|
หัวข้อ: จักรเย็บผ้า กับความรู้ดี ๆ ที่แม่ศรีเรือนต้องสนใจ เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ ธันวาคม 10, 2018, 01:13:03 pm อาจมีแม่บ้านหลาย ๆ คนที่ชอบแก้เครื่องแต่งกายหรือเย็บผ้า ซึ่งอุปกรณ์สำคัญคงหนีไม่พ้นจักรเย็บผ้านั่นเอง ซึ่งใครปรารถนาจะได้จักรเย็บผ้าสักเครื่องและไม่มีข้อมูลมาก่อนคงงงงวยน่าดูเลยทีเดียว ผมเลยเก็บข้อมูลและความรู้มาให้ใครต่อใครรู้กัน
ในตอนนี้ผู้ประกอบการได้มีการดีไซน์จักรเย็บผ้าออกมาต่างๆ นาๆรูปแบบ ซึ่งออกแบบให้มีสมัยนิยมเพิ่มมากขึ้น ใช้งานง่ายดายยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังดีไซน์ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกสรรซื้อจักรเย็บผ้าได้ตามเป้าประสงค์ที่ต้องการใช้งานดังนี้ 1. รู้วัตถุประสงค์ที่จะหยิบยกไปใช้ ควรจะเริ่มต้นจากการที่มีที่หมายแน่ชัดแล้วว่าต้องการเลือกซื้อจักรเย็บผ้า สำหรับมาใช้งานประเภทใดได้แก่ แก้เสื้อผ้าอาภรณ์ทั่วๆ ไป ซึ่งพื้นฐานสำหรับอ่อนหัดหรือต้องการเพียงเอามาใช้ซ่อม แต่งแต้มเสื้อผ้าอาภรณ์ในเวลาจำเป็นและเย็บย่ามหรือไม่ของใช้หยุมหยิม สามารถเลือกเป็นจักรที่มีฟังก์ชันการปะเส้นตรงเพียงอย่างเดียวก็พอ ซึ่งทุกวันนี้ก็มีทั้งจักรเย็บผ้าไฟฟ้าหรือเครื่องเย็บผ้าคอมที่มีสัดส่วนย่อม ปะได้ละมุนและใช้งานง่ายกว่าหัวจักรเหล็กที่จะเน้นย้ำความแข็งแกร่งคงทนถาวรจากการใช้งานอย่างทุกครั้ง อยู่ที่ว่าต้องการซ่อมเป็นงานว่างหรืออยากรับงานแก้ไขมาปะเพิ่มด้วยนั่นเอง ทำงานฝีมือ นอกจากจักรที่มีฟังก์ชันการเย็บเส้นตรงอย่างเดียวแล้ว ก็ยังมีรูปแบบที่พอกพูนฟังก์ชันการซ่อมตะเข็บแบบต่างๆ อย่างแนวซิกแซก รวมทั้งการเย็บงานควิ้นล์ และในบางรุ่นอาจเติมต่อการปักเข้าด้วย ซึ่งจักเหมาะกับการปะเครื่องนุ่งห่มทั่วไปพร้อมกับทำงานฝีมืออื่น ๆ เสริมด้วย หากวันใดใคร่ตัดเย็บขากางเกงก็ทำได้ 2. ตั้งงบและสำรวจราคา ภายหลังรับรู้เหตุจำเป็นและเลือกรูปแบบจักรที่ประสงค์ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ต้องตั้งงบและตรวจสอบราคากัน โดยเครื่องเย็บผ้าที่ไม่มีลูกเล่นต่างๆ ก็อาจเริ่มต้นที่ 3,000-4,000 บาท แต่กระนั้นหากเป็นจักรเย็บผ้าที่เก่งซ่อมได้มากหลายรูปแบบหรือจักรเย็บผ้าปักก็อาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่น 3. ดูสินค้าของจริง ก่อนที่จักจับจ่ายใช้สอยผู้ชื้อควรจะได้ดูผลิตภัณฑ์จริง มากกว่าการดูผ่านแค่รูปภาพอย่างเดียว ควรเดินทางไปดูผลิตภัณฑ์จริงที่ร้านขายจริงโดยตรง บางร้านอาจมีการแสดงให้เห็นการใช้งานเครื่องเย็บผ้ารุ่นต่างๆ ให้ได้ดู รวมทั้งผู้ซื้อยังสามารถตั้งคำถามสิ่งที่อยากรู้จากมือเก๋าด้วย 4. เปรียบเทียบข้อดีข้อผิดพลาดของแต่ละรุ่น ภายหลังที่ได้ดูผลิตภัณฑ์ของจริงแล้ว ต้องมีการนำข้อมูลที่ได้มากระทำการเทียบรุ่นของจักรว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งศักยภาพ ขั้นตอนใช้งาน รวมทั้งมูลค่าจักรแต่ละรุ่นด้วย 5. ตรวจสอบบริการหลังการขาย บริการหลังการขายเป็นอีกสาระสำคัญในการเลือกซื้อจักร ด้วยเหตุนั้นหากร้านค้าจัดจำหน่ายจักรเย็บผ้าที่ให้บริการมีการบริการเสริมเหนือจากการจัดจำหน่าย เครื่องเย็บผ้า ตัวอย่างเช่น การบริการซ่อมบำรุง การบริการยักย้าย การบริการจัดตั้ง จะทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการใช้งานจักรเย็บผ้าและขนส่งมากเพิ่มขึ้นรวมไปถึงผู้บริโภคสมควรเลือกคัดร้านค้าทำการค้าจักรที่มีอะไหล่จักรเย็บผ้าให้บริการเมื่อหมดสภาพ ครั้นเมื่อได้จักรเย็บผ้ามาแล้วการบำรุงรักษาจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำตามมาดังต่อไปนี้
โดยตรวจทานดูความเรียบร้อยทั่วไป อาทิเช่น ความผิดปกติที่เนื้อที่ตัวเครื่องจักรและมอเตอร์ ล้างที่โซนเท้าทับผ้า แท่นฟันจักร เข็มเย็บผ้าเครื่องเย็บผ้าและโดยรอบ ตัวเรือนกระสวย และหลังจากเลิกใช้เครื่องเย็บผ้าแล้ว ให้เอาเศษผ้า มาปูไว้ที่ใต้เท้าทับผ้าเป็นประจำ 2. การดูแลรักษาประจำอาทิตย์ โดยตรวจทานตรวจสอบมองดูระดับน้ำมัน ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง คือ ระดับ High กับ Low หากว่าน้ำมันสกปรกเยอะ ควรทำการเปลี่ยนขนน้ำมันจักร โดยใส่น้ำมันใหม่ ให้ได้ระดับตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน และควรจะตรวจสอบความตึงของสายพานจักรเย็บผ้า โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ รวมทั้งหยอดน้ำมันหล่อลื่น ตรงจุดรอยเชื่อมหรือตรงจุดอะไหล่ที่เกิดการเสียดสี แม้กระนั้นห้ามหยอดน้ำมันบ่อยเกิน เนื่องด้วยจักทำให้น้ำมันไหลออกมาด้านนอกจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน งานฝีมือนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ฝีไม้ลายมือผู้ทำ แม้กระนั้นเครื่องมือเช่นจักรที่ดีทรงคุณภาพก็เป็นตัวช่วยสำคัญให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากที่กระผมสรุปถึงข้อมูลก่อนการเลือกซื้อและการดูแลรักษาจักรเย็บผ้าไปแล้วนั้น หวังว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้ให้ความสนใจทุกท่านนะครับผม คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี Tags : จักรเย็บผ้า,จักรเย็บผ้า ราคา,จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี
|