หัวข้อ: สมุนไพร ดาวอินคา เริ่มหัวข้อโดย: Petchchacha ที่ ธันวาคม 07, 2018, 08:29:55 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542265195435.jpg)
ดาวอินคา ชื่อสมุนไพร ดาวอินคา ชื่ออื่นๆ ถั่วดาวอินคา ชื่อวิทยาศาสตร์ Plukenetia volubilis. ชื่อสามัญ sacha inchi, sacha mani , Inca peanut. วงศ์ Euphorbiaceae ถิ่นกำเนิด ดาวอินคาติดอยู่ เป็นพืชตระกูล Euphorbiaceae เช่นเดียวกับ ยางพารา สบู่ดำ หรือมันสำปะหลัง นับเป็นพืชเฉพาะถิ่นชนิดหนึ่ง มีถิ่นกําเนิดจากบริเวณลุ่มแม่น้ําอเมซอน ในประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมนุษย์รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ยุคอินติดอยู่ หรือในช่วงปี ค.ศ. 1438-1533 และตกทอดมากันมาสู่คนพื้นถิ่นมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งมีการนำดาวอินคามาใช้ประโยชน์มากมาย ดังนี้ จากต้นกำเนิด แล้วก็ประวัติความเป็นมาที่ชาวอินคานำมาใช้ประโยชน์ ประเทศไทยจึงเรียกพืชจำพวกนี้ว่า ถั่วดาวอินติดอยู่ ในขณะนี้ก็มีการเพาะปลูกดาวอินคาในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็มีการนำดาวอินค้างมาแปรรูป อาทิเช่น น้ำมันดาวอินคาที่ได้จากการสกัด ถั่วดาวอินค้างอบเกลือ หรือถั่วดาวอินค้างคั่ว สำหรับในประเทศไทยได้มีบริษัทเอกชนนำดาวอินคาเข้ามาส่งเสริมการปลูกทีแรก เมื่อไม่กี่ปีให้หลัง โดยเริ่มที่จังหวัดหนองคายเนื่องจากเห็นว่ามีที่ตั้งภูมิศาสตร์เส้นทางการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงไปสู่กรุ๊ปประเทศอินโดจีนได้จนมีการปลูกอย่างมากมายในหลายพื้นที่ในปัจจุบัน ลักษณะทั่วไป ดาวอินคาจัดเป็นไม้เลื้อยเพราะเหตุว่ามีลำต้นเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุนาน 10-50 ปี ลำต้นแตกกิ่งเป็นเถาเลื้อยได้ยาวมากว่า 2 เมตร เถาอ่อนมีสีเขียว เถาแก่หรือโคนเถามีสีน้ำตาล แก่นเถาแข็ง รวมทั้งเหนียว ใบของถั่วดาวอินคาเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเยื้องกันตามความยาวของเถา ใบมีรูปหัวใจ โคนใบกว้าง และเว้ากึ่งกลางเป็นฐานหัวใจ ส่วนปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด และมีร่องตื้นๆตามเส้นแขนงใบ ส่วนขอบของใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ส่วนแผ่นใบกว้างโดยประมาณ 8-10 ซม. ยาวประมาณ 12-18 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อตามซอกใบบนเถา แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็กจำนวนไม่ใช่น้อย ดอกมีลักษณะทรงกลม สีเขียวอมเหลือง เป็นดอกประเภทแยกเพส แต่ว่ารวมอยู่ในช่อดอก แล้วก็ต้นเดียวกัน โดยดอกเพสภรรยาจะอยู่บริเวณโคนช่อดอก 2-4 ดอก ส่วนดอกเพศผู้มีเยอะๆถัดจากดอกเพศภรรยามาจนกระทั่งปลายช่อดอก ดังนี้ ถั่วดาวอินคาจะติดดอกทีแรกเมื่ออายุราวๆ 5 เดือน หลังเมล็ดแตกหน่อและผลจะแก่ที่พร้อมเก็บได้โดยประมาณอีก 3-4 เดือน หลังออกดอกผลเรียกเป็นฝัก มีลักษณะเป็นแคปซูลที่แบ่งได้เป็นพูๆหรือแฉก 4-7 พูขนาดฝักกว้าง 3-5 ซม. เปลือกผลอ่อนมีสีเขียวสด แล้วก็มีประสีขาวกระจายทั่ว แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสุก รวมทั้งแก่จนกระทั่งแห้งกลายเป็นสีน้ำตาล