|
หัวข้อ: สมุนไพรมะระจีน สรรพคุณเเละประโยชน์ เริ่มหัวข้อโดย: eetnhrwm540240 ที่ ธันวาคม 12, 2018, 08:59:01 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542858791579.jpg)
มะระจีน ชื่อสมุนไพร มะระจีน ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะระ (ทั่วไป) ชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica charantia Linn. var. maxima Williums & Ng ชื่อสามัญ Bitter Gourd ,Balsam apple, Leprosy Gourd, Bitter melon วงศ์ CUCURBITACEAE ถิ่นกำเนิด มะระจีนมีบ้านเกิดในเขตร้อนทวีปเอเชีย และทวีปแอฟริกา เป็นพืชที่มีการปลูกเอาไว้ในแถบประเทศเขตร้อนอย่างล้นหลาม โดยมีการปลูกกันในหลายประเทศ ดังเช่นว่าจีนอินเดีย , พม่า , ไทย , เวียดนาม ฯลฯ ส่วนในประเทศไทยปลูกมากในภาคเหนือ ซึ่งมีการปลูกหลายสายพันธุ์ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีลักษณะเหลี่ยม เถาเลื้อยมีสีเขียว มีขนเล็กๆจะมีมือเกาะบนเถา อยู่รอบๆใต้ข้อต่อของใบ • ใบ เป็นใบลำพัง ออกเรียงสลับกันคนละข้างตามเถา มีลักษณะเป็นแฉกเว้าลึก 5 แฉก โคนใบมีลักษณะกลม มีก้านใบยาว ใบมีสีเขียว มีขนสากเล็กๆมีมือเกาะยื่นออกมาจากที่ข้อ • ราก เป็นระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลม แทงลึกลงดิน มีรากกิ่งก้านสาขาและก็รากฝอยเล็กๆแทงออกตามรอบๆมีสีน้ำตาล • มือเกาะ มีลักษณะกลม เป็นเส้นเล็กๆเหมือนหนวดขนาดเล็กๆแตกออกรอบๆข้อใต้ใบของเถา ปริมาณมือเกาะ 1 เส้นต่อข้อ ส่วนปลายมีขนาดเล็กสุดม้วนงอ จะม้วนงอเข้ายึดเกาะรอบข้าง ยึดลำต้นเพื่อเลื้อยแผ่ขึ้นที่สูง ใช้มือเกาะใช้ปลายหนวดม้วนใช้ยึดของ เป็นเกลียวพันรอบคล้ายสปริง • ดอก ดอกเป็นดอกลำพัง มีลักษณะรูประฆัง กลีบจะมีเหลือง ก้านดอกยาว ออกตามซอกใบ • ผล มีลักษณะทรงยาวรี เปลือกบาง ผิวตะปุ่มตะป่ำมีร่องลึกตามทางยาว ผลใหญ่เนื้อหนา ผลดิบจะมีสีเขียวอ่อน ใช้กิน เมื่อผลสุกจะมีสีแดง แม้กระนั้นรับประทานมิได้ ข้างในผลจะมีหลายเม็ด มีเนื้อฉ่ำน้ำ มีรสชาติขม • เม็ด จะอยู่ด้านในผล จะมีเม็ดเล็กๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว เรียงอยู่ข้างในผล เมล็ดมีลักษณะกลมแบนรี ผิวเรียบ เปลือกเมล็ดแข็ง สีน้ำตาล การขยายพันธุ์ มะระจีนเป็นพืชที่นิยมนำมาปลูกกันมากมายในประเทศไทย โดยมะระจีนเป็นพืชปีเดียว สามารถปลูกได้ทุกฤดู แล้วก็ปลูกขึ้นได้ดีกับดินแทบทุกชนิด แต่ดินจะต้องมีความชุ่มชื้นสูงบ่อย แล้วก็ควรจะได้รับแสงแดดเต็มกำลังทั้งวัน มะระจีนที่ปลูกเอาไว้ภายในประเทศโดยมากแก่เก็บเกี่ยวโดยประมาณ 45-50 วัน การเก็บมะระควรจะเก็บวันเว้นวัน เลือกผลที่โตได้ขนาด มีสีเขียวยังไม่แก่เหลือเกิน ถ้าเริ่มมีสีขาวรวมทั้งเริ่มแตกถือว่าแก่เกินไป ส่วนวิธีการขยายพันธุ์สามารถขยายพันธุ์โดยแนวทางการหยอดเม็ดหรือปลูกจากต้นกล้าเท่านั้น โดยมีวิธีการดังนี้ การเตรียมดิน กระทำการไถพรวนดิน พร้อมกำจัดวัชพืช และก็ตากแดดราว 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทดิน แล้วทำแนวปลูกด้วยการขึงเชือกหรือกะระยะ ในระยะระหว่างแถว 1-1.5 เมตร แล้วทำไถตามจุดของแนวปลูกตามแนวยาวของแปลงให้เป็นร่องลึกประมาณ 30 เซนติเมตรแล้วต่อจากนั้นหว่านโรยปุ๋ยธรรมชาติหรือมูลโค