ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: าร ที่ ธันวาคม 20, 2018, 10:06:58 pm



หัวข้อ: ชะเอมเทศ สรรพคุณเเละประโยชน์
เริ่มหัวข้อโดย: าร ที่ ธันวาคม 20, 2018, 10:06:58 pm

(https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1543633587829.jpg)
ชะเอมเทศ
ชื่อสมุนไพร ชะเอมเทศ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น กันเฉ่า (จีนกลาง) , กำเช่า (จีนแต้จิ๋ว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza  glabra   L.  และ  Glycyrrhiza uralensis Fisch.ex DC.
ชื่อสามัญ   Licorice Root , Sweet Root , Russian licorice, Spanish licorice, Chinese licorice
วงศ์   LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE
ถิ่นกำเนิด

ชะเอมเทศ (G.glabra) เป็นพืชท้องถิ่นในประเทศแถบกลางรวมทั้งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย เช่น จีน . ประเทศปากีสถาน , อีหว่าน , อัฟกานิสถาน รวมถึงกลุ่มประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีการปลูกบริเวณอ่าวเอดิเตอร์เรเนียน ในทวีปแอฟริกาและทางตอนใต้ทวีปยุโรปและในประเทศสาธารณรัฐประเทศอินเดีย ก็มีการปลูกด้วยเหมือนกัน ส่วนประเทศที่ส่งออกชะเอมเทศรายใหญ่ของโลก คือ ประเทศสมาพันธ์รัฐ รัสเซีย สาธารณรัฐอิสลามประเทศอิหร่านสาธารณรัฐประเทศตุรกี และก็สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนชะเอมเทศ (G. uralansis) เป็นพืชแคว้นในแถบตอนเหนือสาธารณรัฐพสกนิกร จีนมองดูโกเลีย และก็ไซบีเรีย โดยเฉพาะในประเทศในพบได้ทั่วไปในบริเวณเฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง เหอเป่ย ซานตง ซานซี มองดูกิเลียใน ส่านซี กันสู้ ชิงไห่ ซิงเจียง ซึ่งก็นับเป็นชะเอมเทศที่ใช้กันอย่างล้นหลามเช่นเดียวกัน
ลักษณะทั่วไป
ชะเอมเทศเป็นพืชมีอายุนับเป็นเวลาหลายปี โดยถูกจัดเป็นไม้พุ่มสูงราวๆ 1 เมตร มีรากขนาดใหญ่เยอะมากๆลำต้นมีขนสั้นๆปลายมีต่อมเหนียว
ใบเป็นใบประกอบแบบขน ออกสลับกัน มีใบย่อย 9-17 ใบ ก้านใบย่อยสั้นมากมายแผ่นใบรูปกลมรีหรือรูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 1.5-3 เซนติเมตร ยาว 2-5.5 เซนติเมตรปลายใบแหลม ฐานใบกลมมน มีขนสั้นๆทั้งคู่ด้าน
ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ยาว 5-12 เซนติเมตร มีดอกย่อยไม่น้อยเลยทีเดียวชิดกันหนาแน่น ดอกย่อยรูปดอกถั่ว สีม่วงอ่อนถึงขาว
ผลเป็นฝักกลมงอเหมือนเคียว มีขนปกคลุม ภายในมีเมล็ด 2-8 เมล็ด รูปกลมแบนหรือรูปไต สีดำวาว
ราก มีลักษณะเป็นท่อนกลมยาวมีลักษณะแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น Spanish liquorice (G. glabra var. typical Regal & Herd), Russian liquorice (G. glabra var. glandullifera (Wald et Kit) Regal & Herd) แล้วก็ Chinese licorice (G.uralensis Fisch.) โดยแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะดังต่อไปนี้
