอากาศออกมาจากกระเปาะของถุงยางอนามัยให้หมดก่อนสวม เพราะอากาศด้านในถุงยางอนามัยอาจส่งผลให้ถุงยางอนามัยแตก หรือขาดได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้างหลังทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อย ข้างชายควรถอนของลับออกมาก่อนที่อวัยวะเพศจะอ่อนตัว ป้องกันถุงยางหลุดเข้าไปในช่องคลอดของข้างหญิง
กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมจำพวก ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อาการทางผิวหนังอะไรบ้างที่เข้าข่ายถูกสงสัย ว่าเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมประเภท หาคำตอบถึงที่กะไว้นี่ค่ะ
1.หูดหงอนไก่
ติ่งเนื้องอกของผิวหนัง ที่เกิดจาก Human PApilloma Virus ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมชนิด
ไม่เพียงแต่กำเนิดพอดีอวัยวะสืบพันธุ์ ยังกำเนิดถึงที่เหมาะรอบๆลิ้น ในลำคอ
2. หนองใน
โรคหนองในเกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อแบคทีเรีย โกโนเรีย
อาการในผู้ชายเป็นมีหนองออกมาจากปลายอวัยวะสืบพันธุ์
ส่วนในผู้หญิงจะมีตกขาวขุ่น ปากมดลูกอักเสบ
3. เริมที่ของลับ
อาการจะเป็นกรุ๊ปของตุ่มน้ำ แตกออกเป็นแผลแสบ
4. แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จาก ซิฟิลิส
แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จะเกิดขึ้นในสามอาทิตย์หลังติดโรค
5. ผมตกจากซิฟิลิส
เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากซิฟิลิสระยะลำดับที่สองคือภายในสองเดือนแรกข้างหลังติดเชื้อ
ลักษณะผมตกเป็นหย่อมราวกับมอดเล็ม
6. ผื่นที่มือจากโรคซิฟิลิส
เจอในซิฟิลิส ระยะลำดับที่สองเช่นเดียวกัน
โดยจะเป็นผื่นสีทองแดงมีสะเก็ด ที่มือเท้า
7.หูดข้าวสวย
เป็นตุ่มขาวขุ่นมีรอยยุบกึ่งกลางเหมือนสะดือ
8.โรคแผลริมอ่อน
หลังมีการเสี่ยง ไม่เกินสองสัปดาห์
จะเกิดตุ่ม แตกเป็นแผลก้นแผลสกปรก
9.ฝีมะม่วง
เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสมาคม
เกิดเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
10 หูดที่ลิ้น
โรคติดต่อทางเพศสมาคมสามารถเกิดอาการที่ช่องปากได้ในกรณีติดต่อจากกระบวนการทำ oral sex
โรคอะไรบ้างสามารถติดต่อได้ทางเพศ
-โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ทำให้ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องติดเชื้อชุบมือเปิบ
-โรคหนองใน ผลข้างเคียงเช่นติดโรคในอุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ติดโรคกระจายทั่วร่างกายเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อห่อหัวใจอักเสบได้
-โรคหนองในเทียม มีการติดโรคที่อุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ตามมาได้
-โรคซิฟิลิส เกิดแผลที่ของลับ แม้ไม่ได้รับการรักษาระยะในที่สุดนำมาซึ่งโรคที่ศีรษะดวงใจ ระบบประสาทได้