พร้อมทั้งเปลือกปริแตกจนกระทั่งเห็นเม็ดข้างใน เม็ดดาวอินค้างใน 1 ผลหรือฝัก จะมีปริมาณเมล็ดตามพูหรือแฉก เช่น ฝักมี 5 พู ก็จะมี 5 เม็ด แม้มี 7 พู ก็จะมี 7 เมล็ด โดยเมล็ดจะแทรกอยู่ในแต่ละพูในแนวตั้งเมล็ดมีรูปทรงกลม รวมทั้งแบน ขอบเม็ดบางแหลมตรงกลางเม็ดนูนเด่น ขนาดเมล็ดกว้าง 1.5-2.0 เซนติเมตร ยาว1.8-2.2 เซนติเมตร น้ำหนักเมล็ดเฉลี่ย 1.5 กรัม/เม็ด เปลือกเมล็ดเป็นแผ่นบาง มีสีน้ำตาลอมดำ ถัดมาจากเปลือกเป็นเนื้อเม็ดที่มีสีขาว เนื้อเมล็ดเมื่อคั่วสุกจะกรอบ แล้วก็มีรสมันอร่อย มีน้ำมันจำนวนมาก การขยายพันธุ์ ดาวอินค้างสามารเติบโตได้ดิบได้ดีในสภาพอากาศอุ่น ที่อุณหภูมิ 10-36 องศาเซลเซียสที่มีความสูงตั้งแต่100-2000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่สามารถปลุกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย สำหรับเพื่อการเพาะพันธุ์สามารถแพร่พันธุ์โดยเม็ด โดยการนำเม็ดที่แก่แล้วมาเพาะในถุงสีดำ เมื่อต้นสูงประมาณ 30 ซม. ก็เลยย้ายปลูกหรือหยอดเม็ดในหลุมปลูกเลยก็ได้ ระยะปลูก 2 x 3 ถึง 2 x 4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 200 – 300 ต้น เป็นพืชที่รังเกียจน้ำนองเฉอะแฉะในพื้นที่ต่ำควรจะยกร่อง ทำค้างสำหรับให้ต้นเลื้อยพัน โดยใช้วัสดุในพื้นที่ ที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้มักใช้ท่อพีวีซีเป็นเสาหลักแล้วใช้สายโทรศัพท์เก่ากางระหว่างเสาเป็นค้างสำหรับให้ยอดเลื้อยพัน ส่วนปุ๋ยที่ใช้ควรจะเป็นปุ๋ยธรรมชาติ โดยธรรมดาดาวอินติดอยู่สามารถได้ผลผลิต 600 – 800 กก.ต่อไร่และก็ได้ผลผลิตนาน 15 – 50 ปี อย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็น้ำมัน (35-60%) โดยมีกรดไขมันจำพวก omega-3 ได้แก่linolenic acid ประมาณ 45-53% (12.8–16.0 g/100 g seed) , omega-6 อาทิเช่น linoleic acid โดยประมาณ 34-39% (12.4–14.1 g/100 g seed) รวมทั้ง omega-9 โดยประมาณ 6-10% ของไขมันทั้งหมด อัตราส่วนของ omega-6 /omega-3 อยู่ในช่วง 0.83–1.09 ยิ่งกว่านั้นมี phytosterols ได้แก่ beta-sitosterol รวมทั้งstigmasterol สารที่มีฤทธิ์ต่อต้านออกซิเดชันได้แก่ วิตามินอีในรูป tocopherols สารกลุ่มฟีโนลิก รวมทั้งแคโรทีนอยด์ รวมถึงกรดอะมิโยหลายอย่างยกตัวอย่างเช่น สิสเตอีน (cysteine) ไทโรซีน (tyrosine) ทรีโอนีน (threonine) และก็ทริปโตเฟน (tryptophan) ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของเม็ดดาวอินติดอยู่ (คั่วเกลือจำนวน 100 กรัม) พลังงาน 607 กิโลแคลอรี โปรตีน 32.14 กรัม ไขมันทั้งหมด 46.43 กรัม คาร์โบไฮเดรต 17.86 กรัม น้ำตาล 3.57 กรัมแคลเซียม 143 มก. ธาตุเหล็ก 4.59 มก. โซเดียม 643 มก. คุณประโยชน์/สรรพคุณ เม็ดดาวอินคาสามารถใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่น เช่น ถั่วคั่วเกลือ ถั่วทอด หรือ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของกิน เช่น ซอส ซีอิ้วเต้าเจี้ยว รวมถึงดัดแปลงเป็นแป้ง ดาวอินติดอยู่สำหรับใช้ปรุงอาหารรวมทั้งทำอาหารหวาน ในตอนนี้นิยมนำเม็ดดาวอินคานำมาสกัดน้ำมัน ซึ่งใช้ประโยชน์คุณประโยชน์ในหลายด้าน อย่างเช่น