จำนวน 1000 กิโลกรัม/ไร่ และก็ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 จำนวน 30 กก./ไร่ แล้วทำการไถกลบหรือกลบแนวร่อง ตากดิน 2-3 วัน การเตรียมกล้า กระทำเพาะกล้าในกระบะเพาะกล้า โดยใส่ดินผสมมูลสัตว์หรือสิ่งของอื่นๆอาทิเช่น เถ้าถ่าน กากมะพร้าว แล้วรดน้ำให้เปียกแฉะ วันละ 1-2 ครั้ง ยามเช้า-เย็น ถ้าเกิดกล้าเริ่มแตกใบ 4-6 ใบ หรือ 15-20 วัน สามารถนำมาปลูกได้ วิธีการปลูก การปลูกด้วยกล้ามะระ ให้ปลูกลงในระยะห่างของหลุม 1.5-2 เมตร แต่ว่าแม้เป็น การปลูกด้วยการหยอดเมล็ด ให้หยอดเมล็ด 1-2 เมล็ด/หลุม ในระยะห่างของหลุมเหมือนกัน ข้างหลังการปลูกหรือหยอดเม็ดเสร็จ ต้องรดน้ำหลุมปลูกให้ชุ่ม ส่วนประกอบทางเคมี องค์ประกอบทางเคมีรวมทั้งสารออกฤทธิ์ จากส่วนต่างๆของมะระจีน ได้แก่ ผล เม็ด ใบ ลำต้น เอนโดสเปิร์ม แล้วก็แคลลัส มีสารสำคัญมากถึง 228 ประเภท ที่บางทีก็อาจจะออกฤทธิ์แบบผู้เดียวๆหรือ ออกฤทธิ์แบบร่วมกัน charantin, polypeptide-p, vicine, momordin แล้วก็สารอนุพันธ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น momordinol, momordicilin, momorcharin, momordicin , Gallic acid , Caffeic acid และก็ Catechin ฯลฯส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะระจีน (100 กรัม) มี ใยอาหาร2.8 กรัม เถ้า 1.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม ไขมัน 0.17 กรัม พลังงาน 17 กิโลแคลอรี วิตามิน A 380 มก. วิตามิน B1 0.04 มก. วิตามิน B2 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B3 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B5 0.212 มก. วิตามิน B6 0.043 มิลลิกรัม วิตามิน C 84 มก. สังกะสี 0.8 มก. แคลเซียม 19 มก. ทองแดง 0.034 ไมโครกรัม เหล็ก 0.43 มก. แมกนีเซียม 17 มก. แมงกานีส 0.089 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 296 ไมโครกรัม โซเดียม 5 มิลลิกรัม คุณประโยชน์/คุณประโยชน์ มะระจีนนิยมนำมาทำเป็นอาหาร อาทิเช่น ต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือแกงจืดยัดไส้หมูสับบ้างพลิกแพลง นำมะระมาหั่นเป็นแว่นบางๆชุบไข่ทอด แบบชะอมหรือมะเขือยาว หรือจะใช้ฝานเป็นแว่นบางๆจิ้มกับน้ำพริก หรือจะทำมะระผัดไข่ก็นิยมรับประทานกันมากมาย ซึ่งมะระจีนถือเป็นผักที่นิยมรับประทานมากมายสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เพราะว่ามีสารประกอบหลายประเภท อาทิ แคแรนทิน (charantin), โพลีเปปไทด์ พี (p-insulin) และวิสิน (vicine) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนคุณประโยชน์ทางยาตามตำรายาไทยระบุว่า ราก แก้พิษ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ฝาดสมาน ยาบำรุง เถา บำรุงน้ำดี ยาระบายอ่อนๆเจริญอาหาร ใบ แก้ไข้ ดับพิษร้อน ขับพยาธิ ขับลม ดอก แก้พิษ แก้บิด ผล ขับลม ดับพิษร้อนแก้พิษฝี แก้ฟกบวม แก้อักเสบ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ เจริญอาหาร บำบัดเบาหวาน แล้วก็เมล็ด แก้พิษ บำรุงธาตุนอกเหนือจากนั้นหนังสือเรียนยาแผนโบราณในเมืองนอกได้มีการใช้มะระแก้เบาหวาน อย่างเดียวกัน เช่น อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา แอฟริกาตะวันตก ประเทศฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย แล้วก็อังกฤษ เป็นต้น สำหรับการแพทย์แผนปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยกล่าวว่า มะระจีนมีฤทธิ์ต่อต้านโรคเบาหวาน ช่วยระบายและก็ฆ่าเชื้อ โดยทางการแพทย์แผนไทยใช้เข้าตำรับยาแก้ไข้ที่มีอาการติดเชื้อโรคต่างๆสารต้านเบาหวานในมะระจีนเป็นต้นว่าสารชาแรนทิน ซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคเบาหวานได้ดีมากยิ่งกว่ายา tolbutamide นอกจากนี้ พบ สารไวซีน (vicine) โพลีเพปไทด์-พีรวมทั้งสารออกฤทธิ์อื่นที่ กำลังศึกษากันอยู่ โพลีเพปไทด์-พี ออกฤทธิ์ลดน้ำตาลใน เลือดเมื่อฉีดแบบอินซูลินให้กับคนไข้โรคเบาหวานจำพวก ฤทธิ์ต้านโรคเบาหวานของมะระจีนได้ถูกเล่าเรียนอย่างมากมาย อีกทั้งโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์ การเรียนรู้ในสัตว์ทดลอง และการเรียนทางคลินิก สารจากมะระจีนให้ผลทั้งยังในทางการควบคุมจำนวนการหลั่งอินซูลินและก็เปลี่ยนแปลงเมแทบอลิซึมของเดกซ์โทรส การแพทย์หนทางของสหรัฐฯเสนอแนะการใช้น้ำคั้นผลมะระจีน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน รูปแบบ / ขนาดวิธีการใช้ • แก้อาการป่วยไข้ ให้นำมะระจีนทั้งยัง 5 เป็น ดอก ผล ใบ ราก แล้วก็เถาอย่างละ 1 กำมือใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มจนถึงเดือด กินทีละ 1 แก้ว ก่อนที่จะกินอาหาร วันละ 3 - 4 ครั้งติดต่อกันเพียงแต่ 3-4 วันก็จะหายไข้ • แก้อาการคอแหบ เสียงไม่มี เพราะว่าโรคหวัด นำผลมะระจีนต้มกิน หรือใช้ประกอบเป็นของกินช่วยรักษาให้ดีขึ้นจนถึงหายขาดได้ • ให้นำมะระจีนใกล้สุก มาหั่นทั้งยังเนื้อและเม็ดแล้วก็ค่อยนำไปตากแดดให้แห้ง คั่วจนถึงหอมแล้วตำอย่างถี่ถ้วนผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอนขนาดนิ้วโป้งกินทีละ 1 เม็ดก่อนนอน แก้ท้องผูก • บำรุงสายตา ให้นำผลมะระจีนแล้วก็ยอดอ่อนมาทำอาหารตามใจชอบ ควรจะรับประทานวันเว้นวันสม่ำเสมอ สายตาจะดีขึ้น • บำรุงเลือด • บำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถนะทางเพศ ให้นำเม็ดมะระจีนแก่จัดมาตากแห้งแล้วแกะเปลือกนอกออก ใช้เนื้อในบดจนละเอียดละลายน้ำร้อนรับประทานครั้งละ 1 ช้อนที่มีไว้ตักกาแฟวันละ 1 ครั้งที่แล้วนอน ติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้น 2 อาทิตย์ กินอีก 2 อาทิตย์ จะก่อให้เจริญอาหารมีพลังขึ้น ยาขนานนี้ยังช่วยขับพยาธิตัวเล็กได้อีกด้วย • ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากยุ่ย แก้ตับม้ามทุพพลภาพ แก้อักเสบ ฟกช้ำดำเขียวบวม ใช้ทาด้านนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคาย อักเสบ การศึกษาทางเภสัชวิทยา มีการเรียนรู้ถึงผลของมะระจีนในมนุษย์หลายการเล่าเรียนอีกทั้งในคนที่มีสุขภาพดีและก็คนป่วยโรคเบาหวานประเภทต่างๆพบว่า มีหลายการค้นคว้าที่รายงานว่าสารสกัดหรือน้ำจากผลมะระมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้โดยการศึกษาเจอฤทธิ์รักษาโรคเบาหวานของมะระจีนเริ่มตั้งแต่ปี 1942 โดยพบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกระต่าย แล้วก็เสริมฤทธิ์ยาลดน้ำตาลในกระต่ายที่เป็นเบาหวาน