ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: penpaka2tory ที่ มกราคม 07, 2019, 09:19:12 am



หัวข้อ: สัตวแพทย์รักษาสุนัข ด่วนเร่งด่วน รักษาโรคผิวหนังต่างๆ และ มดลูกอักเสบ ตั้งอยู่ซ.
เริ่มหัวข้อโดย: penpaka2tory ที่ มกราคม 07, 2019, 09:19:12 am
สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนฉุกเฉิน ขูดหินปูน มดลูกอักเสบ ตั้งอยู่ซ.พัฒนาการ 20 ติดห้าง Maxvalue
คลินิกของเรารักษาสัตว์ อยู่ตรง ซ.พัฒนาการ 30 ทะลุกันได้ ติดห้าง Maxvalue
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมารวมทั้งแมว เป็นยังไง
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมารวมทั้งแมว เป็นโรคติดเชื้อโรคที่เกิดขึ้นมาจากแบคทีเรีย โรคนี้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดหนองเลือด เป็นพิษตามผิวหนัง หรือเยื่อไขกระดูกอักเสบ ถ้าเป็นในกรณีที่รุนแรงมากมาย อาจเสียชีวิตได้
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขรวมทั้งแมว เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากอะไร?
โรคติดเชื้อจากน้ำลายหมาและก็แมว เป็นอาการติดเชื้อโรคจากแบคทีเรีย Pastsrera ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งบางทีอาจพบจากด้านในปากของสุนัข 75% รวมทั้งแมวสูงถึง 97% เจ้าของอาจดำเนินชีวิตคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงเยอะเกินไป จนทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าสูงร่างกายผ่านน้ำลายของสัตว์เลี้ยง หรือการดมเอาแบคทีเรียเข้าไปผ่านจมูก อย่างเช่น การจูบ หรือหอมสัตว์เลี้ยงเสมอๆ
 
โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขรวมทั้งแมว มีลักษณะอย่างไร
ถ้าเกิดติดโรคผ่านการดมหายใจเอาแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านจมูก อาจก่อให้มีลักษณะอาการคัดจมูกเหมือนเป็นหวัด แม้กระนั้นที่จริงแล้วเป็นอาการของโพรงจมูกอักเสบ เป็นหนอง ถ้าเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ดวงตา ก็อาจจะส่งผลให้มีลักษณะตาแดง เลือดคั่งในตา
นอกเหนือจากนั้นยังอาจมีไข้สูง ไอค่อนข้างจะหนัก จนถึงบางทีอาจถึงขนาดไอเป็นเลือด เมื่อปอดติดเชื้อโรค

โรคติดเชื้อจากน้ำลายสุนัขรวมทั้งแมว อันตรายมากหรือไม่?
ที่จริงแล้วแม้เป็นคนที่มีภูมิต้านทานโรคดี ร่างกายธรรมดาแข็งแรงอยู่แล้ว ร่างกายบางทีอาจต่อต้านแบคทีเรียจนหายเป็นปกติได้เอง แต่ว่าถ้าหากยังคงได้รับเชื้อแบคทีเรียจากสัตว์เลี้ยงโดยตลอด บวกกับร่างกายเริ่มไม่แข็งแรง พักน้อย กินอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณประโยชน์ และไม่ได้บริหารร่างกายบ่อยๆ อาจจะส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียประทุษร้ายหนักขึ้นเรื่อยกระทั่งบางทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน ความร้ายแรงของโรคก็เลยขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานโรค แล้วก็สุขภาพของแต่ละคนด้วย
 
พิจารณาได้อย่างไร ว่าสุนัขและแมวของเรา มีเชื้อแบคทีเรียที่มีอันตรายต่อพวกเราไหม
เป็นเรื่องยากที่จะดูจากด้านนอกได้ว่า สุนัขหรือแมวมีเชื้อแบคทีเรียที่เกิดอันตรายต่อเราหรือเปล่า เพราะว่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปากของสุนัขแล้วก็แมว ไม่ได้มีอันตรายต่อหมาแล้วก็แมวเอง แม้กระนั้นเกิดอันตรายต่อมนุษย์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรจะระวังไม่ว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของ ได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่ก็ตาม
 