ใช้เป็นน้ำมันกินเพื่อเป็นอาหารเสริมให้แก่ร่างกาย โดยมักผลิตในรูปบรรจุขวดหรือใส่แคปซูลพร้อมกิน ใช้เป็นน้ำมันทอดหรือเข้าครัว ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ดังเช่น โฟมล้างหน้า สบู่ น้ำหอม แล้วก็โลชั่นสำหรับบำรุงผิว น้ำมันที่สกัดได้ใช้สำหรับทานวดแก้ปวดเมื่อย รวมทั้งใช้ทาผมให้ดกดำ และก็จัดทรงง่าย ส่วน คุณประโยชน์ของดาวอินคา มีดังนี้ สารสำคัญที่พบในเม็ดดาวอินคา ดังเช่นว่ากรดไขมันโดยยิ่งไปกว่านั้น omega-3 แล้วก็ phytosterols นั้นมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดยิ่งไปกว่านี้สารต่อต้านออกซิเดชัน อย่างเช่น tocopherols สารกลุ่มฟีโนลิก แล้วก็แคโรทีนอยด์ สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระและก็คุ้มครองป้องกันการออกสิเดชันของไขมัน จึงสามารถช่วย ลดไขมันในเลือด และคุ้มครองป้องกันโรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือดได้ รวมทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 ในดาวอินคายังมีสรรพคุณช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมมาบำรุขี้ตระหนี่ประจำเดือนกได้ดิบได้ดีขึ้น ทั้งยังยังช่วยรักษาความแข็งแรงของเยื่อหุ้มห่อเซลล์ ลดการอักเสบของเส้นเลือด แล้วก็ลดความเสี่ยงโรคไขข้อได้อีกด้วย อีกทั้งในดาวอินคายังอุดมไปด้วยวิตามินอี แล้วก็วิตามินเอที่ช่วยบำรุงรักษาสุขภาพผิวและผมช่วยคุ้มครองสารต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบ ช่วยลดริ้วรอย รวมทั้งช่วยทำนุบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ยิ่งไปกว่านี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (cardiovascular disease) ต้าน rheumatiod arthritis โรคมะเร็ง และก็ปกป้องไวรัส โทโคฟีรอคอยล (tocopherols) ไฟโตสเตอคอยล (phytosterol) สารโทโคฟีรอคอยลแล้วก็ฟลาโวนอยด์จากถั่วดาวอินคาช่วยลดการเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ในส่วนของเปลือกแล้วก็เมล็ดพบกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติ anti-antherogenic, anti-thrombogenic รวมทั้ง hypercholesterolemic effect รวมถึงยังช่วย ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด คุ้มครองป้องกันโรคความดันเลือดสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แล้วก็คุ้มครองปกป้องเบาหวาน กระตุ้นความจำช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองคุ้มครองโรคสมองเสื่อม ควบคุมความดันในดวงตา และก็เส้นเลือด ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้ ในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดแบบ / ขนาดการใช้หรือขนาดกินดาวอินคาอย่างแน่ชัด โดยบางงานศึกษาค้นคว้าวิจัยระบุว่า เม็ดดาวอินคารับประทานมิได้ เนื่องด้วยมีสารกรุ๊ปที่ยับยั้งกานดำเนินการของเอ็นไซม์ทริปสิน (trypsin inhibitor) แม้กระนั้นสามารถเอามาหีบเอาน้ำมันมาใช้รับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันดาวอินค้างแล้วก็บางงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยระบุว่าเมล็ดดาวอินค้างสามารถกินได้เมื่อทำให้สุกแล้ว