จึงได้มีผู้เรียนรู้ฤทธิ์ของมะระในสัตว์ทดลองต่างๆอย่างเช่นกระต่าย หนูขาว หนูถีบจักร แมว gerbils ลิง ตลอดจนการทดสอบทางคลินิก ซึ่งสำหรับการทดลองได้ใช้มะระจันทั้งยังในรูปสารสกัดด้วยอัลกอฮอล์ สารสกัดด้วยอะซีโตนสารสกัดด้วย้ำในรูปผลแห้งแล้วก็น้ำคั้น และก็ได้มีผู้ทดลองสกัดแยกสารซึ่งมีฤทธิ์ลดเบาหวาน อาทิเช่น charantin , polypeptide , polypeptide P และก็ purified proteinสำหรับกลไกการออกฤทธิ์ พบว่ามะระจีนมีฤทธิ์เหมือนอินซูลินรวมทั้งกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ เพิ่มการใช้น้ำตาลเดกซ์โทรสในเยื่อต่างๆโดยไปเพิ่ม tissue respiration เมื่อให้น้ำคั้นผลมะระจีนก่อนให้น้ำตาลกลูโคส พบว่ามีการนำกลูโคสไปใช้ก็เลยมีการสะสมของglycogen ในตับแล้วก็กล้าม ซึ่งบางทีอาจเหตุเพราะไปรีบการหลั่งอินซูลิน รวมทั้งรีบการดูดซึมของเดกซ์โทรสก็ได้ นอกจากนั้นน้ำคั้นยังส่งผลต่อ gluconegensis ในไตคล้ายกับสาร hypoglycin ซึ่งลดน้ำตาลเพราะเบาหวาน แล้วก็พบว่าการทดสอบให้หนูที่รั้งนำด้วย strepotozotocin ให้เป็นเบาหวาน มะระจีนไม่ให้ผล บางทีอาจเพราะเหตุว่าเบต้าเซลล์ถูกทำลายไปแล้วไม่เฉพาะแต่มีการทดสอบโดยใช้ผลมะระจีนเพียงแค่นั้น ยังมีการทดลองผลของเมล็ดมะระจีนอีกด้วย จากการศึกษาของนักค้นคว้าในประเทศฮ่องกง พบว่าในเม็ดมีสารซึ่งมีฤทธิ์เช่นเดียวกับอินซูลินซึ่งถัดมาได้พบว่า คือ α-momorcharin, β-momorcharin , α-trichosantin และเลคติน ในเวลาใกล้ๆกัน ได้มีผู้นำเมล็ดมะระมาสกัดด้วย 50% เมทานอล และก็ 0.9% น้ำเกลือ เมื่อนำสารสกัดไปทดลองในหนูซึ่งไม่กินอาหาร พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลง แล้วก็สารสกัดเมทานอลรวมทั้งน้ำเกลือยังคุ้มครองไม่ให้ adrenaline ไปรั้งนำให้กำเนิดโรคเบาหวานโดยมีแถลงการณ์ว่า สารสกัดมะระจีนยับยั้ง glucose optake ใน cell Ehrlich ascites tumor cell ซึ่งใช้เป็นการตรวจสอบพื้นฐานของพืชที่ยับยั้งโรคเบาหวาน มีการศึกษาฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของตำรับยาซึ่งมีมะระจีนเป็นส่วนประกอบ (ไม่กำหนดชนิดของสารสกัด) โดยฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาด 0.1 กรัม/กิโลกรัม พบว่าลดน้ำตาลในเลือด เมื่อทดสอบฉีดสารสกัดอินซูลินจากมะระจีนเข้าทางท้องหรือให้ทางปากหนูขาวปกติ และหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวาน ด้วย alloxan หรือ streptozotocin พบว่าน้ำตาลในเลือดน้อยลง ต่อมามีการเรียนผลของสารสกัดเมทานอล:น้ำ ของดอกแห้งและก็ใบมะระจีนขนาด 10 และก็ 30 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เมื่อกรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว พบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด แล้วก็สารสกัด 95% เอทานอลของผลสด ขนาด 200 มิลลิกรัม/กก. กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารของหนูขาวที่ใช้ streptozotocin เหนี่ยวนำให้เกิดโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดลง 22% รวมทั้งน้ำคั้นผลดิบสดของมะระจีน(ไม่กำหนดขนาด) กรอกเข้าทางกระเพาะหนูขาว มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด นอกเหนือจากนั้นเมื่อให้น้ำสกัดผลมะระจีน 2 มล.