หัวข้อ: สมุนไพร ดาวอินคา เริ่มหัวข้อโดย: teareborn ที่ ธันวาคม 03, 2018, 08:28:07 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542265195435.jpg)
ดาวอินคา ชื่อสมุนไพร ดาวอินคา ชื่ออื่นๆ ถั่วดาวอินคา ชื่อวิทยาศาสตร์ Plukenetia volubilis. ชื่อสามัญ sacha inchi, sacha mani , Inca peanut. วงศ์ Euphorbiaceae ถิ่นกำเนิด ดาวอินคาติดอยู่ เป็นพืชตระกูล Euphorbiaceae เหมือนกันกับ ยางพารา สบู่ดำ หรือมันสำปะหลัง นับเป็นพืชเฉพาะถิ่นชนิดหนึ่ง มีถิ่นกําเนิดจากบริเวณลุ่มแม่น้ําอเมซอน ในประเทศประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมนุษย์รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ยุคอินติดอยู่ หรือในตอนปี ค.ศ. 1438-1533 และก็ตกทอดมากันมาสู่คนพื้นถิ่นมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ซึ่งมีการนำดาวอินคามาใช้ประโยชน์หลากหลาย ดังนี้ จากแหล่งกำเนิด และก็ความเป็นมาที่ชาวอินคานำมาใช้ประโยชน์ เมืองไทยจึงเรียกพืชประเภทนี้ว่า ถั่วดาวอินติดอยู่ ในปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกดาวอินค้างในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็มีการนำดาวอินค้างมาแปรรูป ดังเช่นว่า น้ำมันดาวอินคาที่ได้จากการสกัด ถั่วดาวอินค้างอบเกลือ หรือถั่วดาวอินติดอยู่คั่ว สำหรับในประเทศไทยได้มีบริษัทเอกชนนำดาวอินค้างเข้ามาสนับสนุนการปลูกครั้งแรก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มที่จังหวัดหนองคายเนื่องจากเห็นว่ามีที่ตั้งภูมิศาสตร์เส้นทางการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงไปสู่กรุ๊ปประเทศอินโดจีนได้จนกระทั่งมีการปลูกอย่างมากมายในหลายพื้นที่ในขณะนี้ ลักษณะทั่วไป ดาวอินติดอยู่จัดเป็นไม้เลื้อยด้วยเหตุว่ามีลำต้นเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุนาน 10-50 ปี ลำต้นแตกกิ่งเป็นเถาเลื้อยได้ยาวมากมายว่า 2 เมตร เถาอ่อนมีสีเขียว เถาแก่หรือโคนเถามีสีน้ำตาล แก่นเถาแข็ง แล้วก็เหนียว ใบของถั่วดาวอินค้างเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบเป็นใบลำพัง เรียงสลับเยื้องกันตามความยาวของเถา ใบมีรูปหัวใจ โคนใบกว้าง และเว้าตรงกลางเป็นฐานหัวใจ ส่วนปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด แล้วก็มีร่องตื้นๆตามเส้นกิ่งก้านสาขาใบ ส่วนขอบของใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีก้านใบยาวโดยประมาณ 2-4 ซม. ส่วนแผ่นใบกว้างราวๆ 8-10 ซม. ยาวโดยประมาณ 12-18 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อตามซอกใบบนเถา แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกมีลักษณะทรงกลม สีเขียวอมเหลือง เป็นดอกจำพวกแยกเพส แม้กระนั้นรวมอยู่ในช่อดอก แล้วก็ต้นเดียวกัน โดยดอกเพสภรรยาจะอยู่รอบๆโคนช่อดอก 2-4 ดอก ส่วนดอกเพศผู้มีเยอะมากต่อจากดอกเพศภรรยามาจนถึงปลายช่อดอก ดังนี้ ถั่วดาวอินติดอยู่จะติดดอกทีแรกเมื่ออายุราว 5 เดือน หลังเมล็ดแตกออกและผลจะแก่ที่พร้อมเก็บได้ประมาณอีก 3-4 เดือน ข้างหลังมีดอกผลเรียกเป็นฝัก มีลักษณะเป็นแคปซูลที่แบ่งออกเป็นพูๆหรือแฉก 4-7 พูขนาดฝักกว้าง 3-5 ซม. เปลือกผลอ่อนมีสีเขียวสด