Spanish liquorice ลักษณะรากเป็นรูปทรงกระบอก ขนาดต่างๆกัน เปลือกนอกของเปลือกมีสีน้ำตาลถึงน้ำตาลดำ มีรอยย่นตามทางยาว อาจจะพบหน่อต้นที่เหง้าแล้วก็รากกิ่งก้านสาขาที่ราก รากที่ปอกเปลือกแล้วจะมีสีเหลืองประกอบด้วยเส้นใย เนื้อรากมีสีเหลืองเห็นชั้นเนื้อเยื่อแคมเบียมเป็นวง
Russian liquorice ลักษณะรากเป็นทรงกระบอก ความยาว 15 – 40 เซนติเมตรเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 – 5 เซนติเมตร รากขนาดใหญ่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. ผิวนอกของเปลือกมีสีม่วงน้ำตาล รากที่ปอกเปลือกแล้วจะมีสีเหลือง ประกอบด้วยเส้นใยเนื้อรากมีสีเหลืองเห็นชั้นเยื่อแคมเบียมเป็นวง
Glycyrrhiza uralansis Fisch. ลักษณะรากเป็นทรงกระบอก ความยาว 20-100 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6-3.5 เซนติเมตรอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีส่วน cork หรือ ไม่มีก็ได้ เปลือกนอกของเปลือกมีสีน้ำตาลแดง ถึงน้ำตาลเทา มีรอยย่นตามยาว บางครั้งอาจจะเจอรากกิ่งก้านสาขาที่ราก รากที่ปอกแล้วจะมีสีเหลืองมีเส้นใย เนื้อรากมีสีเหลือง เห็นชั้นเยื่อแคมเบียมเป็นวง
 
การขยายพันธุ์
ชะเอมเทศสามารถเพาะพันธุ์ได้ด้วย การใช้เม็ด โดยมีวิธีการเหมือนกับการขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดของพืชจำพวกอื่นๆส่วนสภาพแวดล้อมที่สมควรสำหรับเพื่อการปลูกชะเอมเทศนั้น โดยทั่วไปแล้ว ชะเอมเทศเป็นพืชที่ถูกใจเข้ารับแสงสว่าง ทนร้อนแล้วก็ทนความแล้ง ชอบดินที่แล้งมีสีน้ำตาล มีธาตุแคลเซียมและก็เป็นดินเค็มอ่อนๆชั้นดินดกและก็ลึก สามารถระบายน้ำก้าวหน้า เจริญเติบโตได้ดีบริเวณฝั่งน้ำที่มีลักษณะดินปนทราย ไม่สามารถเจริญวัยได้บริเวณริมหาดที่มีดินเค็มมากมาย หรือเป็นดินด่าง โดยชะเอมเทศจะแก่การเก็บเกี่ยวโดยประมาณ 3 ปี
องค์ประกอบทางเคมี
สาระสำคัญที่เจอในชะเอมเทศ ตัวอย่างเช่น สารกลุ่ม triterpene saponins : 4 – 24% ดังเช่นว่าglycyrrhizin (หรือ glycyrrhizic acid หรือ glycyrrhizinc acid) ในจำนวน 5 – 9% และ 24 – hydroxyglyrrhizin สารพวกนี้จะมีความหวานมากยิ่งกว่าน้ำตาลทราย 50 แล้วก็ 100 เท่าเป็นลำดับ และก็สารที่อยู่ในรูป aglycone (glabranin A
และก็ B, glycyrrhetol , glabrolide , isoglabroline)
glycyrrhizinc acid liquiritigenin
herniarin stilbenes
glabrene
สารกลุ่ม flavonoids: flavones, isoflavonoids, chalcones, liquiritigenin, liquirtin, isoliquiritigenin, isoliquiritin , formononetin , glabrone , neoliquiritin, neoisoliquirtin,
licuroside, hispaglabridin A และก็ B , licochalcone B, isobavachin, sigmoidin B1
สารกลุ่ม coumarins : herniarin, umbelliferone
สารกรุ๊ป stibenes: gancaonin R
สารกลุ่มอื่นๆ: gums แล้วก็ wax
นอกเหนือจากนั้นG.glabrn L. ยังประกอบด้วยสารกรุ๊ป flavonoids แล้วก็isoflavonoids อื่นๆดังเช่น sapinaretin, vitexin, pinocembrin, prunetin, glabranin, glabrene, glabridin, glabrol , kanzonol T , kanzonol W-Z , รวมทั้งสารกรุ๊ปcoumarins อื่นๆเป็นต้นว่า kanzonol U, kanzonol V