ตรงเวลา 3 สัปดาห์ ในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงจาก 220 มก.% เป็น 105 มิลลิกรัม%คิดเป็น 54% ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าผงแห้ง ซึ่งลดลง 25% การศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกรั้งนำโดย alloxan ทดสอบการใช้สารสกัดเอทานอลขนาด 250 มก./กก. ทดสอบเป็นเวลา 2 อาทิตย์ พบว่ามะระมีฤทธิ์อย่างแรงสำหรับในการลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดมะระ 3 แบบอย่างเป็น สารสกัด A สำเร็จแห้งมะระ 0.5 กก. ในเมทานอล (1:10) สารสกัด B สำเร็จแห้งมะระ 0.5 กก. ในคลอโรฟอร์ม (1:10) สารสกัด C ได้ผลสดมะระ 0.5 กก. ในน้ำ (10:25) ในขนาด 20 มก/กก มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan เมื่อทดลองใช้ตรงเวลา 4 อาทิตย์ไม่พบความเป็นพิษต่อตับและไต แล้วก็ทดสอบการใช้ในขนาดสูงไม่เจอพิษต่อตับและก็ไตเช่นเดียวกัน โดยดูจากค่า SGOT , SGPT รวมทั้ง lipid profile การศึกษาที่ ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ปี พ.ศ.2549 ถึงฤทธิ์ของการใช้สารสกัดมะระจีนทั้ง5เพื่อลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของหนูที่ทำให้เป็นโรคโรคเบาหวานโดยใช้สารสเตรปโทโซโทซิน พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดหนูน้อยลงอีกทั้งหนูธรรมดารวมทั้งหนูที่เป็นโรคเบาหวาน ผลของการลดจำนวนน้ำตาลแปรผันตามจำนวนสารสกัดที่ได้รับ ส่วนการทดสอบให้สารสกัดมะระจีนทั้ง 5 โดยการฉีดเข้าหลอดเลือดกับหนูธรรมดาแล้วก็หนูที่ถูกทำให้มีความดันสูง (hypertensive Dahl salt-sensitive rats) พบว่าลดความดันตอนบนและอัตราการเต้นของหัวใจของหนูทั้งที่เป็นปกติแล้วก็มีลักษณะอาการความดันสูงอย่างผันกับจำนวนสารสกัดดังที่กล่าวมาข้างต้น การให้สารอะโทรพีนต่อหนูไม่เป็นผลต่อการลดระดับความดันเลือดสำหรับเพื่อการทดสอบนี้ ก็เลย เชื่อว่าผลการลดระดับความดันดังที่กล่าวถึงมาแล้วมิได้มีต้นเหตุที่เกิดจากกลไกวัวลิเนอร์จิก ส่วนการศึกษาที่ญี่ปุ่น ปีพุทธศักราช2549 พบว่าไทรเทอร์พีนอะไกลโคนจากสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลมะระจีนแห้งจำนวน 2 ประเภท แสดงผลลัพธ์ลดจำนวนน้ำตาลในเลือดหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน (หนูเบาหวานเพศผู้ จำพวก ddY) สารดังกล่าวข้างต้นเป็น epoxydihydroxycucurbitadiene แล้วก็ trihydroxycucurbitadien-al การทดสอบทางคลินิกในคนปกติพบว่า เมื่อรับประทานผลมะระจีนสด (ไม่กำหนดขนาด) มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด มีการเรียนโดยใช้ใบมะระจีนพบว่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (postpandrial glucose level) ทั้งยังในคนปกติรวมทั้งผู้ป่วนโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 แล้วก็ใบมะระจีน ลดน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ 60% อย่างเป็นจริงเป็นจังเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับกลูโคส75 ก. (97%) แต่ว่าระดับอินซูลินและก็กลูโคสในเลือดไม่มีความต่างกัน