หัวข้อ: กล้องถ่ายภาพถ่ายรูป VS กล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือ หากว่าหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แ เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ ธันวาคม 27, 2018, 03:17:33 am ครั้นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันน่าจำจนต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นภาพถ่าย และมันจักพิเศษขึ้นอีก ครั้นในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น “กล้องถ่ายภาพ” นั่นเอง โดยในเวลานี้ ใครก็ตาม ต่างก็มีมือถือที่มีกล้องถ่ายภาพพร้อมกันมาด้วย สำหรับง่ายต่อการใช้งาน มิจำเป็นต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบโต อีกทั้งยังมีความคมชัดมิได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายภาพ DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แต่กระนั้นที่แท้นั้นมันยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่แตกต่างกันอยู่เยอะแยะเลยเทียว
อาทิเช่นเรื่องเซนเซอร์ ด้วยเหตุว่ากล้องถ่ายรูปจะมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายรูปจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะเก็บแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดปลีกย่อยภาพที่ยิ่งกว่า มีมิติดีกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า สำหรับสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายรูปเท่าใดนัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลลัพธ์ต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยลด Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องมือถือก็จะเห็น Noise มากกว่าภาพจากกล้องทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องโทรศัพท์มือถือเล็กกว่ากล้องทั่วๆ ไป ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปดีกว่ากล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ หากเป็นการซูมของกล้องถ่ายภาพ คุณสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่แบรนด์มือถือที่จะมีคุณลักษณะนี้ เพราะภาพบางภาพ ก็จำเป็นต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อให้ได้ความสัมพันธ์ของวัตถุบนภาพที่ดีที่สุด รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เพราะว่าในสมาร์ทโฟนของท่านคงจะมีทั้งรูปถ่าย เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาชัวร์ ถ้าเธอคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพท่านตลอดทริปที่กินซ่าหรือพาคนรักท่องเที่ยว Universal Studios เพราะคุณคงจะมิอยากมานั่งลบภาพถ่าย ลบเพลงโปรด หรือไม่ลิสหนังโด่งดังของเธอหรอก แต่ถ้าว่ายอมสะพายกล้องถ่ายรูปสักตัว พร้อมกับเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเธอได้ทั้งรูปที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของเจ้าแน่นอน นั่นเป็นข้อมูลเบื้องต้นว่าเพราะเหตุใดคุณถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายภาพตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องสมาร์ทโฟนไว้ก่อน และอาจจะพักยาวๆ เลย ถ้าหากได้รู้จักกับกล้องถ่ายภาพตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดสำคัญ ๆ ของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนไหม กล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดๆที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่เหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม จุดแข็งของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องจากกล้อง Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop ซึ่งถ้าหากถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสวยงามแม้ที่แสงสว่างน้อย โดยที่เธอไม่จำเป็นตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วยซ้ำ แถมกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ อีกทั้งทำให้การบันทึกภาพยนตร์ของเจ้ามิเป็นปัญหาเช่นกัน โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเทียว ที่ถึงแม้ว่าจะถือด้วยมือ และไม่ได้มีอุปกรณ์เพิ่มเติมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแบ่งย่อยเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย จะเห็นว่านี่แค่ข้อเด่นเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็พิชิตกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือลอยลำแล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะหลายอย่าง อีกมากมายก่ายกองเลยที่ยังไม่ได้อ้างอิงถึง ตัวอย่างเช่น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้เจ้าปรับตั้งค่าตามที่คุณต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ได้แก่ Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายอยู่เหมือนกัน เพื่อภาพมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น และจุดหลักอีกอย่างของกล้อง Olympus ตัวนี้ คือมีสัดส่วนที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้แค่ 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำดูถูกที่ว่า “กล้องมันหนัก” ไปได้เลย คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา
|