|
หัวข้อ: สมุนไพร ดาวอินคา เริ่มหัวข้อโดย: dddd1752 ที่ ธันวาคม 06, 2018, 09:02:59 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542265195435.jpg)
ดาวอินคา ชื่อสมุนไพร ดาวอินคา ชื่ออื่นๆ ถั่วดาวอินคา ชื่อวิทยาศาสตร์ Plukenetia volubilis. ชื่อสามัญ sacha inchi, sacha mani , Inca peanut. วงศ์ Euphorbiaceae ถิ่นกำเนิด ดาวอินคาติดอยู่ เป็นพืชวงศ์ Euphorbiaceae เหมือนกันกับ ยางพารา สบู่ดำ หรือมันสำปะหลัง นับเป็นพืชเฉพาะถิ่นประเภทหนึ่ง มีถิ่นกําเนิดจากบริเวณลุ่มแม่น้ําอเมชอน ในประเทศประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมนุษย์รู้จักนำมาใช้คุณประโยชน์ตั้งแต่ยุคอินค้าง หรือในตอนปี ค.ศ. 1438-1533 แล้วก็ตกทอดมากันมาสู่คนท้องถิ่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งมีการนำดาวอินค้างมาใช้ประโยชน์มากมาย ทั้งนี้ จากต้นตอ และประวัติความเป็นมาที่ชาวอินคานำมาใช้ประโยชน์ ประเทศไทยจึงเรียกพืชจำพวกนี้ว่า ถั่วดาวอินติดอยู่ ในปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกดาวอินคาในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็มีการนำดาวอินคามาดัดแปลง ตัวอย่างเช่น น้ำมันดาวอินคาที่ได้จากการสกัด ถั่วดาวอินค้างอบเกลือ หรือถั่วดาวอินคาคั่ว สำหรับในประเทศไทยได้มีบริษัทเอกชนนำดาวอินคาเข้ามาสนับสนุนการปลูกทีแรก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มที่จังหวัดหนองคายด้วยเหตุว่ามีความเห็นว่ามีที่ตั้งภูมิศาสตร์เส้นทางการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสม และก็สามารถเชื่อมโยงไปสู่กลุ่มประเทศอินโดจีนได้กระทั่งมีการปลูกอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ในตอนนี้ ลักษณะทั่วไป ดาวอินคาจัดเป็นไม้เลื้อยเพราะเหตุว่ามีลำต้นเป็นไม้เลื้อยที่แก่นาน 10-50 ปี ลำต้นแตกกิ่งเป็นเถาเลื้อยได้ยาวมากมายว่า 2 เมตร เถาอ่อนมีสีเขียว เถาแก่หรือโคนเถามีสีน้ำตาล แก่นเถาแข็ง และก็เหนียว ใบของถั่วดาวอินคาเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบเป็นใบคนเดียว เรียงสลับเยื้องกันตามความยาวของเถา ใบมีรูปหัวใจ โคนใบกว้าง และเว้าตรงกลางเป็นฐานหัวใจ ส่วนปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด รวมทั้งมีร่องตื้นๆตามเส้นกิ่งก้านสาขาใบ ส่วนขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีก้านใบยาวราวๆ 2-4 ซม. ส่วนแผ่นใบกว้างโดยประมาณ 8-10 ซม. ยาวราว 12-18 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อตามซอกใบบนเถา แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็กจำนวนไม่น้อย ดอกมีลักษณะทรงกลม สีเขียวอมเหลือง เป็นดอกประเภทแยกเพส แต่ว่ารวมอยู่ในช่อดอก และก็ต้นเดียวกัน โดยดอกเพสภรรยาจะอยู่รอบๆโคนช่อดอก 2-4 ดอก ส่วนดอกเพศผู้มีเยอะมากๆถัดจากดอกเพศเมียมาจนถึงปลายช่อดอก ทั้งนี้ ถั่วดาวอินค้างจะติดดอกหนแรกเมื่ออายุราว 5 เดือน หลังเม็ดแตกหน่อรวมทั้งผลจะแก่ที่พร้อมเก็บได้โดยประมาณอีก 3-4 เดือน ข้างหลังออกดอกผลเรียกเป็นฝัก มีลักษณะเป็นแคปซูลที่แบ่งออกเป็นพูๆหรือแฉก 4-7 พูขนาดฝักกว้าง 3-5 เซนติเมตร