หัวข้อ: สมุนไพรมะระจีน สรรพคุณเเละประโยชน์ เริ่มหัวข้อโดย: t5t45y56 ที่ ธันวาคม 08, 2018, 09:53:35 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542858791579.jpg)
มะระจีน ชื่อสมุนไพร มะระจีน ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะระ (ทั่วไป) ชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica charantia Linn. var. maxima Williums & Ng ชื่อสามัญ Bitter Gourd ,Balsam apple, Leprosy Gourd, Bitter melon วงศ์ CUCURBITACEAE ถิ่นกำเนิด มะระจีนมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนทวีปเอเชีย และก็ทวีปแอฟริกา เป็นพืชที่มีการปลูกเอาไว้ภายในแถบประเทศเขตร้อนอย่างล้นหลาม โดยมีการปลูกกันในหลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่นจีนอินเดีย , ประเทศพม่า , ไทย , เวียดนาม อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในประเทศไทยปลูกมากในภาคเหนือ ซึ่งมีการปลูกหลายสายพันธุ์ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีลักษณะเหลี่ยม เถาเลื้อยมีสีเขียว มีขนเล็กๆจะมีมือเกาะบนเถา อยู่รอบๆใต้ข้อต่อของใบ • ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันคนละข้างตามเถา มีลักษณะเป็นแฉกเว้าลึก 5 แฉก โคนใบมีลักษณะกลม มีก้านใบยาว ใบมีสีเขียว มีขนสากเล็กๆมีมือเกาะยื่นออกมาจากที่ข้อ • ราก เป็นระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลม แทงลึกลงดิน มีรากแขนงและก็รากฝอยเล็กๆแทงออกตามบริเวณมีสีน้ำตาล • มือเกาะ มีลักษณะกลม เป็นเส้นเล็กๆเหมือนหนวดขนาดเล็กๆแตกออกบริเวณข้อใต้ใบของเถา ปริมาณมือเกาะ 1 เส้นต่อข้อ ส่วนปลายมีขนาดเล็กสุดม้วนงอ จะม้วนงอเข้ายึดเกาะรอบตัว ยึดลำต้นเพื่อเลื้อยแผ่ขึ้นที่สูง ใช้มือเกาะใช้ปลายหนวดม้วนใช้ยึดของ เป็นเกลียวพันรอบเหมือนสปริง • ดอก ดอกเป็นดอกผู้เดียว มีลักษณะรูประฆัง กลีบดอกจะมีเหลือง ก้านดอกยาว ออกตามซอกใบ • ผล มีลักษณะทรงยาวรี เปลือกบาง ผิวตะปุ่มตะป่ำมีร่องลึกตามแนวยาว ผลใหญ่เนื้อครึ้ม ผลดิบจะมีสีเขียวอ่อน ใช้กิน เมื่อผลสุกจะมีสีแดง แต่กินไม่ได้ ภายในผลจะมีหลายเมล็ด มีเนื้อฉ่ำน้ำ มีรสชาติขม • เม็ด จะอยู่ด้านในผล จะมีเมล็ดเล็กๆเยอะแยะ เรียงอยู่ด้านในผล เม็ดมีลักษณะกลมแบนรี ผิวเรียบ เปลือกเม็ดแข็ง สีน้ำตาล การขยายพันธุ์ มะระจีนเป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย โดยมะระจีนเป็นพืชปีเดียว สามารถปลูกได้ทุกฤดู รวมทั้งปลูกขึ้นเจริญกับดินแทบทุกชนิด แต่ดินควรจะมีความชุ่มชื้นสูงสม่ำเสมอ แล้วก็ควรได้รับแสงแดดสุดกำลังตลอดวัน มะระจีนที่ปลูกลงในประเทศส่วนมากแก่เก็บเกี่ยวราวๆ 45-50 วัน การเก็บมะระควรเก็บวันเว้นวัน เลือกผลที่โตได้ขนาด มีสีเขียวยังไม่แก่เกินไป ถ้าหากเริ่มมีสีขาวรวมทั้งเริ่มแตกนับว่าแก่เกินไป สำหรับวิธีการขยายพันธุ์สามารถเพาะพันธุ์โดยกรรมวิธีการหยอดเมล็ดหรือปลูกจากต้นกล้าเพียงแค่นั้น โดยมีวิธีการดังนี้ การเตรียมดิน ทำไถกระพรวนดิน พร้อมกำจัดวัชพืช แล้วก็ผึ่งแดดประมาณ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทดิน แล้วทำแนวปลูกด้วยการกางเชือกหรือกะระยะ ในระยะระหว่างแถว 1-1.5 เมตร แล้วทำไถตามจุดของแนวปลูกตามแนวยาวของแปลงให้เป็นร่องลึกประมาณ 30 ซม.