-แผลริมอ่อน กำเนิดเป็นแผล ก้อนหนอง แผลเป็น ท่อปัสสาวะแคบได้ เพื่อมองรูป
-โรคฝีมะม่วง เกิดเป็นแผลติดเชื้อโรค แพร่กระจายมีหนองหนองอาจแตกออกเป็นท่อ ระบายหนองออกสู่ข้างนอก
-เริม เป็นแผลที่ของลับเป็นๆหายๆไม่มีการรักษาที่หายสนิท
-พยาธิช่องคลอด มีตกขาวผิดปกติ ท่อปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ติดโรคแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมีสีและก็กลิ่นผิดปกติ
-โลน เป็นตุ่มคันจากตัวโลนรอบๆอวัยวะเพศ
-หูดหงอนไก่ เกิดเป็นก้อนหูดซึ่งข้างหลังการดูแลและรักษายังสามารถกลับเป็นได้บ่อยครั้ง เพิ่มจังหวะการเกิดโรคมะเร็งทวารหนัก มะเร็งปากมดลูก
-หูดข้าวสวย เกิดเม็ดก้อนหูดข้าวสุกบริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อ สามารถแพร่ไปในตนเองได้โดยการเกา
 
 วิธีเบื้องต้น สำหรับการรักษาหูดด้วยตัวเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน (เป็นวิธีการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง)

  • การกระตุ้นแอนติบอดี ด้วยการใช้ก้อนน้ำแข็งถูรอบๆที่เป็นหูดกระทั่งรู้สึกชา แล้วต่อจากนั้นให้ใช้เข็มทำลายเชื้อจิ้มลงไปในหูดลึกๆหลายๆครั้ง ซึ่งวิธีการแบบนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสโลหิตเพื่อร่างกายพากเพียรต่อสู้กับมัน ทำให้หูดหายไปได้ในที่สุด วิธีแบบนี้การนี้บางทีอาจได้ประสิทธิภาพที่ดีมากมายสำหรับบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีหูดเยอะมากๆ เพราะว่าการจิ้มหูดเพียง 1 ตุ่มบนร่างกายจะช่วยให้ร่างกายพบหูดตุ่มอื่นๆและตรงเข้าไปทำลายได้ในทันทีทันใด
  • ทาวิตามินซี ให้ใช้วิตามินซี 1 เม็ดเอามาบดแล้วหยดน้ำลงไปเพื่อได้เป็นยาป้ายข้นๆแล้วหลังจากนั้นให้ป้ายยาลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ภายในกลางวัน รวมทั้งเมื่อถึงในช่วงเวลาค่ำคืนให้แกะออกเพื่อผิวได้หายใจ
  • แอสไพริน ให้ใช้ยาแอสไพริน 2-3 เม็ดนำมาบดอย่างถี่ถ้วน หยดน้ำลงไปนิดหน่อย แล้วนำยาที่ได้มาป้ายลงบนหูด แล้วต่อจากนั้นให้นำปลาสเตอร์ชนิดติดแน่นมาปิดทับทิ้งไว้ 1 คืน (ในยาแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกที่ช่วยกัดหูดได้)
  • เบตาดีน ให้ทาเบตาดีนลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 1-2 วัน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนปลาสเตอร์ยา
  • ยาสีฟัน ให้ป้ายยาสีฟันลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ยาจำพวกติดแน่น ทิ้งไว้ราว 1 คืน โดยให้ทำใหม่ไปเรื่อยตราบจนกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำมันวิตามินอี ให้ฉีกแคปซูลวิตามินอีแล้วถูน้ำมันลงบนหูดเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ในช่วงเวลาเช้า แล้วก็แกะออกในยามค่ำคืนเพื่อผิวได้หายใจ