เปลือกผลอ่อนมีสีเขียวสด และก็มีประสีขาวกระจัดกระจายทั่ว และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆกลายเป็นสีดำเมื่อสุก แล้วก็แก่จนถึงแห้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล พร้อมกับเปลือกปริแตกจนกระทั่งมองเห็นเมล็ดภายใน เม็ดดาวอินคาใน 1 ผลหรือฝัก จะมีจำนวนเม็ดตามพูหรือแฉก อาทิเช่น ฝักมี 5 พู ก็จะมี 5 เม็ด ถ้ามี 7 พู ก็จะมี 7 เม็ด โดยเม็ดจะแทรกอยู่ในแต่ละพูในแนวตั้งเม็ดมีรูปทรงกลม และแบน ขอบเม็ดบางแหลมตรงกลางเม็ดนูนเด่น ขนาดเม็ดกว้าง 1.5-2.0 ซม. ยาว1.8-2.2 เซนติเมตร น้ำหนักเม็ดเฉลี่ย 1.5 กรัม/เม็ด เปลือกเม็ดเป็นแผ่นบาง มีสีน้ำตาลอมดำ ถัดมาจากเปลือกเป็นเนื้อเมล็ดที่มีสีขาว เนื้อเมล็ดเมื่อคั่วสุกจะกรอบ แล้วก็มีรสมันอร่อย มีน้ำมันจำนวนมาก การขยายพันธุ์ ดาวอินคาสามารเติบโตได้ดีในลักษณะอากาศอุ่น ที่อุณหภูมิ 10-36 องศาเซลเซียสที่มีความสูงตั้งแต่100-2000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่สามารถปลุกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในการเพาะพันธุ์สามารถแพร่พันธุ์โดยเม็ด โดยการนำเมล็ดที่แก่แล้วมาเพาะในถุงสีดำ เมื่อต้นสูงราว 30 เซนติเมตร จึงย้ายปลูกหรือหยอดเมล็ดในหลุมปลูกเลยก็ได้ ระยะปลูก 2 x 3 ถึง 2 x 4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 200 – 300 ต้น เป็นพืชที่เกลียดชังน้ำขังแฉะในพื้นที่ต่ำควรจะยกร่อง ทำค้างสำหรับให้ต้นเลื้อยพัน โดยใช้อุปกรณ์ในพื้นที่ ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้มักใช้ท่อพีวีซีเป็นเสาหลักแล้วใช้สายโทรศัพท์เก่าขึงระหว่างเสาเป็นค้างสำหรับให้ยอดเลื้อยพัน ส่วนปุ๋ยที่ใช้ควรจะเป็นปุ๋ยธรรมชาติ โดยปกติดาวอินค้างสามารถให้ผลผลิต 600 – 800 กก.ต่อไร่รวมทั้งได้ผลผลิตนาน 15 – 50 ปี อย่างยิ่งจริงๆ และก็น้ำมัน (35-60%) โดยมีกรดไขมันชนิด omega-3 ตัวอย่างเช่นlinolenic acid ราวๆ 45-53% (12.8–16.0 g/100 g seed) , omega-6 ได้แก่ linoleic acid ราวๆ 34-39% (12.4–14.1 g/100 g seed) รวมทั้ง omega-9 ประมาณ 6-10% ของไขมันทั้งสิ้น อัตราส่วนของ omega-6 /omega-3 อยู่ในช่วง 0.83–1.09 นอกเหนือจากนี้มี phytosterols ตัวอย่างเช่น beta-sitosterol และก็stigmasterol สารที่มีฤทธิ์ต้านทานออกซิเดชันอาทิเช่น วิตามินอีในรูป tocopherols สารกรุ๊ปฟีโนลิก รวมทั้งแคโรทีนอยด์ รวมทั้งกรดอะไม่โยหลากหลายประเภทดังเช่นว่า ซิสเตอีน (cysteine) ไทโรซีน (tyrosine) ทรีโอนีน (threonine) แล้วก็ทริปโตเฟน (tryptophan) ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดดาวอินค้าง (คั่วเกลือจำนวน 100 กรัม) พลังงาน 607 กิโลแคลอรี โปรตีน 32.14 กรัม ไขมันทั้งหมด 46.43 กรัม คาร์โบไฮเดรต 17.86 กรัม น้ำตาล 3.57 กรัมแคลเซียม 143 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 4.59 มก. โซเดียม 643 มิลลิกรัม ผลดี/คุณประโยชน์ เม็ดดาวอินคาสามารถใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมก็อบแก็บ อย่างเช่น ถั่วคั่วเกลือ ถั่วทอด หรือ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของกิน อาทิเช่น ซอส ซีอิ้วเต้าเจี้ยว