ถ้าเกิดมีลักษณะคัดจมูก ตาแดง เป็นไข้สูง หรือไอหนัก โดยที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง และคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด บางทีอาจจะต้องเจอหมอเพื่อหาปัจจัยที่แท้จริง แล้วก็รีบกระทำรักษาอย่างทันทีทันควันค่ะ
การตัดหางหมา
หมาบางพันธุ์นิยมตัดหาง ให้เหลือความยาวตามลักษณะในประเภทนั้นนิยม ซึ่งก็ควรจะตัดในตอนที่ยังมีอายุยังน้อยๆอยู่เพื่อไม่มีเลือดออกมามาก สุนัขไม่ปวด แผลหายเร็วรวมทั้งทำเป็นง่ายโดยไม่ต้องวางยาสลบ เพราะฉะนั้นสุนัขประเภทที่ต้องตัดหางข้างหลังคลอดควรที่จะนำลูกหมาไปกระทำการตัดหางภายในหนึ่งสัปดาห์หากจะตัดหางเองจำเป็นต้องทำในระยะไม่เกิน 7 คราวหน้าคลอด โดยการขลิบขนบริเวณหางที่อยากได้เอาออกให้ถึงผิวหนังแล้วทำความสะอาดด้วยการใช้แอลกอฮอล์ หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ทาให้ทั่ว ต่อจากนั้นก็รูดผิวหนังขึ้นมาทางโคนหางแล้วก็ใช้เชือกหรือยางรัดไว้ให้แน่นตรงข้อที่ 2 ของกระดูกโคนหาง ใช้กรรไกรที่ฆ่าเชื้อแล้วตัดตรงระหว่างข้อของกระดูกที่จะตัด แล้วแต้มด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน ทิ้งเอาไว้ 4-5 ชั่วโมง จึงค่อยเอาเชือกหรือยางรัดออกปลดปล่อยให้แผลหาย โดยมากผิวหนังของหางที่รูดขึ้นไปก็จะรูดลงมาเอง หรืออาจจะเย็บปิดก็ได้ถ้าอยาก
การตัดหูสุนัข
หมาบางประเภทนิยมตัดหู ได้แก่ บ็อกเซอร์, โดเบอร์แมน, มินิพบร์ พินเซอร์ แล้วก็เกรท เดน ซึ่งก็ควรจะกระทำตัดหูเมื่อลูกสุนัขอายุระหว่าง 12-14 อาทิตย์ เพราะเหตุว่าขนาดโตพอที่จะทำผาตัดได้ง่าย ทนต่อการวางยาสลบ หลังจากตัดแล้วแพทย์ต้องดามหูไว้จนกระทั่งหูจะตั้งตรงตามอยาก ซึ่งกินเวลาราวๆ 3-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้เจ้าของต้องคอยดูและอยู่ให้สุนัขเกาแผลจนถึงไหมที่เย็บหลุด หรือแผลเลอะเทอะ ด้วยเหตุว่าจะก่อให้รูปทรงของหูไม่เป็นไปตามอยาก
การอาบน้ำสุนัข
สุนัขก็เหมือนผู้ที่ต้องดูแลความสะอาดและตกแต่งให้มองสวย สวยอยู่เป็นประจำ เพราะว่ามันไม่สามารถจะทำความสะอาดรวมทั้งแต่งหน้าให้ กับตัวเองได้ ผู้เลี้ยงก็เลยต้องทำหน้าที่ พึงพอใจในตัวของมันเหมือนกับเป็นตัวของมันเองอย่างยิ่งจริงๆ การอาบน้ำจำต้องใช้แชมพู แล้วก็สบู่พร้อมกันไปด้วย ควรที่จะเลือกซื้อแชมพูหรือไม่ก็สบู่ที่ทำขึ้นสำหรับใช้กับสุนัขเพียงแค่นั้น อย่านำยาสระผมหรือสบู่ของคนมาใช้กับหมาโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุว่าผิวหนังของสุนัขบางประเภทเปราะบางมากมาย ถ้าหากอาบน้ำด้วยยาสระผมหรือสบู่ของคน จะทำให้มีปัญหาเรื่องขนแห้ง หยาบ รวมทั้งมีสะเก็ดรังแคขึ้นบนผิวหนัง บางตัวเป็นหนักถึงอาจจะขนหล่นไปเลยก็มี ตอนนี้แชมพูสุนัขมีให้เลือกหลายสูตร มีทั้งแบบผสมครีมในตัว ชนิดทูอินวัน หรือ ทรีอินวัน จำพวกที่มีสารฆ่าเห็บ ฆ่าหมัด เยอะมากมากมายก่ายกองไปหมด ก่อนซื้อควรอ่านมองฉลากข้างขวดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะอะไรบ้าง ใส่เท่าไร หมดอายุวันไหน แล้วจึงเลือกซื้อมาใช้ให้ถูกกับลูกสุนัขของเรา
แนวทางอาบน้ำให้หมา
เครื่องมือต้องจัดเตรียมหมายถึงแชมพูสำหรับสุนัข ผ้าที่เอาไว้เช็ดตัว อ่างน้ำ หรือสายยาง ที่ต่อจากก๊อกน้ำ เครื่องเป่าผม
วิธีการอาบน้ำให้สุนัขทำได้ดังนี้ คือ
1. จับหมาให้อยู่ในอ่างนิ่งๆโดยการจับที่ปลอกสำหรับใส่คอ เป็นไปได้ควรจะอุดหู ทั้งสองข้าง ของสุนัขด้วยสำลีเพื่อป้องกันมิให้น้ำน่าฟัง แล้วจึงค่อยเทน้ำลง บนตัวหมาให้ทั่วตลอดตัว
2. ใช้แชมพูสุนัขเทลงบนตัวหมา แล้วจึงใช้มือถูนวดยาสระผมให้ทั่วใน ในช่วงเวลาที่มืออีกข้างหนึ่งยังจับปลอกใส่คอหมาอยู่เพื่อจะให้มันอยู่นิ่งๆ
3. ล้างยาสระผมที่ท่อนหัวของลูกหมาก่อน จากนั้นจึงล้างยาสระผมที่ลำตัวให้ แล้วก็ใช้ผ้าขัดถูให้ แห้งตลอดตัว
4. เอาสำลีที่อุดหูออก แล้วเป่าขนให้แห้ง กับแปรงขนให้ได้รูป ทรงตามที่อยาก
 