รวมทั้งมีประสีขาวกระจัดกระจายทั่ว แล้วค่อยๆกลายเป็นสีดำเมื่อสุก แล้วก็แก่จนแห้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล พร้อมด้วยเปลือกปริแตกกระทั่งมองเห็นเม็ดภายใน เมล็ดดาวอินติดอยู่ใน 1 ผลหรือฝัก จะมีปริมาณเมล็ดตามพูหรือแฉก เป็นต้นว่า ฝักมี 5 พู ก็จะมี 5 เม็ด ถ้าหากมี 7 พู ก็จะมี 7 เม็ด โดยเม็ดจะแทรกอยู่ในแต่ละพูในแนวดิ่งเมล็ดมีทรงกลม รวมทั้งแบน ขอบเมล็ดบางแหลมกึ่งกลางเมล็ดนูนเด่น ขนาดเมล็ดกว้าง 1.5-2.0 ซม. ยาว1.8-2.2 เซนติเมตร น้ำหนักเม็ดเฉลี่ย 1.5 กรัม/เม็ด เปลือกเมล็ดเป็นแผ่นบาง มีสีน้ำตาลอมดำ ต่อมาจากเปลือกเป็นเนื้อเม็ดที่มีสีขาว เนื้อเม็ดเมื่อคั่วสุกจะกรอบ รวมทั้งมีรสมันอร่อย มีน้ำมันปริมาณมาก การขยายพันธุ์ ดาวอินค้างสามารเติบโตเจริญในสภาพภูมิอากาศอุ่น ที่อุณหภูมิ 10-36 องศาเซลเซียสที่มีความสูงตั้งแต่100-2000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งสามารถปลุกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย สำหรับในการขยายพันธุ์สามารถขยายพันธุ์โดยเมล็ด โดยการนำเม็ดที่แก่แล้วมาเพาะในถุงดำ เมื่อต้นสูงราว 30 เซนติเมตร ก็เลยย้ายปลูกหรือหยอดเมล็ดในหลุมปลูกเลยก็ได้ ระยะปลูก 2 x 3 ถึง 2 x 4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 200 – 300 ต้น เป็นพืชที่รังเกียจน้ำนองเฉอะแฉะในพื้นที่ต่ำควรชูร่อง ทำค้างสำหรับให้ต้นเลื้อยพัน โดยใช้สิ่งของในพื้นที่ ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้มักใช้ท่อพีวีซีเป็นเสาหลักแล้วก็ใช้สายโทรศัพท์เก่าขึงระหว่างเสาเป็นค้างสำหรับให้ยอดเลื้อยพัน ส่วนปุ๋ยที่ใช้ควรจะเป็นปุ๋ยธรรมชาติ โดยธรรมดาดาวอินคาสามารถได้ผลผลิต 600 – 800 กิโลกรัมต่อไร่และให้ผลผลิตยาวนาน 15 – 50 ปี เลยทีเดียว และน้ำมัน (35-60%) โดยมีกรดไขมันจำพวก omega-3 ดังเช่นlinolenic acid ราวๆ 45-53% (12.8–16.0 g/100 g seed) , omega-6 เป็นต้นว่า linoleic acid โดยประมาณ 34-39% (12.4–14.1 g/100 g seed) แล้วก็ omega-9 ราวๆ 6-10% ของไขมันทั้งผอง อัตราส่วนของ omega-6 /omega-3 อยู่ในช่วง 0.83–1.09 ยิ่งกว่านั้นมี phytosterols อย่างเช่น beta-sitosterol และstigmasterol สารที่มีฤทธิ์ต้านทานขบวนการออกซิเดชันอาทิเช่น วิตามินอีในรูป tocopherols สารกลุ่มฟีโนลิก และแคโรทีนอยด์ รวมทั้งกรดอะไม่โยหลายชนิดอย่างเช่น สิสเตอีน (cysteine) ไทโรซีน (tyrosine) ทรีโอนีน (threonine) และก็ทริปโตเฟน (tryptophan) ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของเม็ดดาวอินคา (คั่วเกลือจำนวน 100 กรัม) พลังงาน 607 กิโลแคลอรี โปรตีน 32.14 กรัม ไขมันทั้งสิ้น 46.43 กรัม คาร์โบไฮเดรต 17.86 กรัม น้ำตาล 3.57 กรัมแคลเซียม 143 มก. ธาตุเหล็ก 4.59 มก. โซเดียม 643 มิลลิกรัม ผลดี/สรรพคุณ เม็ดดาวอินติดอยู่สามารถใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารกินเล่น เช่น ถั่วคั่วเกลือ ถั่วทอด หรือ เอามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้นว่า ซอส ซีอิ้วเต้าเจี้ยว รวมถึงดัดแปลงเป็นแป้ง ดาวอินค้างสำหรับใช้ปรุงอาหารรวมทั้งทำอาหารหวาน ในตอนนี้นิยมนำเมล็ดดาวอินคานำมาสกัดน้ำมัน