หลังจากนั้นหว่านโรยปุ๋ยธรรมชาติหรือขี้วัว ปริมาณ 1000 กก./ไร่ แล้วก็ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 30 กก./ไร่ แล้วทำการไถกลบหรือกลบแนวร่อง ตากดิน 2-3 วัน การเตรียมกล้า ทำการเพาะกล้าในกระบะเพาะกล้า โดยใส่ดินผสมมูลสัตว์หรือวัสดุอื่นๆได้แก่ เถ้า กากมะพร้าว แล้วรดน้ำให้เปียกแฉะ วันละ 1-2 ครั้ง รุ่งเช้า-เย็น หากกล้าเริ่มแตกใบ 4-6 ใบ หรือ 15-20 วัน สามารถเอามาปลูกได้ กรรมวิธีการปลูก การปลูกด้วยกล้ามะระ ให้ปลูกเอาไว้ภายในระยะห่างของหลุม 1.5-2 เมตร แม้กระนั้นหากเป็น การปลูกด้วยการหยอดเม็ด ให้หยอดเม็ด 1-2 เมล็ด/หลุม ในระยะห่างของหลุมเช่นเดียวกัน หลังการปลูกหรือหยอดเมล็ดเสร็จ ต้องรดน้ำหลุมปลูกให้ชุ่ม องค์ประกอบทางเคมี ส่วนประกอบทางเคมีแล้วก็สารออกฤทธิ์ จากส่วนต่างๆของมะระจีน อาทิเช่น ผล เม็ด ใบ ลำต้น เอนโดสเปิร์ม รวมทั้งแคลลัส มีสารสำคัญมากถึง 228 ประเภท ที่บางทีก็อาจจะออกฤทธิ์แบบผู้เดียวๆหรือ ออกฤทธิ์แบบด้วยกัน charantin, polypeptide-p, vicine, momordin และก็สารอนุพันธ์ที่คล้ายกัน อาทิเช่น momordinol, momordicilin, momorcharin, momordicin , Gallic acid , Caffeic acid และ Catechin ฯลฯส่วนคุณค่าทางโภชนาการของมะระจีน (100 กรัม) มี ใยอาหาร2.8 กรัม เถ้า 1.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม ไขมัน 0.17 กรัม พลังงาน 17 กิโลแคลอรี วิตามิน A 380 มก. วิตามิน B1 0.04 มิลลิกรัม วิตามิน B2 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B3 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B5 0.212 มก. วิตามิน B6 0.043 มก. วิตามิน C 84 มิลลิกรัม สังกะสี 0.8 มก. แคลเซียม 19 มก. ทองแดง 0.034 ไมโครกรัม เหล็ก 0.43 มก. แมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.089 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 296 ไมโครกรัม โซเดียม 5 มิลลิกรัม ผลดี/สรรพคุณ มะระจีนนิยมนำมาทำเป็นของกิน ดังเช่น ต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือแกงจืดยัดไส้หมูสับบ้างพลิกแพลง นำมะระมาหั่นเป็นแว่นบางๆชุบไข่ทอด แบบชะอมหรือมะเขือยาว หรือจะใช้ฝานเป็นแว่นบางๆจิ้มกับน้ำพริก หรือจะทำมะระผัดไข่ก็นิยมรับประทานกันมาก ซึ่งมะระจีนนับว่าเป็นผักที่นิยมรับประทานมากมายสำหรับคนที่มีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน เนื่องด้วยมีสารประกอบหลายประเภท เช่น แคแรนทิน (charantin), โพลีเปปไทด์ พี (p-insulin) และก็วิสิน (vicine) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนสรรพคุณทางยาตามตำรายาไทยบอกว่า ราก แก้พิษ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ฝาดสมาน ยาบำรุง เถา บำรุงน้ำดี ยาระบายอ่อนๆเจริญอาหาร ใบ แก้ไข้ ดับพิษร้อน ขับพยาธิ ขับลม ดอก แก้พิษ แก้บิด ผล ขับลม ดับพิษร้อนแก้พิษฝี แก้ฟกบวม แก้อักเสบ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ เจริญอาหาร บำบัดเบาหวาน แล้วก็เม็ด แก้พิษ บำรุงธาตุนอกจากนั้นแบบเรียนยาแผนโบราณในต่างแดนได้มีการใช้มะระแก้เบาหวาน