|
หัวข้อ: เครื่องเย็บผ้า กับความรู้ดี ๆ ที่แม่บ้านต้องใส่ใจ เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ ธันวาคม 29, 2018, 09:55:37 am คงมีแม่เหย้าแม่เรือนหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบแก้เครื่องนุ่งห่มหรือเย็บผ้า ซึ่งอุปกรณ์สำคัญคงหนีไม่พ้นเครื่องเย็บผ้านั่นเอง ซึ่งใครอยากจักได้เครื่องเย็บผ้าสักเครื่องและไม่มีข้อมูลมาก่อนอาจจะพิศวงงงงวยน่าดูเลยเชียว ข้าพเจ้าเลยประมวลข้อมูลและความรู้มาให้ทุกคนรับทราบกัน
ในทุกวันนี้ผู้ประกอบการได้มีการออกแบบเครื่องเย็บผ้าออกมาต่างๆนาๆแบบ ซึ่งดีไซน์ให้มีตามสมัยเพิ่มมากขึ้น ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังดีไซน์ให้สามารถใช้งานได้หลายหลาก ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกเฟ้นซื้อจักรเย็บผ้าได้ตามจุดมุ่งหมายที่พึงปรารถนาใช้งานดังนี้ 1. รู้วัตถุประสงค์ที่จักหยิบยกไปใช้ ควรตั้งต้นจากการที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนแล้วว่าต้องการเลือกซื้อจักรเย็บผ้า สำหรับมาใช้งานอย่างใดอาทิเช่น ซ่อมเครื่องแต่งตัวทั่วไป ซึ่งขั้นพื้นฐานสำหรับมือใหม่หรือว่าหมายเพียงนำมาใช้แก้ไข ตกแต่งเสื้อผ้าในยามจำเป็นและซ่อมเป้หรือไม่ของใช้เล็กๆ น้อยๆ สามารถเลือกเป็นจักรเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการซ่อมทางตรงเพียงอย่างเดียวก็พอเพียง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีทั้งจักรเย็บผ้าไฟฟ้าหรือว่าจักรคอมที่มีขนาดกะทัดรัด ปุปะได้นุ่มนวลและใช้งานสบายกว่าหัวจักรเหล็กที่จะเน้นความเสถียรคงทนถาวรจากการใช้งานอย่างครั้งแล้วครั้งเล่า อยู่ที่ว่าต้องการเย็บเป็นอดิเรกหรือประสงค์รับงานซ่อมมาปะเพิ่มเติมด้วยนั่นเอง ทำงานฝีมือ นอกจากจักรที่มีฟังก์ชันการเย็บทางตรงอย่างเดียวแล้ว ก็ยังมีรูปแบบที่เพิ่มฟังก์ชันการซ่อมตะเข็บแบบอื่นๆ เช่นแนวซิกแซก รวมทั้งการเย็บงานควิ้นล์ และในบางรุ่นอาจจะบวกการปักเข้ามาด้วย โดยจักเหมาะกับการปะเครื่องนุ่งห่มทั่วไปพร้อมทั้งทำงานฝีมืออื่น ๆ เสริมเพิ่มด้วย ถ้าหากวันไหนอยากตัดเย็บขากางเกงก็ทำได้ 2. ตั้งงบประมาณและตรวจสอบราคา ภายหลังรับรู้เหตุจำเป็นและเลือกเฟ้นรูปแบบเครื่องเย็บผ้าที่ต้องการได้แล้ว หลังจากนั้นก็ควรตั้งงบและสำรวจราคากัน ซึ่งเครื่องเย็บผ้าที่ไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ก็อาจเริ่มที่ 3,000-4,000 บาท แม้กระนั้นถ้าเป็นเครื่องเย็บผ้าที่สามารถปุปะได้หลายรูปแบบหรือจักรเย็บผ้าปักก็อาจจะมีราคาสูงถึงหลักหมื่น 3. ดูผลิตภัณฑ์ของจริง ก่อนที่จะจับจ่ายใช้สอยผู้ชื้อควรได้ดูสินค้าจริงๆ มากกว่าการดูผ่านแค่รูปถ่ายอย่างเดียว