  • น้ำมันละหุ่ง ให้ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหูดโดยใช้สำลีก้านวันละ 2 ครั้ง ซึ่งกรดในน้ำมันละหุ่งจะสามารถกัดกร่อนหูดได้ และใช้ได้ผลในด้านดีกับหูดที่มีขนาดเล็กแบนบนบริเวณใบหน้าหรือหลังมือ
    ทีทรีออยล์ ให้ทาหนทรีออยล์ลงบนหูดในปริมาณบางส่วน แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ โดยให้ทำอย่างต่ำเป็นเวลา 3 สัปดาห์
  • น้ำมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวลงบนหูด แล้วนำหอมใหญ่สดสับมาวางทับไว้ ให้ทำเช่นนี้ประมาณ 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • เปลือกของพืชเชื้อสายส้ม ให้ปอกมะนาวหรือเลมอนบางๆจนได้ขนาดใหญ่กว่าหูดเล็กน้อย แล้วปิดทับลงบนหูดโดยใช้ปลาสเตอร์ประเภทติดแน่นหรือเทปกาวติดไว้อีกที แล้วให้แปลงเปลือกใหม่ทุกวี่วัน ต่อไปราว 1 สัปดาห์ หูดก็จะหลุดออกมา
    แคร์รอต ให้นำสนใจรอคอยตมาหั่นเป็นชิ้นๆขูดแคร์รอคอยตจนได้เนื้อละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะกอกลงไปพอให้เป็นยาป้าย ต่อจากนั้นนำมาทาลงบนหูด 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 30 นาที โดยให้ทำแบบนี้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
  • มะเดื่อ ให้นำมะเดื่อมาบดแล้วป้ายลงบนหูดทิ้งไว้ราวๆ 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวี่วัน เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
  • ใบโหระพา ให้ใช้ใบโหระพาสดนำมาบดแล้วปิดทับลงบนหูด โดยใช้เทปปิดแผลประเภทกันน้ำพันเอาไว้ ให้ทำแบบนี้ทุกวี่วันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แล้วสารฆ่าเชื้อเชื้อไวรัสในใบโหระพาจะช่วยฆ่าหูดให้ท่านเอง
  • เปลือกกล้วย ให้ใช้ภายในของเปลือกกล้วยถูบริเวณที่เป็นหูดบ่อยๆ เนื่องจากโพแทสเซียมในกล้วยบางทีอาจช่วยให้หูดหายได้เร็วยิ่งขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งบางทีอาจนำเปลือกกล้วยมาตัดให้มีขนาดเล็กกว่าเทป เอาภายในของเปลือกกล้วยปิดทับลงบนหูด แล้วจากนั้นจึงค่อยนำเทปผ้ามาปิด ปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 1 วัน โดยให้ทำแบบนี้ทุกวี่ทุกวันจนกว่าหูดจะหายไป
  • เบกกิ้งโซดา ให้ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดารวมทั้งน้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อครีม แล้วหลังจากนั้นให้นำมาทาลงบนหูดในกลางคืนโดยใช้ปลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ แล้วจึงแกะปลาสเตอร์ออกในเช้าตรู่วันต่อไป แนวทางลักษณะนี้สามารถทำอีกครั้งได้เรื่อยๆตามความเหมาะสม
  • แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar – ACV) ให้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แล้วนำสำลีก้อนขนาดพอให้ปิดหูดได้จุ่มลงในน้ำส้มสายชู จากนั้นให้ปิดด้วยปลาสเตอร์ยาทิ้งไว้ 1 คืน โปรดจำไว้ว่า วิธีการแบบนี้อาจจะทำให้รู้สึกแสบได้ จำเป็นต้องแปลงสำลีทุกเมื่อเชื่อวัน และแปะไว้ทุกคืน ต่อจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เม็ดหูดจะเริ่มหลุดลอกออก