อย่างเดียวกัน เป็นต้นว่า อินเดีย ประเทศปากีสถาน ศรีลังกา แอฟริกาตะวันตก ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย และอังกฤษ เป็นต้น สำหรับในการแพทย์แผนปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยกล่าวว่า มะระจีนมีฤทธิ์ต่อต้านโรคเบาหวาน ช่วยระบายแล้วก็ฆ่าเชื้อโรค โดยทางด้านการแพทย์แผนไทยใช้เข้าตำรับยาแก้ไข้ที่มีลักษณะติดเชื้อโรคต่างๆสารต่อต้านโรคเบาหวานในมะระจีนเช่นสารชาแรนทิน ซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคเบาหวานได้ดียิ่งไปกว่ายา tolbutamide ยิ่งไปกว่านี้ เจอ สารไวซีน (vicine) โพลีเพปไทด์-พีแล้วก็สารออกฤทธิ์อื่นที่ กำลังศึกษากันอยู่ โพลีเพปไทด์-พี ออกฤทธิ์ลดน้ำตาลใน เลือดเมื่อฉีดแบบอินซูลินให้กับคนเจ็บเบาหวานประเภท ฤทธิ์ต่อต้านโรคเบาหวานของมะระจีนได้ถูกเรียนเป็นอย่างมาก ทั้งโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์ การเรียนรู้ในสัตว์ทดสอบ แล้วก็การศึกษาเล่าเรียนทางคลินิก สารจากมะระจีนได้ผลทั้งในทางการควบคุมปริมาณการหลั่งอินซูลินและเปลี่ยนเมแทบอลิซึมของเดกซ์โทรส การแพทย์หนทางของสหรัฐอเมริกาเสนอแนะการใช้น้ำคั้นผลมะระจีน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดคนไข้โรคเบาหวาน รูปแบบ / ขนาดการใช้ • แก้อาการป่วยไข้ ให้นำมะระจีนอีกทั้ง 5 คือ ดอก ผล ใบ ราก และก็เถาอย่างละ 1 กำมือใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มจนกระทั่งเดือด กินครั้งละ 1 แก้ว ก่อนกินอาหาร วันละ 3 - 4 ครั้งติดต่อกันเพียง 3-4 วันก็จะหายไข้ • แก้อาการคอแหบ เสียงไม่มี เพราะโรคหวัด นำผลมะระจีนต้มรับประทาน หรือใช้ประกอบเป็นของกินช่วยรักษาให้ดีขึ้นกว่าเดิมจนถึงหายสนิทได้ • ให้นำมะระจีนใกล้สุก มาหั่นอีกทั้งเนื้อแล้วก็เม็ดแล้วค่อยนำไปตากแดดให้แห้ง คั่วจนถึงหอมแล้วตำให้รอบคอบผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอนขนาดหัวแม่มือกินทีละ 1 เม็ดก่อนนอน แก้ท้องผูก • บำรุงสายตา ให้นำผลมะระจีนแล้วก็ยอดอ่อนมาปรุงอาหารตามใจชอบ ควรจะกินวันเว้นวันเป็นประจำ สายตาจะดีขึ้น • บำรุงเลือด • ชูกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ให้นำเม็ดมะระจีนแก่จัดมาตากแห้งแล้วแกะเปลือกนอกออก ใช้เนื้อในบดกระทั่งละเอียดละลายน้ำร้อนรับประทานครั้งละ 1 ช้อนชาวันละ 1 ครั้งที่แล้วนอน ติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้น 2 อาทิตย์ กินอีก 2 อาทิตย์ จะทำให้เจริญอาหารมีกำลังขึ้น ยาขนานนี้ยังช่วยขับพยาธิตัวเล็กได้อีกด้วย • ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากยุ่ย แก้ตับม้ามพิการ แก้อักเสบ ฟกช้ำบวม ใช้ทาด้านนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคาย อักเสบ การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา มีการเรียนถึงผลของมะระจีนในมนุษย์หลายการเรียนรู้ทั้งยังในคนที่มีสุขภาพดีแล้วก็คนเจ็บเบาหวานประเภทต่างๆพบว่า มีหลายการศึกษาวิจัยที่แถลงการณ์ว่าสารสกัดหรือน้ำจากผลมะระมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้โดยการเรียนรู้พบฤทธิ์รักษาเบาหวานของมะระจีนเริ่มตั้งแต่ปี 1942 โดยพบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกระต่าย และเสริมฤทธิ์ยาลดน้ำตาลในกระต่ายที่เป็นโรคเบาหวาน ก็เลยได้มีผู้เล่าเรียนฤทธิ์ของมะระในสัตว์ทดสอบต่างๆอาทิเช่นกระต่าย หนูขาว หนูถีบจักร แมว gerbils ลิง ตลอดจนการทดสอบทางสถานพยาบาล ซึ่งสำหรับในการทดสอบได้ใช้มะระจันทั้งในรูปสารสกัดด้วยอัลกอฮอล์ สารสกัดด้วยอะซีโตนสารสกัดด้วย้ำในรูปผลแห้งและก็น้ำคั้น แล้วก็ได้มีผู้ทดลองสกัดแยกสารซึ่งมีฤทธิ์ลดเบาหวาน ตัวอย่างเช่น charantin , polypeptide , polypeptide P รวมทั้ง purified proteinสำหรับกลไกการออกฤทธิ์ พบว่ามะระจีนมีฤทธิ์เสมือนอินซูลินแล้วก็กระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ เพิ่มการใช้น้ำตาลเดกซ์โทรสในเยื่อต่างๆโดยไปเพิ่ม tissue respiration เมื่อให้น้ำคั้นผลมะระจีนก่อนให้น้ำตาลเดกซ์โทรส พบว่ามีการนำเดกซ์โทรสไปใช้ก็เลยมีการสะสมของglycogen ในตับรวมทั้งกล้าม ซึ่งบางทีอาจเนื่องจากไปรีบการหลั่งอินซูลิน และก็รีบการดูดซึมของกลูโคสก็ได้ ยิ่งกว่านั้นน้ำคั้นยังมีผลต่อ gluconegensis ในไตคล้ายกับสาร hypoglycin ซึ่งลดน้ำตาลเนื่องมาจากเบาหวาน แล้วก็พบว่าการทดลองให้หนูที่รั้งนำด้วย strepotozotocin ให้เป็นโรคเบาหวาน มะระจีนไม่ได้ผล อาจเพราะเบต้าเซลล์ถูกทำลายไปแล้วไม่เพียงแค่มีการทดลองโดยใช้ผลมะระจีนแค่นั้น ยังมีการทดลองผลของเม็ดมะระจีนอีกด้วย จากการเล่าเรียนของนักวิจัยในประเทศฮ่องกง พบว่าในเมล็ดมีสารซึ่งมีฤทธิ์เหมือนกับอินซูลินซึ่งถัดมาได้พบว่า คือ α-momorcharin, β-momorcharin , α-trichosantin แล้วก็เลคติน ในเวลาใกล้ๆกัน ได้มีหัวหน้าเมล็ดมะระมาสกัดด้วย 50% เมทานอล และ 0.9% น้ำเกลือ เมื่อนำสารสกัดไปทดสอบในหนูซึ่งอดอาหาร พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำลง และสารสกัดเมทานอลแล้วก็น้ำเกลือยังปกป้องไม่ให้ adrenaline ไปรั้งนำให้เกิดเบาหวานโดยมีแถลงการณ์ว่า สารสกัดมะระจีนยั้ง glucose optake ใน cell Ehrlich ascites tumor cell ซึ่งใช้เป็นการตรวจทานพื้นฐานของพืชที่ยับยั้งโรคเบาหวาน มีการเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของตำรับยาซึ่งมีมะระจีนเป็นส่วนประกอบ (ไม่ระบุชนิดของสารสกัด) โดยฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาด 0.1 กรัม/กิโลกรัม พบว่าลดน้ำตาลในเลือด เมื่อทดสอบฉีดสารสกัดอินซูลินจากมะระจีนเข้าทางช่องท้องหรือให้ทางปากหนูขาวปกติ และก็หนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นโรคเบาหวาน ด้วย alloxan หรือ streptozotocin พบว่าน้ำตาลในเลือดน้อยลง ถัดมามีการเล่าเรียนผลของสารสกัดเมทานอล:น้ำ ของดอกแห้งและก็ใบมะระจีนขนาด 10 รวมทั้ง 30 มก./กิโลกรัม เมื่อกรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว พบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด รวมทั้งสารสกัด 95% เอทานอลของผลสด ขนาด 200 มก./กิโลกรัม กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารของหนูขาวที่ใช้ streptozotocin เหนี่ยวนำให้เกิดเบาหวาน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดลง 22% และก็น้ำคั้นผลดิบสดของมะระจีน(ไม่เจาะจงขนาด) กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด นอกนั้นเมื่อให้น้ำสกัดผลมะระจีน 2 มล.