ควรจะเดินทางไปดูสินค้าจริงที่ร้านขายจริงๆโดยตรง บางร้านค้าอาจมีการสาธิตการใช้งานจักรเย็บผ้ารุ่นต่างๆ ให้ได้ดู รวมถึงผู้ซื้อยังสามารถสอบถามสิ่งที่ต้องการทราบจากผู้ชำนาญด้วย 4. เปรียบจุดเด่นสิ่งบกพร่องของแต่ละรุ่น ภายหลังที่ได้ดูผลิตภัณฑ์ของจริงแล้ว ควรมีการหยิบยกข้อมูลที่ได้มาทำการเปรียบเทียบรุ่นของจักรเย็บผ้าว่าแต่ละรุ่นมีความต่างกันยังไง เช่นปัญญาสามารถ วิธีการใช้งาน รวมถึงมูลค่าจักรเย็บผ้าแต่ละรุ่นด้วย 5. ตรวจดูบริการหลังการขาย บริการหลังการขายเป็นอีกข้อสำคัญในการคัดเลือกซื้อจักรเย็บผ้า เพราะเช่นนั้นหากร้านค้าขายจักรเย็บผ้าที่ให้บริการมีการบริการเสริมเหนือจากการจัดจำหน่าย จักรเย็บผ้า อาทิเช่น การบริการซ่อมแซม การบริการยักย้าย การบริการติดตั้ง จักทำให้ผู้ใช้สะดวกในการใช้งานจักรเย็บผ้าและขนส่งมากเพิ่มขึ้นรวมทั้งผู้ใช้ควรคัดร้านรวงซื้อขายเครื่องเย็บผ้าที่มีชิ้นส่วนจักรเย็บผ้าให้บริการจนกระทั่งเสื่อมคุณภาพ ทันทีที่ได้จักรเย็บผ้ามาแล้วการดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำตามมาดังต่อไปนี้
โดยสำรวจดูความเรียบร้อยทั่วไป ดังเช่น ความไม่ชอบมาพากลที่เนื้อที่ตัวเครื่องจักรและมอเตอร์ ทำความสะอาดที่แถวเท้าทับผ้า แท่นฟันจักร เข็มจักรและโดยรอบ ตัวเรือนกระสวย และหลังจากเลิกใช้เครื่องเย็บผ้าแล้ว ให้นำเศษผ้า มากางไว้ที่ใต้เท้าทับผ้าเสมอ 2. การถนอมประจำอาทิตย์ โดยตรวจทานตรวจสอบดูระดับน้ำมัน ให้อยู่ในระดับที่แน่นอน คือ ระดับ High กับ Low ถ้าน้ำมันเปรอะเปื้อนมาก ควรทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันจักร โดยใส่น้ำมันอีกครั้ง ให้ได้ระดับตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน และควรจะสำรวจความตึงของสายพานจักร โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมทั้งหยอดน้ำมันหล่อลื่น ตรงจุดรอยต่อหรือตรงชิ้นส่วนที่เกิดการเสียดสี อย่างไรก็ดีอย่าหยอดน้ำมันมากเกินไป เนื่องด้วยจะทำให้น้ำมันไหลออกมาข้างนอกจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน หัตถศิลป์นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ทักษะผู้ทำ อย่างไรก็ตามอุปกรณ์อย่างจักรที่ดีมีคุณภาพก็เป็นตัวช่วยสำคัญให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากที่ผมรวมความถึงข้อมูลก่อนการเลือกซื้อและการรักษาเครื่องเย็บผ้าไปแล้วนั้น คาดหวังว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้สนใจทุกคนนะฮะ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี Tags : จักรเย็บผ้า,จักรเย็บผ้า ราคา,จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี
|