  • จุ่มหูดลงไปในน้ำสับปะรด เพราะว่าในน้ำสับปะรดจะมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ช่วยละลายหูดได้
  • น้ำหล่อเลี้ยงจากต้นแดนดิไลออน (Dandelion) ให้เลือกต้นดินแดนดิไลออนสดๆมาหนึ่งต้น หักก้านออกเป็น 2 ท่อนแล้วก็ใช้น้ำหล่อเลี้ยงสีขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากก้านทาลงบนหูด โดยให้ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้ง จากนั้นให้ใช้หินภูเขาไฟมาขูดเพื่อเอาชั้นผิวที่ตายแล้วออก โดยให้ทำอย่างสม่ำเสมอกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำร้อน เป็นแนวทางเบื้องต้นโดยการจุ่มบริเวณที่เป็นหูดลงในน้ำที่ร้อนมากๆซึ่งความร้อนจะก่อให้หูดนุ่มขึ้นและก็บางทีอาจช่วยฆ่าเชื้อโรคเชื้อไวรัสได้ แม้กระนั้นพึงระวังอย่าให้น้ำร้อนเกินจนลวกเท้า (แนะนำว่าอุณหภูมิของน้ำควรจะต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส)
  • น้ำร้อนและก็หินภูเขาไฟ ให้แช่หูดลงในน้ำร้อนจนตราบเท่าหูดเริ่มนุ่ม แล้วใช้หินภูเขาไฟหยาบคายสำหรับผลัดเซลล์ผิวขัดรอบๆหูดกระทั่งเจอชั้นผิวจริง จุ่มสำลีก้านลงในน้ำยาฟอกแล้วเอามาแตะต้องบนหัวหูดประมาณ 15 นาที (อาจแสบบ้างนิดหน่อย) เสร็จแล้วให้ล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด
  • น้ำร้อนรวมทั้งเกลือทะเล ให้แช่รอบๆที่เป็นหูดลงในน้ำเกลืออุ่นๆตรงเวลา 10-15 นาที เพื่อให้หูดนุ่มขึ้น หลังจากนั้นให้ขูดเอาชั้นผิวที่ตายแล้วบนหูดออกไปโดยใช้ตะไบเล็บหรือหินภูเขาไฟ ก็เลยนำเกลือทะเลเม็ดใหญ่มาถู ติดปลาสเตอร์ยาหรือเทปทับลงไปเพื่อให้เม็ดเกลือยังอยู่กับที่ แล้วก็รอเปลี่ยนปลาสเตอร์ยาใหม่ภายหลังอาบน้ำ เสร็จแล้วให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อปกป้องการแพร่กระจายของเชื้อหูด
  • รับประทานอาหารที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ดังเช่นว่า กระเทียม มัน เมล็ดทานตะวัน ขนมปังโฮลเกรน ข้าว อื่นๆอีกมากมาย
  • รับประทานกระเทียมชนิดแคปซูล โดยให้กินวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันหลายสัปดาห์ แล้วหูดจะเริ่มหลุดออกในตอน 1-2 สัปดาห์แรก แม้กระนั้นให้ทานต่อไปโดยตลอดจนกว่าหูดจะหายหมด รวมทั้งให้นำน้ำมันกระเทียมมาทาทับบริเวณที่เป็นหูดโดยประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 1 เดือน
ผลข้างเคียงของโรคหูดหงอนไก่

  • นอกจากรูปแบบของรอยโรคที่ไม่น่ามองดูแล้ว ในการติดโรคไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรง ดังเช่นว่า สายพันธุ์ 16, 18 ยังอาจส่งผลให้กำเนิดโรคมะเร็งในระบบขยายพันธุ์และก็มะเร็งทวารหนักได้ด้วย ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆก็ขึ้นกับตำแหน่งของรอยโรค เช่น อาจมีเลือดออกข้างหลังมีเซ็กส์ ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการมีหูดด้านในปากมดลูก