เป็นเวลา 3 อาทิตย์ ในหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นโรคเบาหวานด้วย alloxan ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลงจาก 220 มก.% เป็น 105 มิลลิกรัม%คิดเป็น 54% ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าผงแห้ง ซึ่งน้อยลง 25% การเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำโดย alloxan ตรวจสอบและลองใช้สารสกัดเอทานอลขนาด 250 มก./กิโลกรัม ทดลองตรงเวลา 2 สัปดาห์ พบว่ามะระมีฤทธิ์อย่างแรงในการลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดมะระ 3 ตัวอย่างเป็น สารสกัด A เป็นผลแห้งมะระ 0.5 กิโลกรัม ในเมทานอล (1:10) สารสกัด B สำเร็จแห้งมะระ 0.5 กก. ในคลอโรฟอร์ม (1:10) สารสกัด C ได้ผลสำเร็จสดมะระ 0.5 กิโลกรัม ในน้ำ (10:25) ในขนาด 20 มก/กก มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นโรคเบาหวานด้วย alloxan เมื่อทดสอบการใช้ตรงเวลา 4 อาทิตย์ไม่เจอความเป็นพิษต่อตับและไต รวมทั้งทดลองใช้ในขนาดสูงไม่พบพิษต่อตับและก็ไตเช่นเดียวกัน โดยมองจากค่า SGOT , SGPT และ lipid profile การค้นคว้าที่ ประเทศแอฟริกาใต้ ปี พุทธศักราช2549 ถึงฤทธิ์ของการใช้สารสกัดมะระจีนทั้ง5เพื่อลดจำนวนน้ำตาลในเลือดของหนูที่ทำให้เป็นโรคเบาหวานโดยใช้สารสเตรปโทโซโทสิน พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดหนูน้อยลงทั้งหนูธรรมดาและหนูที่เป็นโรคเบาหวาน ผลการลดจำนวนน้ำตาลผันตามปริมาณสารสกัดที่ได้รับ ส่วนการทดสอบให้สารสกัดมะระจีนทั้ง 5 โดยการฉีดเข้าเส้นเลือดกับหนูธรรมดารวมทั้งหนูที่ถูกทำให้มีความดันสูง (hypertensive Dahl salt-sensitive rats) พบว่าลดระดับความดันตอนบนแล้วก็อัตราการเต้นของหัวใจของหนูทั้งที่ปกติและก็มีลักษณะความดันสูงอย่างผันแปรกับจำนวนสารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การให้สารอะโทรพีนต่อหนูไม่มีผลต่อการลดระดับความดันเลือดในการทดลองนี้ ก็เลย เชื่อว่าผลของการลดความดันดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมิได้เกิดจากกลไกวัวลิเนอร์จิก ส่วนการศึกษาวิจัยที่ประเทศญี่ปุ่น ปีพุทธศักราช2549 พบว่าไทรเทอร์พีนอะไกลโคนจากสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลมะระจีนแห้งปริมาณ 2 จำพวก แสดงผลลัพธ์ลดจำนวนน้ำตาลในเลือดตัวทดลองที่เป็นเบาหวาน (หนูเบาหวานเพศผู้ จำพวก ddY) สารดังที่กล่าวถึงมาแล้วเป็น epoxydihydroxycucurbitadiene และ trihydroxycucurbitadien-al การทดสอบทางสถานพยาบาลในคนปกติพบว่า เมื่อกินผลมะระจีนสด (ไม่กำหนดขนาด) มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด มีการเรียนรู้โดยใช้ใบมะระจีนพบว่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (postpandrial glucose level) อีกทั้งในคนปกติรวมทั้งผู้ป่วนเบาหวานจำพวกที่ 2 รวมทั้งใบมะระจีน ลดน้ำตาลในเลือดผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ได้ 60% อย่างมีนัยสำคัญเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับเดกซ์โทรส75 