ซึ่งใช้ประโยชน์ประโยชน์ในหลายด้าน เป็นต้นว่า ใช้เป็นน้ำมันรับประทานเพื่อเป็นอาหารเสริมให้แก่ร่างกาย โดยมักผลิตในรูปบรรจุขวดหรือใส่แคปซูลพร้อมรับประทาน ใช้เป็นน้ำมันทอดหรือประกอบอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องแต่งหน้า ดังเช่น โฟมที่ใช้ล้างหน้า สบู่ น้ำหอม และก็ครีมสำหรับดูแลผิว น้ำมันที่สกัดได้ใช้สำหรับทานวดแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว รวมทั้งใช้ชโลมผมให้ดกดำ แล้วก็จัดทรงง่าย ส่วน สรรพคุณของดาวอินค้าง มีดังนี้ สารสำคัญที่เจอในเม็ดดาวอินคา อย่างเช่นกรดไขมันโดยเฉพาะ omega-3 และก็ phytosterols นั้นมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดยิ่งกว่านั้นสารต่อต้านขบวนการออกซิเดชัน อย่างเช่น tocopherols สารกลุ่มฟีโนลิก และก็แคโรทีนอยด์ สามารถต้านทานอนุมูลอิสระและก็ป้องกันการออกสิเดชันของไขมัน ก็เลยสามารถช่วย ลดไขมันในเลือด แล้วก็ป้องกันโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิตได้ แล้วก็กรดไขมันโอเมก้า 3 ในดาวอินคายังมีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายซับแคลเซียมมาบำรุงกเงินรอบเดือนกได้ดิบได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาความแข็งแรงของเยื่อหุ้มห่อเซลล์ ลดการอักเสบของหลอดเลือด แล้วก็ลดการเสี่ยงโรคไขข้อได้อีกด้วย ทั้งในดาวอินคายังอุสูดดมไปด้วยวิตามินอี และวิตามินเอที่ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพผิวและก็ผมช่วยคุ้มครองป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบ ช่วยลดริ้วรอย และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ยิ่งกว่านั้นยังช่วยปกป้องโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (cardiovascular disease) ต้านทาน rheumatiod arthritis มะเร็ง แล้วก็คุ้มครองปกป้องเชื้อไวรัส โทวัวฟีคอยล (tocopherols) ไฟโตสเตอรอคอยล (phytosterol) สารโทวัวฟีรอคอยลรวมทั้งฟลาโวนอยด์จากถั่วดาวอินคาช่วยลดการเสี่ยงต่อโรคหัวใจรวมทั้งโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ในส่วนของเปลือกรวมทั้งเม็ดเจอกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณลักษณะ anti-antherogenic, anti-thrombogenic และ hypercholesterolemic effect รวมทั้งยังช่วย ช่วยคุ้มครองป้องกันการแข็งตัวของเลือด ปกป้องโรคความดันเลือดสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และก็ปกป้องโรคเบาหวาน กระตุ้นความจำช่วยส่งเสริมความเจริญของสมองป้องกันโรคสมองเสื่อม ควบคุมความดันในดวงตา แล้วก็เส้นเลือด ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้ ในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดรูปแบบ / ขนาดการใช้หรือขนาดกินดาวอินค้างอย่างแน่ชัด โดยบางการค้นคว้าบอกว่า เม็ดดาวอินคารับประทานไม่ได้ ด้วยเหตุว่ามีสารกรุ๊ปที่ยับยั้งกานดำเนินงานของเอ็นไซม์ทริปซิน (trypsin