รวมถึงดัดแปลงเป็นแป้ง ดาวอินคาสำหรับใช้เตรียมอาหารและก็ทำอาหารหวาน ในปัจจุบันนิยมนำเมล็ดดาวอินคานำมาสกัดน้ำมัน ซึ่งเอาไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น ใช้เป็นน้ำมันกินเพื่อเป็นอาหารเสริมให้แก่ร่างกาย โดยมักผลิตในรูปบรรจุขวดหรือบรรจุแคปซูลพร้อมกิน ใช้เป็นน้ำมันทอดหรือปรุงอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งตัว อาทิเช่น โฟมสำหรับล้างหน้า สบู่ น้ำหอม แล้วก็ครีมสำหรับดูแลผิว น้ำมันที่สกัดได้ใช้สำหรับทานวดแก้ปวดเมื่อย รวมถึงใช้ชโลมผมให้ดกดำ และก็จัดทรงง่าย ส่วน คุณประโยชน์ของดาวอินค้าง มีดังนี้ สารสำคัญที่เจอในเมล็ดดาวอินคา ตัวอย่างเช่นกรดไขมันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง omega-3 และ phytosterols นั้นมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดนอกนั้นสารต้านขบวนการออกซิเดชัน อย่างเช่น tocopherols สารกรุ๊ปฟีโนลิก และแคโรทีนอยด์ สามารถต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการออกสิเดชันของไขมัน ก็เลยสามารถช่วย ลดไขมันในเลือด และคุ้มครองโรคหัวใจแล้วก็เส้นเลือดได้ แล้วก็กรดไขมันโอเมก้า 3 ในดาวอินคายังมีคุณประโยชน์ช่วยให้ร่างกายซับแคลเซียมมาบำรุตระหนี่รอบเดือนกก้าวหน้าขึ้น ทั้งยังช่วยรักษาความแข็งแรงของเยื่อห่อเซลล์ ลดการอักเสบของหลอดเลือด และลดความเสี่ยงโรคไขข้อได้อีกด้วย ทั้งยังในดาวอินคายังอุสูดดมไปด้วยวิตามินอี รวมทั้งวิตามินเอที่ช่วยบำรุงรักษาสุขภาพผิวและก็ผมช่วยปกป้องสารต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบ ช่วยลดริ้วรอย และช่วยบำรุงผิวให้เปียกชื้น ยิ่งไปกว่านี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (cardiovascular disease) ต้านทาน rheumatiod arthritis มะเร็ง แล้วก็ปกป้องไวรัส โทโคฟีคอยล (tocopherols) ไฟโตสเตอรอล (phytosterol) สารโทวัวฟีรอลรวมทั้งฟลาโวนอยด์จากถั่วดาวอินค้างช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) แล้วก็สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ในส่วนของเปลือกและก็เม็ดเจอกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณลักษณะ anti-antherogenic, anti-thrombogenic และ hypercholesterolemic effect รวมถึงยังช่วย ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แล้วก็คุ้มครองปกป้องเบาหวาน กระตุ้นความจำช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของสมองคุ้มครองป้องกันโรคสมองเสื่อม ควบคุมความดันในลูกตา รวมทั้งเส้นโลหิต แบบ/ขนาดวิธีการใช้ ในตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดแบบ / ขนาดการใช้หรือขนาดรับประทานดาวอินติดอยู่อย่างแน่ชัด โดยบางงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยบอกว่า เม็ดดาวอินค้างกินมิได้ ด้วยเหตุว่ามีสารกรุ๊ปที่ยั้งกานทำงานของเอ็นไซม์ทริปซิน (trypsin inhibitor) แต่ว่าสามารถเอามาหีบเอาน้ำมันมาใช้กินเพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันดาวอินติดอยู่และก็บางการวิจัยบอกว่าเมล็ดดาวอินติดอยู่สามารถกินได้เมื่อทำให้สุกแล้ว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหากปรารถนารับประทานเพื่อคุ้มครองป้องกันแล้วก็บรรเทาโรคควรจะขอคำแนะนำหมอหรือผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นการดีที่สุด การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ก่อนหน้านี้มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยทางคลินิกที่เรียนถึงผลของน้ำมันดาวอินคา ว่ามีคุณลักษณะซึ่งสามารถน้ามาใช้แทนโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในน้้ามันปลาได้ไหม โดยมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่เรียนรู้ผลของน้ำมันจากดาวอินคาต่อการลดระดับไขมันในเลือด ทดสอบในคนไข้ที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยให้รับประทานน้ำมันที่สกัดจากดาวอินติดอยู่ 5 หรือ10 มิลลิลิตรเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าทั้งยัง 2 กรุ๊ปส่งผลคลอ-เรสเตอรอลทั้งหมดทั้งปวงและก็ไขมันที่ไม่จ้าเป็นในเลือดต่ำลง และเพิ่มระดับไขมันเอชดีแอล ชี้ให้เห็นถึงว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในดาวอินคาออกฤทธิ์คล้ายกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สกัดออกมาได้จากน้ำมันปลา การศึกษาทางพิษวิทยา สำหรับความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรับประทานน้ำมันดาวอินค้าง ได้มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบอายุระหว่าง 25-55 ปีจ้านวน 30 คน เป็นเพศชาย 13 คน และเพศหญิง 17 คน รับประทานน้ำมันดาวอินติดอยู่ วันละ 10-15 มล. โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันจำนวนเท่ากัน ช่วงเช้า เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าผลกระทบที่พบเป็นหลักในกรุ๊ปที่รับประทานน้ำมันดาวอินค้าง ตัวอย่างเช่นอาการอ้วก เรอ ส่วนอาการอื่นๆที่เจอบ้าง ดังเช่น ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ เจ็บท้อง ท้องผูก ส่วนผลกระทบที่เจอเป็นหลักในกลุ่มที่รับประทานน้ำมันเม็ดดอกทานตะวัน ยกตัวอย่างเช่นอ้วกท้องขึ้น ส่วนอาการอื่นๆที่พบบ้าง อาทิเช่น ปวดท้อง ในส่วนของค่า การทำงานของตับดังเช่นว่า AST (Aspartate transaminase), ALT (Alanine Aminotransferase), GGT (Gammaglutamyl transferase), Alkaline Phosphatase, Total Bilirubin, Albumin, Total protein ค่าการท้างานของไต ได้แก่ Creatinine ค่าการอักเสบ ได้แก่ CRP รวมทั้งค่ากรดยูริค(Uric acid) ทั้งผองนี้ไม่พบว่ามีความผิดธรรมดา ข้อเสนอแนะ / ข้อควรปฏิบัติตาม 1. เพราะยังไม่มีการกำหนดขนาดการใช้ดาวอินคาอย่างแน่ชัด ด้วยเหตุนี้สำหรับในการใช้คุ้มครองปกป้องหรือรักษาโรค ควรจะขอความเห็นแพทย์หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ 2. ไม่ควรใช้ติดต่อกันในปริมาณมากลเป็นระยะเวลานานเนื่องจากบางทีอาจส่งผลต่อระบบต่างๆในร่างกาย 3. สำหรับในการเลือกใช้สินค้าที่ดัดแปลงของดาวอินค้าง ควรเลือดสินค้าที่ได้มาตรฐานแล้วก็ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารรวมทั้งยา เอกสารอ้างอิง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : คาวอินคา Tags : ดาวอินคา
|