ส่วน G.uralansis มีสารกลุ่ม flavonoids แล้วก็isoflavonoids อื่นๆอาทิเช่น licobichalcone , licocbalcone , licochalcone A , echinatin , licoflavone A , licoricone , isoliciflavonol , ononin , สารกรุ๊ป coumarins อื่นๆอย่างเช่น glycyrol, isoglycyrol , glycycoumarin , licopyranocoumarin, สารกรุ๊ป triterpene saponins อื่นๆอย่างเช่นuralsaponin A,B, uralenolide, licorice saponin A3, licorice saponin C2, licorice saponin D3, licorice saponin E2, สารกรุ๊ป pterocarpenes (glycyrrhizol A,B) สารกลุ่มอื่นๆตัวอย่างเช่น 3-(p-hydroxyphenyl) propionic acid, (3R) – vestitol, 4-hydroxy-guaiacol apioglucoside
 
ผลดี /คุณประโยชน์
ในปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์ของชะเอมเทศ คือ รากชะเอมเทศมีสารสำคัญเป็นสาร Glycyrrhizin (Glycyrrhizic acid หรือ Glycyrrhizinic acid) และสาร 24-hydroxyglyrrhizin ขึ้นรถพวกนี้เป็นสารที่ให้ความหวานมากยิ่งกว่าน้ำตาลทรายประมาณ50-100 เท่า ก็เลยถูกนำมาใช้เพื่อแต่งรสชาติของกิน ใช้แต่งรสหวานในของหวานแล้วก็ทอฟฟี่ ใช้แต่งกลิ่นรสยาให้หวานรวมทั้งช่วยกลบรสขมของยาต่างๆและชะเอมเทศยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นไวต์เทนนิงจากธรรมชาติ ขึ้นรถสกัดที่ได้จากรากนั้นมีลักษณะเด่นสำหรับการช่วยลดความเข้มของเม็ดสี ลดฝ้ากระบนบริเวณใบหน้า ช่วยปรับให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยลดแล้วก็ต้านการอักเสบของผิว ก็เลยสามารถนำมาใช้ทดแทนสารเคมีที่ช่วยทำให้ปรับผิวหน้ากระจ่างขาวใสได้ และก็ยังไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหน้าและไม่ก่อให้เกิดเป็นสิวอุดตันอีกด้วย
นอกนั้นชะเอมเทศมีคุณประโยชน์ช่วยสร้างความชื้นให้กับคอรวมทั้งกล่องเสียง เนื่องมาจากชะเอมเทศนั้นจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารหล่อลื่นในรอบๆคอเหนือกล่องเสียงได้
ส่วนสรรพคุณทางยาของชะเอมเทศระบุว่า สรรพคุณยาไทย ใช้ขับเลือดเน่า บำรุงหัวใจใช้กระชุ่มกระชวย แก้กำเดา แก้ไอ ทำให้เปียกแฉะคอ เป็นยาระบายอ่อนๆชะเอมเทศใช้แต่งรสยาให้กินง่ายโดยใช้เป็นตัวยาผสานให้ตัวยาอื่นๆในตำรับสามารถเข้ากันได้ และช่วยทำให้ตัวยาหลักออกฤทธิ์เร็วขึ้นแล้วก็ช่วยลดพิษ หรืออาการใกล้กันที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากยาได้ นอกเหนือจากนั้นยังช่วยให้รสยาดียิ่งขึ้น แล้วก็ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ โดยตามสรรพคุณยาไทยยังสามารถแยกสรรพคุณจากส่วนต่างๆของชะเอมเทศได้ คือ เปลือกของราก จะมีเป็นสีแดง และก็มีรสหวานใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ใบทำให้เสมหะแห้ง แล้วก็เป็นยารักษาดีพิการ ดอกใช้รักษาอาการคัน รวมทั้งรักษาพิษไข้ทรพิษ ผลจะมีรสหวาน ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และอาการคอแห้ง ทำให้เปียกชื้น รากจะมีรสชุ่ม ใช้เป็นยาบำรุงปอด ขับเลือดที่เน่าในท้อง รักษาพิษยาหรือพืชพิษต่างๆรักษาอาการไม่อยากกินอาหาร อ่อนแรงจากการ ทุกข์ยากลำบากทำงานมาก ปวดท้อง ไอไม่สบาย สงบประสาท บำรุงปอด ใช้รากสดรักษาลักษณะการเจ็บคอ เป็นแผลเรื้อรัง ระบบการย่อยอาหารไม่ดี หรือของกินเป็นพิษ แล้วก็รักษากำเดาให้เป็นปกติ รากแห้งของพืชประเภทนี้ใช้ทำยาระบายอ่อนๆหรือใช้ปรุงแต่งรส