แต่ว่าอย่างไรก็ดีแม้ต้องการกินเพื่อคุ้มครองป้องกันและบำบัดรักษาโรคควรขอความเห็นแพทย์หรือผู้ที่มีความชำนาญก็จะเป็นเรื่องดีที่สุด การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา ที่ผ่านมามีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยทางคลินิกที่ศึกษาเล่าเรียนถึงผลของน้ำมันดาวอินคา ว่ามีคุณลักษณะซึ่งสามารถน้ามาใช้แทนโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในน้้ามันปลาได้หรือไม่ โดยมีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ศึกษาเล่าเรียนผลของน้ำมันจากดาวอินติดอยู่ต่อการลดระดับไขมันในเลือด ทดสอบในคนป่วยที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยให้รับประทานน้ำมันที่สกัดจากดาวอินคา 5 หรือ10 มิลลิลิตรเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าทั้ง 2 กรุ๊ปมีผลคลอ-เรสเตอรอลทั้งผองและไขมันที่ไม่แรงเป็นในเลือดน้อยลง แล้วก็เพิ่มระดับไขมันเอชดีแอล บ่งบอกถึงถึงว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในดาวอินติดอยู่ออกฤทธิ์ละม้ายกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สกัดออกมาได้จากน้ำมันปลา การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา สำหรับความปลอดภัยในการรับประทานน้ำมันดาวอินติดอยู่ ได้มีงานค้นคว้าวิจัย ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบอายุระหว่าง 25-55 ปีจ้านวน 30 คน เป็นเพศผู้ 13 คน และก็เพศหญิง 17 คน รับประทานน้ำมันดาวอินค้าง วันละ 10-15 มล. โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันปริมาณเสมอกัน ตอนเวลาเช้า เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าผลกระทบที่พบเป็นหลักในกรุ๊ปที่รับประทานน้ำมันดาวอินติดอยู่ ตัวอย่างเช่นอาการอ้วก เรอ ส่วนอาการอื่นๆที่พบบ้าง ได้แก่ ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ เจ็บท้อง ท้องผูก ส่วนผลข้างเคียงที่เจอเป็นหลักในกรุ๊ปที่กินน้ำมันเม็ดดอกทานตะวัน อาทิเช่นอ้วกอาการท้องอืด ส่วนอาการอื่นๆที่เจอบ้าง เช่น ปวดท้อง ในส่วนของค่า รูปแบบการทำงานของตับยกตัวอย่างเช่น AST (Aspartate transaminase), ALT (Alanine Aminotransferase), GGT (Gammaglutamyl transferase), Alkaline Phosphatase, Total Bilirubin, Albumin, Total protein ค่าการท้างานของไต อาทิเช่น Creatinine ค่าการอักเสบ ตัวอย่างเช่น CRP และค่ากรดยูริค(Uric acid) ทั้งสิ้นนี้ไม่พบว่ามีความผิดปกติ ข้อเสนอ / ข้อควรคำนึง 1. เพราะยังไม่มีการกำหนดขนาดการใช้ดาวอินคาอย่างแน่ชัด ดังนั้นในการใช้คุ้มครองป้องกันหรือเยียวยาโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ชำนาญ 2. ไม่สมควรใช้ติดต่อกันในปริมาณมากลเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพราะเหตุว่าอาจมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกาย 3. สำหรับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดัดแปลงของดาวอินคา ควรเลือดสินค้าที่ตามมาตรฐานแล้วก็ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารแล้วก็ยา เอกสารอ้างอิง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : คาวอินคา
|