ก. (97%) แต่ว่าระดับอินซูลินแล้วก็กลูโคสในเลือดไม่ได้แตกต่างกัน นอกจากนี้จากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังพบว่าทั้งมะระจีนมีฤทธิ์ยั้งเชื้อ HIV โดยออกฤทธิ์สำหรับในการกระตุ้นภูมิต้านทาน มีรายงานวิจัยว่าชาวประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ติดโรคได้ใช้สารสกัดจากมะระจีนนาน 4 ปี พบว่ามีปริมาณ T lymphocytes มากขึ้น และมีแพทย์ชาวจีนแถลงการณ์ว่ามีผู้ใช้มะระจีนนาน 4 เดือน ถึง 3 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes มากขึ้น ชี้ให้เห็นว่ามะระจีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิต้านทาน การเรียนทางพิษวิทยา การทดลองความเป็นพิษ เมื่อฉีดสารสกัดพืชอีกทั้งต้นด้วยเอทานอล(50%) เข้าใต้ผิวหนังในขนาด 20 ก./กิโลกรัม หรือให้หนูถีบจักรกินในขนาด 10 กรัม/กิโลกรัม ไม่เจอพิษ สารสกัดส่วนเหนือดินและไม่กำหนดส่วนที่ใช้ด้วยเอทานอล (50%) เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายกึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่าพอๆกับ 681 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และมีค่าสูงกว่า 1,000 มก./กก. แอลติดอยู่ลอยด์ที่แยกได้จากมะระจีน เมื่อให้กระต่ายรับประทานขนาด 56 มิลลิกรัม/ตัว หรือฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร 14 มก./กก. ไม่พบพิษ ฉีดน้ำคั้นจากผลเข้าช่องท้องหนูขาวขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม หรือ 40 ซีซี/กก. พบว่าทำให้สัตว์ทดสอบตายข้างใน 18 ช.มัธยมแล้วก็เมื่อฉีดน้ำคั้นผลเข้าท้องของกระต่ายในขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม พบว่าทำให้กระต่ายตายภายใน 18 ช.มัธยม แต่เมื่อให้เข้าทางกระเพาะของกระต่ายในขนาด 6 ซีซี/กิโลกรัม พบว่ากระต่ายตายภายหลังจากได้รับสารสกัดโดยตลอดเป็นเวลา 23 วัน ส่วนน้ำสุกผลสดฉีดเข้าช่องท้อง หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ค่า LD50 เท่ากับ 16 มคก./ซีซี และก็ 270 มคกรัม/ซีซี เป็นลำดับ เมื่อฉีดสารสกัดผลด้วยเอทานอล (50%) เข้าท้องหนูถีบจักรพบว่าLD50 พอๆกับ 681 มก./กก. ให้หนู gerbil กินสารสกัดผลขาดเอทานอล (95%) ขนาด 1.1 ก./กก. นานต่อเนื่องกัน 30 วัน แล้วก็สารสกัด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้) ด้วยเอทานอล (95%) เมื่อผสมของกินในขนาด 50 มคกรัม/ตัว ในหนูถีบจักรรับประทาน พบว่าไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดพิษ เมื่อฉีดสารสกัดเม็ดด้วยน้ำเข้าท้องหนูขาวพบว่า LD50 เท่ากับ 25 มิลลิกรัม/กก.สารสกัดผลด้วยคลอโรฟอร์ม เมื่อฉีดเข้าทางท้องหนูถีบจักรในขนาด 1,000 มก./กก. ทำให้สัตว์ทดลองอ่อนเพลีย แล้วก็ตายข้างหลังได้รับสารสกัดเป็นเวลา 24 ช.