ส่วนในประเทศประเทศจีนชะเอมเทศจัดเป็นสมุนไพรที่มีความสำคัญถัดลงมาจากโสม และก็เป็นสมุนไพรที่ใช้มากที่สุดในประเทศ จะมองเห็นได้จากตำรับยาแผนโบราณจีนกว่ากึ่งหนึ่งมีชะเอมเป็นองค์ประกอบ คุณประโยชน์ยาจีน โดยในสรรพคุณของจีนกล่าวว่า ชะเอมเทศมีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง มีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคกระเพาะ ช่วยสำหรับการย่อยอาหารแก้ไอ ทำให้เปียกแฉะคอ แก้อาการใจสั่น และก็โรคลมชัก
นอกนั้นมีการศึกษาค้นคว้าพบว่า ส่วนของรากชะเอมเทศมีสารสำคัญที่ชื่อ Glabridin มีรายงานว่ามีฤทธิ์ยับยั้งลักษณะการทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวิธีการสร้างเม็ดสีของผิว ทำให้ผิวกระจ่างใน ลดลางเลือนริ้วรอย และก็จุดด่างดำได้
แบบ / ขนาดการใช้
นำชะเอมเทศไปคั่วให้เหลืองกรอบ มีกลิ่นหอมยวนใจนำไปชงน้ำดื่ม จะช่วยแก้อาการชักช่วยสงบประสาท ทำให้นอนหลับก้าวหน้า แม้มีลักษณะอาการร้อนในอยากกินน้ำ ชะเอมเทศนำไปต้มกับน้ำจับเลี้ยงแล้วก็ใช้ดื่มจะช่วยเสริมสรรพคุณสำหรับในการระบายความร้อนและก็พิษร้อนในร่างกายออกได้ รักษาอาการเส้นเลือดขอดและอาการปอดบวม โดยใช้ชะเอมเทศ 50 กรัม ต้มน้ำแบ่งรับประทานก่อนรับประทานอาหารวันละ 3 ครั้ง รักษาอาการตัวเหลือง โดยใช้สารสกัดชะเอมเทศครั้งละ 15-20 มล. วันละ 3 ครั้ง พบว่าอาการตัวเหลืองจะหายเป็นปกติโดยใช้เวลาประมาณ 13 วัน ใช้ภายนอกรักษาอาการอักเสบบริเวณผิวหนัง ผิวเป็นผื่นแดงแล้วก็คัน หรือเป็นขุย ใช้น้ำต้มชะเอมเทศล้างก็ช่วยลดอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้
การเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ลดความดันเลือด สารสกัดแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ซึ่งสาระสำคัญเป็น glycycoumarin, glycyrin, glycyrin, dehydroglyasperin C แล้วก็ D และก็เมื่อนำตำรับยาซึ่งมีสารสกัดรากชะเอมเทศกับสารสกัดหนอนตายอยาก และน้ำมันกานพลู ฉีดเข้าช่องท้องหนูขาวที่รั้งนำให้เกิดการไอด้วยแอมโมเนีย พบว่ามีผลยับยั้งการไอได้ และยังมีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumonia รวมทั้ง b-Streptococcus group B เมื่อทดลองตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 1กรัม/กก. ทดลองในหนูตะเภาซึ่งได้รับควันบุหรี่ที่รั้งนำให้กำเนิดอาการไอด้วย capsaicin พบว่าสามารถระงับการไอได้
ฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหาร การให้สารสกัดน้ำ สารสกัดแอลกอฮอล์ อีกทั้งทางปากฉีดเข้าท้อง หรือเข้าลำไส้เล็ก พบว่าสามารถลดการหลั่งของกรดในกระเพาะหนู และมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดขึ้นจากการเหนี่ยวนำด้วยกรด ยาแอสไพริน และยา ibuprofen สาร glycyrrhizin แล้วก็สารที่ตัดส่วนน้ำตาลออก (aglycone) แล้วก็สารสกัดชะเอมที่สกัดเอาสารกรุ๊ป glycyrrhizin ออกแล้ว มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยกระตุ้นการหลั่งสารเมือก สร้างสาร glycyrrhizin ที่พลังกระเพาะอาหารมากเพิ่มขึ้น และก็มีฤทธิ์ต่อต้านลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี pepsin ที่ทำหน้าที่สำหรับในการย่อยโปรตีน จึงทำให้เยื่อบุกระเพาะของกินแก่ยืนยาว สารกรุ๊ป flavonoids (liquirtigenin รวมทั้งisoliquiritigenin) มีฤทธิ์ต้านทานการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในสัตว์ทดสอบ สาร isoliquirtitigenin มีความเฉพาะต่อ H histamine receptor โดยเป็น H recepior antagonist นอกนั้นยังมีฤทธิ์ลดการหลั่งของกรด และคุ้มครองการเกิดแผลในกระเพาะ
ฤทธิ์ลดการอักเสบ รากชะเอมเทศไม่ระบุขนาดกิน สามารถลดการอักเสบในคน รวมทั้งหนูที่ถูกรั้งนำให้มีการอักเสบด้วยcarrageenan หรือ a-chymotrypsin ส่วนสารสกัดบิวทานอล อีเทอร์ แล้วก็น้ำสุกจากรากขนาด 20 กรัม/กก. และไม่กำหนดขนาด ทดลองโดยให้ทางสายยางลงไปยังกระเพราะของกินหนูขาวซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้มีการอักเสบด้วยฟอร์มาลีน และทดสอบด้วยวิธี albumin stabilizing พบว่าสามารถลดการอักเสบได้
เมื่อนำยาชงจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ไม่ระบุขนาดกิน พบว่าสามารถลดการอักเสบในคน สารสกัดตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ไม่ระบุขนาด ทดสอบในหนูขาวซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้มีการอักเสบด้วยฮีสตามีน พบว่าสามารถต้านการอักเสบ ยิ่งไปกว่านี้สารสกัดน้ำร้อนแล้วก็เอทานอล 95 % ขนาด 18 มก./กิโลกรัม, 180 แล้วก็ 500 มิลลิกรัม/กก., 100 แล้วก็ 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, 1.1 ก./กิโลกรัม , 350 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และไม่เจาะจงขนาดโดยป้อนทางปาก ให้ทางสายยางเข้าสู่กระเพาะของกิน รวมทั้งฉีดเข้าช่องท้อง ทดสอบในหนูขาว หนูถีบจักร แล้วก็หนูเผือกซึ่งถูกรั้งนำให้มีการอักเสบด้วย carrageenan, dextran, paw immersion ในน้ำร้อน , ก้อนสำลี และก็ adjuvant, พบว่าสามารถลดการอักเสบได้ เมื่อให้ยาชงกับสารสกัดน้ำร้อนจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 100 มก./กก .ทางสายยางเข้ากระเพาะอาหารของหนูขาวหรือหนูถีบจักร ซึ่งถูกรั้งนำให้มีการอักเสบด้วย carrageenan, dextran, paw immersion ในน้ำร้อน , adjuvant ก้อนสำลี และ mustard พบว่าไม่สามารถที่จะลดการอักเสบได้