  • ในหญิงมีครรภ์ หูดหงอนไก่อาจโตขึ้นกระทั่งขวางทางคลอดกระทั่งทำให้เด็กคลอดออกมาทุกข์ยากลำบาก หรือเชื้อบางทีอาจเข้าไปในปากหรือคอของเด็กในขณะคลอด นำมาซึ่งการก่อให้เกิดหูดในกล่องเสียงซึ่งมีอาการแตกต่างกันไป ตั้งแต่เสียงแหบไปจนกระทั่งมีการอุดกันของกล่องเสียง ทำให้เด็กออกเสียงหรือหายใจไม่ได้
  • ในกลุ่มชายรักชายจะเจอหูดหงอนไก่รอบทวารหนักหรือในทวารหนักได้มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งการรักษาในตำแหน่งดังที่กล่าวมาแล้วจะทำได้ยากมาก เพราะไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้ขั้นตอนการผ่าตัด หูดหงอนไก่ก็ชอบเกิดซ้ำได้บ่อยมาก การได้รับการดูแลและรักษาบ่อยจึงอาจจะก่อให้เกิดทวารหนักตีบและมีปัญหาสำหรับในการถ่ายตามมาได้ ส่วนก้อนที่อยู่ลึกเข้าไปในทวารหนักอาจโตมากมายกระทั่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการท้องผูก ในบางครั้งอาจมีเลือดออกหรือบิดขั้วกระทั่งจำเป็นต้องผ่าตัดฉุกเฉินหรือจะต้องดมยาสลบ นอกเหนือจากนี้ยังพบได้บ่อยการตำหนิดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 ร่วมด้วยอยู่บ่อยๆซึ่งจะชมรมกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
  • เกิดหูดหงอนไก่ที่ดินเดินหายใจ (Recurrent Respiratory Papillomatosis – RRP) คือ ตั้งแต่โพรงจมูกลงไปจนกระทั่งถุงลมในปอด มักพบได้มากที่สุดที่กล่องเสียง ทำให้คนไข้มีลักษณะอาการเสียงแหบหรือมีการอุดกันทางเดินหายใจจนเสียชีวิตได้ ในเด็กมักเกิดจากการติดเชื้อจากแม่ในระหว่างการคลอดจากที่กล่าวมา ส่วนในผู้ใหญ่พบได้บ่อยว่าเกิดจากการร่วมเพศทางช่องปาก หากแม้ภาวการณ์นี้จะเป็นภาวการณ์ที่เจอได้นานๆครั้ง (พบได้โดยประมาณ 1-4 ต่อราษฎร 100,000 คน) แต่ว่าถ้าเกิดแล้วจะสร้างความทุกข์ระทมต่อคนป่วยอย่างใหญ่โต
  • อีกทั้งประเด็นการรักษาที่เรื้อรังและก็รายจ่ายที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย เนื่องจากในคนแก่มักจะลงเอยด้วยการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของก้อนหูดเพื่อช่วยเรื่องทางเท้าหายใจ ซึ่งการผ่าตัดอย่างงี้จะทำได้ยากมากตั้งแต่แนวทางการสูดดมยาสลบ ที่ผู้เจ็บป่วยอาจขาดอากาศหายใจได้เป็นบางช่วง นอกจากนี้ตามธรรมชาติแล้วรอยโรคก็มักจะกระจายไปทั่ว ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะกำจัดออกหมดได้ข้างในครั้งเดียว และก็บางทีอาจจะต้องได้รับการผ่าตัดมากยิ่งกว่า 5 ครั้งในชีวิต ส่วนในเด็กมักจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 4.4 ครั้งต่อปี รวมแล้วประมาณ 19.7 ครั้งในช่วงชีวิต ก็เลยนำไปสู่ผลข้างเคียงตามมาคือแผลเป็น สำเร็จทำให้หลอดลมตีบและหายใจได้ทุกข์ยากลำบากในระยะยาว

 
 