ม. พิษต่อระบบขยายพันธุ์ เมื่อให้น้ำคั้นจากผล ขนาด 6 ซีซี/กก. ในกระต่ายที่ตั้งท้อง ทำให้มีเลือดไหลจากมดลูกและมีกระต่ายตายจากการตกเลือด เมื่อฉีดสารสกัดผลซึ่งมีสาร charantin และก็เมล็ดซึ่งมีสาร vicine เข้าทางช่องท้องของหมาในขนาด 1.75 กรัม/ตัว พบว่าฤทธิ์ยับยั้งขบวนการสร้างน้ำเชื้อแล้วก็ในหนูถีบจักรเพศภรรยา เมื่อได้รับสารสกัด (ไม่กำหนดจำพวก) พบว่าส่งผลยับยั้งการผสมพันธุ์เมื่อให้ใบแล้วก็เปลือกลำต้น (ไม่กำหนดขนาด) เข้าทางกระเพาะในหนูขาวที่ตั้งท้อง พบว่ามีเลือดไหลไม่ดีเหมือนปกติจากมดลูก น้ำคั้นผลสดเมื่อให้ในหนูถีบจักรเพศเมียมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญวัย รวมทั้งน้ำคั้นผลสดเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของหนูขาว เมื่อให้น้ำคั้นจากผล (ไม่เจาะจงขนาด) สารสกัดด้วยน้ำ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้) ในขนาด 200 มก./กิโลกรัม เมื่อให้หนูขาวที่ท้องกินไม่พบว่าเป็นพิษต่อตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง แล้วก็สารสกัดด้วยเอทานอลในขนาดที่พอๆกับ ก็ไม่พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง น้ำต้มจากใบเมื่อให้หนูขาวเพศเมียกินในขนาด 500 มิลลิกรัม/กก พบว่าไม่มีฤทธิ์ยั้งการฝังของตัวอ่อน และไม่เป็นพิษต่อตัวอ่อน ผลต่อเม็ดเลือดขาว น้ำคั้นจากผลในขนาดที่ส่งผลทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวปกติ(lymphocyte) ตายกึ่งหนึ่ง มีค่าพอๆกับ 0.35 มิลลิกรัม/จานเพาะเชื้อ สารสกัดด้วยน้ำเกลือ (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) เมื่อทดลองกับเซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) ในขนาด 40 มคก./จากเพาะเชื้อ พบว่ามีความเป็นพิษต่อยืน (gene) lectin และโปรตีนบางประเภทในเมล็ดของมะระ ส่งผลยับยั้งบางแนวทางการสังเคราะห์ DNA ของอีกทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวธรรมดาและก็เซลล์ของมะเร็ง ป้อนน้ำคั้นจากผลสดรวมทั้งเมล็ดของมะระจีนให้หนูขาวเพศผู้ในขนาด 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 กรัม เป็นเวลา 30 วัน พบว่าทำให้ enzyme serum Ƴ-glutamyltransferase และ alkaline phosphatase มีความเข้มข้นสูงมากขึ้นก็เลยคาดว่าน่าจะมีสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ ข้อเสนอแนะ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง 1. ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากเปื่อย แก้ตับม้ามทุพพลภาพ แก้อักเสบ บวมช้ำบวม ใช้ทาภายนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคายเคือง อักเสบ 2. ผู้ที่มีภาวการณ์ขาดโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีจีซิกข์พีดี (G6PD) ไม่ควรรับประทานเม็ดมะระ เพราะว่าอาจเป็นผลข้างๆ ได้แก่ โลหิตจาง ปวดหัว ปวดท้อง มีไข้ แล้วก็อาจมีสภาวะโคม่าได้ในบางราย 3. หญิงตั้งครรภ์และก็อยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่สมควรรับประทานมะระจีน เหตุเพราะมีการศึกษาเล่าเรียนในสัตว์ทดสอบพบว่า สารเคมีในผลหรือเมล็ดมะระอาจทำให้มีเลือดไหลระหว่างตั้งท้อง และบางทีอาจเป็นสาเหตุให้แท้งได้ 4. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะคนที่จำต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังเช่น อินซูลิน ไกลพิไซด์ โทลบูตาไมด์ ไกลเบนติดอยู่ไมด์ ไพโอกลิตาโซน เป็นต้น ควรรอบคอบในการกินมะระ เนื่องด้วยมะเบื่อหน่ายจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลดลงมากจนเกินไป เอกสารอ้างอิง
|