เทคนิคการหวีและแปรงขนสุนัข
การแปรงขนหมาทุกวันจะก่อให้สุนัขมีร่างกายแข็งแรง ขนเป็นเงาสวย ไม่มีสิ่งสกปรกหมักหมมอยู่ ในขนหมา พันธุ์ขนยาว ยกตัวอย่างเช่น อาฟกัน ฮาวด์ ชิสุ ควรจะหวี ทุกเมื่อเชื่อวัน ส่วนสุนัขพันธุ์ขนสั้น ยกตัวอย่างเช่น บลูด็อก เกรดเดน แปรงขนเพียงแค่2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ ส่วนสุนัขชนิดพุดเดิ้ลจะต้องใช้การตัดแต่งขน จะหวีให้ตรงแบบสุนัขประเภทอื่นมิได้
การหวีขนสุนัขประเภทขนสั้น
เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้มีแปรงบิสเทิล แปรงหวีสลิดเกอร์ หวีตรง ขั้นตอนการหวี มีดังนี้
- ใช้หวีแปรงสลิดเกอร์หวีก่อน เพื่อจำกัดเอาขนที่พันออกไม่ให้เกิดก้อน สังกะตัง ออกแรงหวีเพียง เบาๆนุ่มๆหวียาวๆจากคอถึงลำตัวทำเช่นนี้ทั่วตัว
- ใช้หวีบิสเทิลแปรง เพื่อเอาขนที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกให้หลุดออกมาจากขนย้ายหมาหมดทั้งตัว
- ใช้หวีตรง หวีรอบๆที่ยาว อย่างเช่น ส่วนของหาง เท้า ขา ถ้าพบว่าขนพันกันให้ใช้กรรไกรเอาทิ้ง สุนัขจะได้ไม่เจ็บ
การหวีขนสุนัขที่สั้นจู๋
อุปกรณ์ที่ใช้มี แปรงรับเบอร์ หนังชามัวร์ แปรงบิสเทิล
- ใช้แปรงรับเบอร์ เพื่อแปรงย้อนขนสุนัขจะทำให้ขนตาย แล้วก็สะเก็ด ผิวหนัง สิ่งสกปรกหลุดออกโดยง่าย
- ใช้แปรงบิสเทิล แปรงขนตัวสุนัขอีกครั้งให้ทั่วหมดทั้งตัว เพื่อเอาขนที่ตายรวมทั้งสะเก็ดออก
- เช็คขนสุนัขด้วยหนังชามัวร์ เพื่อให้ขนวาวเงาสวย
การหวีขนหมาที่ขนตรงยาว
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงสลิดเกอร์ แปรงบิสเทิล หวีตรง กรรไกร
- ใช้แปรงสลิดเกอร์หวีขนก่อน เพื่อทำให้ขนที่พันกันอยู่คลายตัวออก
- ใช้แปรงบิสเทิลหวีตามอีกที เพื่อทำให้ขนมันเงา และหวีง่ายดายมากยิ่งขึ้นไปอีก
- ใช้หวีตรง หวีจัดให้ขนย้ายหมาตกลงไปข้างลำตัว ด้านซ้ายรวมทั้งทางขวาตามแนวขน
- ใช้กรรไกรตัดแต่งรอบๆเท้าแล้วก็หู เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมองสวยงาม
การดูแลหูสุนัข
หูมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง สุนัขที่มีหูธรรมดาจะต้องมีสีชมพูเรื่อยสะอาด ไม่มีกลิ่นแตกต่างจากปกติ หูควรสะอาดไม่มีขี้หูมากจนเกินความจำเป็น ไม่มีเห็บ หรือหมัด ไม่เป็นแผล หนอง หมาบางจำพวกและพวกพุดเดิ้ล มักมีขนขึ้นที่รอบๆช่องหู ขนเหล่านี้จะเป็นตัวเพาะเชื้อโรค และก็หมักหมมส่งเปรอะเปื้อนทั้งหลายได้เป็นอย่างดี พวกหูยานก็เก็บสิ่ง
เลอะเทอะต่างๆได้ง่ายจึงต้องหมั่นเอาใจใส่เช็ดถูสิ่งสกปรกในช่องหูออกให้หมด พวกหูตั้งนี้รักษาง่าย เนื่องจากช่องหูสามารถถ่ายเทกับอากาศภายนอกได้โดยธรรมชาติ ดังนั้นสิ่งสกปรกต่างๆจึงไม่สามารถที่จะหมักหมมกระทั่งเกิดโรคได้มากนัก หากหูสุนัขสกปรกมากมายก็ควรที่จะใช้สำลีหรือผ้านุ่มๆขัดถูบริเวณใบหูและรูหูส่วนนอกๆเป็นประจำทางที่ดีข้างหลังการอาบน้ำ ด้วยเหตุว่าสามารถวิเคราะห์ว่ามีน้ำหลงเหลือเข้าไปในรูหูหรือเปล่า ถ้าหากมีจะได้ขัดถูออกให้แห้ง เป็นการคุ้มครองหูอักเสบได้ด้วย แต่อย่าได้พยายามชำระล้างลึกเข้าไปในรูหูเด็ดขาด บริเวณอ่อนไหวดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นควรปลดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์
 
