หัวข้อ: ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกวิถีทางของความคุ้มค่า เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ ธันวาคม 06, 2018, 04:27:45 pm แม้สมาร์ทโฟนตัวหลักของค่าย Apple ในศักราช 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ซึ่งมาพร้อมออกแบบและคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและชัดเจนว่าราคาก็สูงเช่นกัน แต่กระนั้นหลายคนคงหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X เริ่มเพียง 15 นาที iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำตัวให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักคุ้นกัน โดยต่อมาคงเปรียบเสมือนคือรุ่นที่ถูกลืมเลือนเนื่องมาจากกระแสของ iPhone X แต่รู้ไหมว่า ไอโฟน 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus แม้นจะมีเค้าโครงหน้าตาไม่แตกต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ ข้าพเจ้าจักนำทุกท่านไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
ไอโฟน 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus เปิดจัดจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและจำหน่ายที่ประเทศไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องพอๆ กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่มีสมรรถนะในการกันน้ำ กันฝุ่น เหมือนกัน อย่างไรก็ดีมีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีด้านหลังคือกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้ ในส่วนของความจุนั้น Apple ก็มีมาให้คัดแค่เพียง 2 ขนาด เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ผู้ใช้ได้อย่างกว้างขวางพร้อมด้วยเร็วมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง แม้ว่าความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีหน้าจอให้ตรงกับสภาพแสงตอนนั้น เป็นเหตุให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core จำแนกเป็น 4-Core ที่ประสิทธิภาพสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอึ้งอะไร ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าดึงดูดคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปพร้อมทั้งเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกขั้นสูงสุด ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างจะเยอะ หรือ ROV ก็เล่นได้ไม่สะดุด กล้องได้พัฒนามาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล แม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้น ถ่ายรูปในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น ฉายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า “Portrait Lighting” เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพบุคคล เดิม ที่ให้เราเลือกปรับแสงหน้าคนได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายรูปหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมกับไฟแฟลชจากหน้าจอ Retina HD ในด้านการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพความเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะแลดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีแค่ 30fps) แต่เดี๋ยวนี้คุณเลือกสรรได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ท่อนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps เทคโนโลยีชาร์จไม่มีสายที่เพิ่มเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง มิจำเป็นต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple แค่นั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาขายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งในเวลานี้สามารถใช้แบรนด์อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge ตกลงว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้ว่าจะคงดีไซน์ตัวเครื่องเดิมทีตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชื่นชอบถ่ายภาพน่าจะติดใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องถ่ายรูปที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งแสงเงาในภาพได้หลากหลายแบบตามความประสงค์ ทำให้ขณะที่ออก วางตลาดใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดในตลาดมือถือ ส่วนจอที่ต้องตาต้องใจบวกกับความไหลลื่นและคุณลักษณะสำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองสมาร์ทโฟนตัวตัวท็อปใด ๆ ในเวลานี้ก็นับว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยื้อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชักชวนไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกสักหน่อย เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะทวีคูณยิ่งกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8
|