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดเอทานอล 95% จากเหง้าแห้งและก็ราก ความเข้มข้น 25 มิลลิกรัม/หลุม ทดลองในจานเพาะเชื้อPseudomonas aeruginosa, Staphylococcus aureus, Streptococcus epidermidis, Streptococcus pyogenes พบว่าสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ว่าก็พบว่าบางการทดสอบ เมื่อทดสอบกับเชื้อ S. aureus, S. pyogenes สามารถต่อต้านเชื้อได้เพียงเล็กน้อย สารสกัดน้ำจากราก ความเข้มข้น 10 มิลลิลิตร/จานเพาะเชื้อ สารสกัดเอทานอล 95% จากราก ไม่ระบุขนาด สารสกัดน้ำ เฮกเซน รวมทั้งเอทานอลจากราก ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/มล. สารสกัดเมทานอลจากรากไม่เจาะจงขนาด ทดลองสำหรับการจานเพาะเชื้อ S. aureus , P. aeruginosa พบว่าไม่อาจจะต้านเชื้อแบคทีเรียได้
นอกเหนือจากนั้นยังมีการเล่าเรียนทางคลินิกในชะเอมเทศอีกดังเช่นกรณีคนป่วยโรคกระเพาะอาหาร การกินรากชะเอมเทศจะมีผลให้แผลหายเร็วขึ้น 75% สาระสำคัญคือสารglycyrrhetic acid (enoxolone) ซึ่งมีฤทธิ์ยั้งเอนไซม์ 15-hydroxyprostaglandin dehydrogenase แล้วก็ –prostaglandin reductase ทำให้มีการสร้างสาร prostaglandins E แล้วก็ F ที่กระเพาะ ซึ่งจะช่วยการสมานแผลกระเพาะก้าวหน้า
ส่วนในกรณีผู้เจ็บป่วยโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เมื่อกินชะเอมเทศที่มีการสกัดเอาสาร glycyrrhizin ออกไปแล้วในปริมาณ 380 มก. วันละ 3 ครั้ง พบว่าให้ผลการรักษาเท่ากันกับการให้ยาลดกรดและก็ยา cimetidine
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษในมนุษย์ เมื่อนำสารสกัดน้ำจากรากชะเอมเทศ ไปใช้เป็นยาระบายในคน เจอ 5 ราย เกิดเป็นพิษ โดยมีอาการภาวะความดันโลหิตสูง โดยระดับโพแทสเซียมไอออนเพิ่มพลาสมาเรนิน รวมทั้งระดับ aldosterone น้อยลง นอกเหนือจากนั้นผู้ที่กินสารสกัดน้ำจากรากไม่ระบุขนาด พบว่ามีอาการความดันเลือดสูง กระดูกจมูก ขากรรไกร นิ้วมือนิ้วเท้าโตกว่าธรรมดา (acromegaly) แล้วก็มีลักษณะอาการบวมน้ำร่วมด้วย ยิ่งกว่านั้นยังเจอรายงานอาการความดันเลือดสูงเมื่อรับประทานรากชะเอมเทศ เป็นต้นว่า หญิงรับประทานรากชะเอมเทศไม่เจาะจงขนาด หญิงอายุ 40 ปี กินรากชะเอมเทศขนาด 100 กรัม/วัน ผู้ป่วยหญิงความเป็นมาเป็นโรคไม่อยากกินอาหารชายอายุ 36 ปี รับประทาน ขนาด 25 ก./วัน นาน 1 เดือน และเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี รับประทานลูกกวาดที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบอยู่ 0.5 ก. นอกจากนั้นยังมีรายงานความเป็นพิษของตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ โดยนำมาซึ่งความดันเลือดสูง เป็นต้นว่าหญิงรับประทานตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ขนาด 0.25 กิโลกรัม/วัน รวมทั้งยังมีแถลงการณ์ว่าหญิงรับประทานชาชงชะเอมเทศ ขนาด 3 ล./วัน มีอาการภาวะความดันโลหิตสูง
การทดสอบความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง
สารสกัดเอทานอล-น้ำ (1:1) จากราก ฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50)เท่ากับ 681 มิลลิกรัม/กก. แล้วก็สารสกัดน้ำซึ่งมี glycyrrhizin อยู่ 48-58 % ฉีดเข้าท้องหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่ง (LD50) เท่ากับ 1.5 ก./กก. เมื่อป้อนทางปากหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50) พอๆกับ 16 ก./กก. เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูขาว หนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งเดียว (LD50) เท่ากับ 4.2 กรัม/กิโลกรัมอีกการทดสอบพบว่าสารสกัดเอทานอล 30% จากรากไม่ระบุขนาดป้อนให้ทางปากหนูถีบจักรพบว่า ค่าที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายกึ่งหนึ่ง (LD50) พอๆกับ 32 มิลลิลิตร/กก.สารสกัดจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร พบว่าค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองตายสูงที่สุด (MLD) เท่ากับ 23.6 ก/กก นอกเหนือจากนั้นการทดสอบตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ทดลองในหนูถีบจักรเพศผู้เพศเมีย พบว่าค่า LD50 มากกว่า 5 กรัม/กก. แล้วก็สารสกัดเอทานอลจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ทดสอบในหนูถีบจักรพบว่าค่า LD50 เท่ากับ 1.8 กรัม/กิโลกรัม
พิษต่อตัวอ่อน สารสกัดเอทานอล 40% จากราก ขนาด 1.6 มล./กิโลกรัมทดลองในกระต่ายและหนูขาวที่ตั้งท้อง ไม่เจอความเป็นพิษต่อตัวอ่อน นอกจากนี้การศึกษาความเป็นพิษ พบว่าเมื่อให้สารสกัดดังกล่าวตรงเวลา 13 สัปดาห์ ไม่เจอความเป็นพิษต่อทุกระบบ ยังพบว่าสารสกัดเอทานอล95% จากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ขนาด 250 มก./กิโลกรัม ให้ทางสายยางลงสู่กระเพาะอาหารหนูขาวที่ท้อง พบความเป็นพิษต่อตัวอ่อนแต่ว่าผลที่เกิดไม่แน่นอน (equivocal) และสารสกัดไม่เจาะจงส่วน ขนาด 200 มิลลิกรัม/กก.ทดสอบในหนูขาวและก็หนูถีบจักร ไม่เจอความเป็นพิษต่อระบบต่างๆของร่างกาย นอกจากนั้นยาชงจากรากชะเอมเทศ ไม่กำหนดขนาด ให้ทางสายยางเข้าไปในกระเพาะอาหารหมารวมทั้งหนูขาว ไม่เจอความเป็นพิษ
พิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ความเข้มข้น 250 มคก./มิลลิลิตร แล้วก็ 500 มคก./มล.ทดสอบในการเพาะเลี้ยง CA-mamary-microalveolar พบว่าความเข้มข้นขนาด 250 มคก. มีความเป็นพิษต่อเซลล์อย่างอ่อน ส่วนความเข้มข้น 500 มคกรัม ไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์ นอกจากนั้นยังพบว่าสารสกัดน้ำร้อนจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ความเข้มข้น 500 มคล./มิลลิลิตรทดลองสำหรับในการเพาะเลี้ยง cells-HE-1 ความเข้มข้น 250 มคล./มล. ทดลองในการเพาะเลี้ยง CA-JTC-26 พบว่าที่ความเข้มข้น 500 มคลิตร ปราศจากความเป็นพิษต่อเซลล์ ส่วนความเข้มข้น 250 มคลิตร พบว่าเป็นพิษต่อเซลล์ อีกการทดลองหนึ่งพบว่าสารสกัดเอทานอล-น้ำ (1:1) จากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นองค์ประกอบ ขนาด 25 มคกรัม/มิลลิลิตร ทดสอบสำหรับเพื่อการเพาะเลี้ยง CA-9KB ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ขนาด 2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ทดลองสำหรับเพื่อการเพาะเลี้ยง Hela cells ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำ สารสกัดเมทานอลจากรากชะเอมเทศ ความเข้มข้น 100 มคก/มิลลิลิตร ทดลองในการเพาะเลี้ยง Vero cells ไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์นอกเหนือจากนั้นสารสกัดน้ำจากรากชะเอมเทศ ความเข้มข้น 10% ความเข้มข้น 400 มคลิตร/มิลลิลิตรทดสอบสำหรับเพื่อการเพาะเลี้ยง Hela cells และก็ cell-MT2 เป็นลำดับ ไม่เจอความเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดเมทานอลจากราก ทดลองสำหรับการเพาะเลี้ยง Ishikava cells และ S-30 cells พบว่าค่า IC50 เท่ากับ มากยิ่งกว่า 20 มคก./มล. แต่ไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดน้ำจากตำรับที่มีชะเอมเทศเป็นส่วนประกอบ ไม่เจาะจงความเข้มข้น ทดลองสำหรับในการเพาะเลี้ยง Salmonella typhimurium TA100, TA98 ไม่เจอฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์
ข้อแนะนำ/ข้อควรตรึกตรอง
1. ห้ามใช้ในคนเจ็บที่มีความดันเลือดสูง ตับแข็ง ภาวการณ์โปตัสเซียมต่ำ โรคไตเรื้อรัง โรคตับอักเสบ และหญิงมีท้อง
2. ห้ามใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
3. เลี่ยงการใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาขับปัสสาวะSpironolactone หรือ Amiloride เนื่องจากว่าจะมีผลให้ประสิทธิผลของการรักษาโรคความดันเลือดลดลง
4. คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดเว้นบริโภคชะเอมเทศอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุว่าชะเอมเทศอาจก่อกวนการควบคุมความดันโลหิตในระหว่างรวมทั้งหลังการผ่าตัด
5. ชะเอมเทศในขนาดที่มากกว่า 50กรัม/วัน เกินกว่า 6 สัปดาห์ จะทำให้เกิดการสะสมน้ำภายในร่างกาย มีการบวมที่มือและก็เท้า สารโซเดียมถูกขับได้น้อยลง ในช่วงเวลาที่สารโพแทสเซียมถูกขับเพิ่มมากขึ้น นำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง

  • นพมาศ สุนทรเจริญนนท์. ชะเอมเทศ.บทความวิชาการ สมุนไพรในตำรับยาหอม.จุลสารข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่28.ฉบับที่2.มกราคม 2554 หน้า 7-12
  • ชยันต์ พิเชียรสุนทร และ วิเชียร จีรวงศ์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทยเล่ม 1 น้ำกระสายยา. พิมพ์ครั้งที่ กทม. อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2556. หน้า 34 – 35
  • ชะเอมเทศ.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • สุจิตรา ทองประดิษฐ์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง วิสุดา สุวิทยาวัฒน์ จรุงจันทร์ กิจผาติ.  การศึกษาความเป็นพิษของยาหอม.  วารสารสมุนไพร2542;6(1):1-10.https://www.disthai.com/[/color]
  • ชะเอมเทศกับความดันโลหิตสูง.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหิดล.
  • ชะเอมเทศ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.Patcharin B, Pusit S, Malee L.  Preparation and evaluation of cough pills from natural products.  Special project, Faculty of Pharmacy, Mahidol University, 1984:30pp.
  • Naovi SAH, Khan MSY, Vohora SB.  Anti-bacterial, ant
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