ตัวยาจะเป็นยาทาทั้งมวลครับผม ไม่มียากกินครับผม หลายท่านบางทีก็อาจจะยังไม่รู้เรื่องว่าระยะที่ตนเองเป็นอยู่นั้นจะใช้ยาได้มั้ย รวมทั้งใช้ตัวไหนเลือกไม่ถูกเพราะมีตัวยามากมายหลายแบบและวิตามินเสริมต่างๆ ตกลงว่าสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มมาหาข้อมูลใหม่ผมจะอธิบายตัวยาที่จำเป็นจะต้องที่สุดที่ต้องใช้ก่อนเลยครับผม จะได้เข้าใจง่ายๆ ส่วนวิตามินขอตัดไปก่อนขอรับจะได้ไม่สับสน ด้วยเหตุว่าบางบุคคลก็บางครั้งก็อาจจะทานวิตามินเสริมอยู่ก่อนแล้ว
1. Aldara cream ระยะแรกเริ่ม ตอนนี้จะเป็นลักษณะเป็นจุดตุ่มเนืิ้อเล็กๆคล้ายผื่นผื่นครับผม บางทีอาจจะเท่าปลายหัวปากกาเริ่มมีเพียงแต่ไม่กี่ตุ่มเพียงแค่นั้น ตุ่มยังอ่อนๆนุ่มๆ สังเกตุว่าเป็นมาไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ (หูดจะไม่มีหนองไม่เจ็บหรือระบมช้ำนะครับ ไม่มีอาการใดๆทั้งหมดขอรับ เป็นเพียงติ่งเนื้อที่ค่อยๆแพร่กระจาย ถ้าเกิดไม่รักษา )
เวลานี้ จะใช้ตัวยา aldara cream จะเป็นลักษณะซองเล็กๆตามภาพครับผม (1แผงมี 3 ซองตามภาพราคา 660.- ในแผง3ซองนั้นทาได้ราว 2 อาทิตย์) ธรรมดาโดยธรรมดาทาประมาณ 1 เดือนครึ่ง - 2 เดือน ตัวยาซองเล็กเล็กน้อยนะครับ ใช้ได้โดยประมาณ 1-2 ครั้ง เสนอแนะพื้นฐานก็จะใช้ประมาณ1 แผง (3 ซอง)เป็นอย่างน้อยนะครับ หูดจะค่อยๆฝ่อลงที่ละนิดกระทั่งเรียบสนิทกับผิวครับผม ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเป็นมานานขนาดไหนก็แนะนำตัวยาแบบที่ 2 เลยครับ ตามภาพด้านล่าง
2. Wart control ระยะเริ่มแพร่ เวลานี้ส่วนมากจะเป็นกันมากและเพิ่งจะมาหาข้อมูลครับผมเนื่องจากติ่งจะชัดจนถึงสังเกตุได้แจ่มกระจ่าง ผู้ที่เป็นระยะนี้หลายท่านเริ่มมีลักษณะวิตก จึงเริ่มจะรักษากันช่วงนี้เองขอรับ ส่วนตัวยาแบบแรกจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไรด้วยเหตุว่าเนื้อหูดเริ่มมีชั้นผิวที่ครึ้มยากต่อการดูดซึม จึงจะชี้แนะให้ใช้ wart control เลยจะแน่นอนกว่าขอรับ หรือคนไหนกันที่เคยใช้ตัว aldara cream ไม่ได้เรื่อง เช่นใช้มาเกิน 3 ซองไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆอาจเนื่องจากว่าเป็นมานานเกินไปนะครับ ก็ให้ใช้ตัว wart control เลยขอรับ (ราคาขวดละ 1600.-) ใช้แค่เพียงขวดเดียวหายสนิทขอรับ
 
3. ระยะรุกลาม เวลานี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมาเกิน 1 ปี หูดลามเป็นดอกกะหล่ำกระจายเต็มพื้นที่ควรจะจี้กระแสไฟฟ้ากับแพทย์ที่ โรงพยาบาลตามที่เคยชี้แนะไปในบทความที่ผ่านมานะครับ คนไหนที่ยังเป็นไม่มากมายก็รีบรักษาก่อนจะถึงระยะนี้ครับผม ปลดปล่อยไว้นานกระบวนการรักษาจะยุ่งยากไม่ปกป้องเลยขอรับ
ต้องการสั่งซื้อยา ปรึกษาแนะนำบอกต่อ เบอร์ 092-9899456 คุณนิธิพล
#หูดหงอนไก่ #ขายยารักษาหูด #หมอชี้แนะ #หมอช่วยได้ #ส่วนตัว

Tags :  wart no more
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