นอกจากนั้นจากผลที่ได้รับจากงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ยังพบว่าทั้งยังมะระจีนมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV โดยออกฤทธิ์สำหรับการกระตุ้นภูมิต้านทาน มีรายงานวิจัยว่าชาวฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ติดโรคได้ใช้สารสกัดจากมะระจีนนาน 4 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes มากขึ้น รวมทั้งมีหมอชาวจีนแถลงการณ์ว่ามีผู้ใช้มะระจีนนาน 4 เดือน ถึง 3 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes เพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นว่ามะระจีนมีฤทธิ์สำหรับในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา การทดลองความเป็นพิษ เมื่อฉีดสารสกัดพืชทั้งต้นด้วยเอทานอล(50%) เข้าใต้ผิวหนังในขนาด 20 ก./กก. หรือให้หนูถีบจักรกินในขนาด 10 กรัม/กิโลกรัม ไม่พบพิษ สารสกัดส่วนเหนือดินและไม่เจาะจงส่วนที่ใช้ด้วยเอทานอล (50%) เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50) มีค่าเท่ากับ 681 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และก็มีค่าสูงกว่า 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แอลติดอยู่ลอยด์ที่แยกได้จากมะระจีน เมื่อให้กระต่ายกินขนาด 56 มิลลิกรัม/ตัว หรือฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร 14 มก./กิโลกรัม ไม่พบพิษ ฉีดน้ำคั้นจากผลเข้าช่องท้องหนูขาวขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม หรือ 40 ซีซี/กก. พบว่าทำให้สัตว์ทดลองตายด้านใน 18 ช.ม.รวมทั้งเมื่อฉีดน้ำคั้นผลเข้าท้องของกระต่ายในขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม พบว่าทำให้กระต่ายตายภายใน 18 ช.ม. แม้กระนั้นเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของกระต่ายในขนาด 6 ซีซี/กิโลกรัม พบว่ากระต่ายตายภายหลังได้รับสารสกัดอย่างต่อเนื่องตรงเวลา 23 วัน ส่วนน้ำต้มผลสดฉีดเข้าช่องท้อง หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ค่า LD50 เท่ากับ 16 มคกรัม/ซีซี และก็ 270 มคก./ซีซี ตามลำดับ เมื่อฉีดสารสกัดผลด้วยเอทานอล (50%) เข้าช่องท้องหนูถีบจักรพบว่าLD50 พอๆกับ 681 มก./กก. ให้หนู gerbil รับประทานสารสกัดผลกุดเอทานอล (95%) ขนาด 1.1 ก./กก. นานต่อเนื่องกัน 30 วัน รวมทั้งสารสกัด (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) ด้วยเอทานอล (95%) เมื่อผสมของกินในขนาด 50 มคกรัม/ตัว ในหนูถีบจักรรับประทาน พบว่าไม่นำมาซึ่งพิษ เมื่อฉีดสารสกัดเม็ดด้วยน้ำเข้าช่องท้องหนูขาวพบว่า LD50 เท่ากับ 25 มก./กิโลกรัมสารสกัดผลด้วยคลอโรฟอร์ม เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูถีบจักรในขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทำให้สัตว์ทดสอบอ่อนกำลัง รวมทั้งตายหลังได้รับสารสกัดเป็นเวลา 24 ช.