inhibitor) แต่ว่าสามารถนำมาหีบเอาน้ำมันมาใช้รับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันดาวอินคาและบางงานศึกษาเรียนรู้ระบุว่าเม็ดดาวอินติดอยู่สามารถรับประทานได้เมื่อทำให้สุกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากอยากกินเพื่อคุ้มครองแล้วก็เยียวยารักษาโรคควรขอคำแนะนำหมอหรือผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นการดีที่สุด การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ก่อนหน้าที่ผ่านมามีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยทางคลินิกที่ศึกษาถึงผลของน้ำมันดาวอินค้าง ว่ามีคุณลักษณะที่สามารถน้ามาใช้แทนโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในน้้ามันปลาได้หรือไม่ โดยมีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เรียนผลของน้ำมันจากดาวอินค้างต่อการลดระดับไขมันในเลือด ทดลองในผู้เจ็บป่วยที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยให้รับประทานน้ำมันที่สกัดจากดาวอินคา 5 หรือ10 มล.เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าทั้ง 2 กรุ๊ปมีผลคลอ-เรสเตอคอยลทั้งปวงรวมทั้งไขมันที่ไม่จ้าเป็นในเลือดต่ำลง แล้วก็เพิ่มระดับไขมันเอชดีแอล แสดงให้เห็นถึงว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในดาวอินคาออกฤทธิ์คล้ายกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สกัดออกมาได้จากน้ำมันปลา การเล่าเรียนทางพิษวิทยา สำหรับความปลอดภัยในการรับประทานน้ำมันดาวอินค้าง ได้มีงานค้นคว้าวิจัย ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองอายุระหว่าง 25-55 ปีจัดจ้านวน 30 คน เป็นเพศผู้ 13 คน และก็ผู้หญิง 17 คน รับประทานน้ำมันดาวอินคา วันละ 10-15 มิลลิลิตร โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันปริมาณเท่ากัน เวลาเช้า เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าผลกระทบที่เจอเป็นหลักในกลุ่มที่รับประทานน้ำมันดาวอินค้าง เช่นอาการอาเจียน เรอ ส่วนอาการอื่นๆที่พบบ้าง เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องผูก ส่วนผลกระทบที่เจอเป็นหลักในกลุ่มที่กินน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ดังเช่นว่าคลื่นไส้ท้องอืด ส่วนอาการอื่นๆที่พบบ้าง ดังเช่นว่า เจ็บท้อง ในส่วนของค่า รูปแบบการทำงานของตับตัวอย่างเช่น AST (Aspartate transaminase), ALT (Alanine Aminotransferase), GGT (Gammaglutamyl transferase), Alkaline Phosphatase, Total Bilirubin, Albumin, Total protein ค่าการท้างานของไต เช่น Creatinine ค่าการอักเสบ อย่างเช่น CRP แล้วก็ค่ากรดยูริค(Uric acid) ทั้งหมดนี้ไม่พบว่ามีความผิดธรรมดา ข้อแนะนำ / สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง 1. เพราะว่ายังไม่มีการกำหนดขนาดการใช้ดาวอินค้างอย่างแน่ชัด ฉะนั้นสำหรับเพื่อการใช้ปกป้องหรือบำบัดรักษาโรค ควรหารือแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ 2. ไม่สมควรใช้ติดต่อกันในปริมาณมากลเป็นเวลานานเนื่องจากว่าอาจมีผลต่อระบบต่างๆภายในร่างกาย 3. สำหรับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปของดาวอินค้าง ควรเลือดผลิตภัณฑ์ที่ตามมาตรฐานและก็ได้รับการรับรองจากหน่วยงานอาหารแล้วก็ยา เอกสารอ้างอิง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : คาวอินคา
|