ม. พิษต่อระบบแพร่พันธุ์ เมื่อให้น้ำคั้นจากผล ขนาด 6 ซีซี/กก. ในกระต่ายที่ตั้งท้อง ทำให้มีเลือดไหลจากมดลูกและก็มีกระต่ายตายจากการตกเลือด เมื่อฉีดสารสกัดผลซึ่งมีสาร charantin รวมทั้งเมล็ดซึ่งมีสาร vicine เข้าทางช่องท้องของสุนัขในขนาด 1.75 กรัม/ตัว พบว่าฤทธิ์ยั้งวิธีการสร้างสเปิร์มและในหนูถีบจักรเพศภรรยา เมื่อได้รับสารสกัด (ไม่เจาะจงชนิด) พบว่าส่งผลยับยั้งการผสมพันธุ์เมื่อให้ใบและเปลือกลำต้น (ไม่เจาะจงขนาด) เข้าทางกระเพาะในหนูขาวที่ตั้งท้อง พบว่ามีเลือดไหลไม่ปกติจากมดลูก น้ำคั้นผลสดเมื่อให้ในหนูถีบจักรเพศภรรยามีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญพันธุ์ แล้วก็น้ำคั้นผลสดเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของหนูขาว เมื่อให้น้ำคั้นจากผล (ไม่เจาะจงขนาด) สารสกัดด้วยน้ำ (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้) ในขนาด 200 มก./กิโลกรัม เมื่อให้หนูขาวที่ท้องรับประทานไม่พบว่าเป็นพิษต่อตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอลในขนาดที่พอๆกับ ก็ไม่พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง น้ำต้มจากใบเมื่อให้หนูขาวเพศภรรยากินในขนาด 500 มิลลิกรัม/กก พบว่าไม่มีฤทธิ์ยั้งการฝังของตัวอ่อน และไม่เป็นพิษต่อตัวอ่อน ผลต่อเม็ดเลือดขาว น้ำคั้นจากผลในขนาดที่ส่งผลทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวธรรมดา(lymphocyte) ตายครึ่งหนึ่ง มีค่าเท่ากับ 0.35 มก./จานเพาะเชื้อ สารสกัดด้วยน้ำเกลือ (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้) เมื่อทดสอบกับเซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) ในขนาด 40 มคกรัม/จากเพาะเชื้อ พบว่ามีความเป็นพิษต่อยืน (gene) lectin และโปรตีนบางประเภทในเม็ดของมะระ มีผลยั้งบางกระบวนการสังเคราะห์ DNA ของอีกทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวธรรมดาและเซลล์มะเร็ง ป้อนน้ำคั้นจากผลสดรวมทั้งเม็ดของมะระจีนให้หนูขาวเพศผู้ในขนาด 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 กรัม เป็นเวลา 30 วัน พบว่าทำให้ enzyme serum Ƴ-glutamyltransferase และ alkaline phosphatase มีความเข้มข้นสูงมากขึ้นก็เลยคาดว่าน่าจะมีสารที่นำมาซึ่งความเป็นพิษต่อตับ ข้อแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง 1. ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากยุ่ย แก้ตับม้ามพิการ แก้อักเสบ ฟกช้ำดำเขียวบวม ใช้ทาภายนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคาย อักเสบ 2. ผู้ที่มีภาวการณ์ขาดเอนไซม์จีสิกข์พีดี (G6PD) ไม่สมควรกินเมล็ดมะระ เพราะเหตุว่าอาจเป็นผลใกล้กัน ดังเช่นว่า โลหิตจาง ปวดหัว เจ็บท้อง จับไข้ และก็อาจมีภาวะโคม่าได้ในบางราย 3. หญิงมีท้องรวมทั้งอยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานมะระจีน เนื่องจากมีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารเคมีในผลหรือเม็ดมะเอือมระอาจทำให้มีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ และก็อาจเป็นต้นเหตุให้แท้งได้ 4. คนป่วยโรคเบาหวาน โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่จำเป็นต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้นว่า อินซูลิน ไกลพิไซด์ โทลบูตาไมด์ ไกลเบนค้างไมด์ ไพโอกลิตาโซน เป็นต้น ควรรอบคอบสำหรับเพื่อการรับประทานมะระ เพราะเหตุว่ามะเบื่อหน่ายจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงมากเกินความจำเป็น เอกสารอ้างอิง
|