การดูแลตาหมา
ตาของสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีแววตาแจ่มใส ไม่ขุ่นหมองหรือมีสีแดง หรือมีขี้หูขี้ตา และก็น้ำตาไหลเป็นรอยเปื้อนอยู่เสมอก็แปลว่าควรมีอะไรผิดปกติเข้าตา ถ้าหากเป็นโรคตาอักเสบธรรมดาด้วยเหตุว่าผงเข้าตา ก็ควรจะใช้น้ำยาล้างตา 4-5 หยด ใส่เพื่อสิ่งสกปรกออกก่อน แล้วใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดเบาๆรอบๆขอบตาออกได้ ถ้าเป็นมากกว่านี้น่าจะนำไปเจอสัตวแพทย์สุนัขบางจำพวก อาทิเช่น พวก พุดเดิ้ล มักมีรอยด่างสีน้ำตาลที่ขนใต้ตาเสมอ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากว่าขนบริเวณนั้นโชกเพราะหยดน้ำตาของหมา คราบเปื้อนน้ำตานี้จะติดแน่นที่หัวตาย้อยลงมา การกำจัดรอยด่างนี้ทำเป็นโดยการหมั่นเช็ดถูให้บ่อยๆครั้งทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อให้ขนที่ติดคราบเปื้อนน้ำตานี้ค่อยๆหลุดตกหมดไปหมาบางตัวตาแฉะ บางครั้งอาจจะเป็นเพราะเหตุว่าขนตาขึ้นไม่ดีเหมือนปกติ แยงเข้าไปในดวงตา การดูแลรักษาอาการนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์
การดูแลฟันสุนัข
โดยธรรมดาแล้วหมาฟันผุได้ยากมากมาย แต่ว่าที่มองเห็นหลายครั้งคือ เหงือกอักเสบ เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากฟันหมาไม่สะอาด ขี้ฟันหมักหมมกระทั่งจับมาแบบเป็นๆรอยคราบที่เป็นสีเหลืองเกาะติดที่ผิวฟันหมายถึงหินปูนนั่นเอง ครั้งคราวหินปูนมีมากแล้วก็แผ่ขยายไปจนถึงเงือก ทำให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก จวบจนกระทั่งฟันหลุดไปในที่สุดวิธีคุ้มครองป้องกันการจับกุมตัวของหินปูน ควรให้หมารับประทานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นเม็ดแห้ง หรือให้แทะกระดูกเสียบ้างเพื่อขัดฟัน แต่ถ้าหากจะให้ดีจังๆควรจะให้สัตวแพทย์ตรวจฟันทุกปี หมาบางจำพวกก็มีการจัดตัวของฟันที่แย่มาก มีเหงือกเป็นหนองแล้วก็ฟันหลุดเสมอการให้แทะกระดูกไม่บางทีอาจช่วยได้เลย เหล่านี้จำเป็นต้องตรวจฟัน และทำความสะอาดเสมอโดยสัตวแพทย์
การดูแลเล็บหมา
เล็บสุนัขจะแตกหน่อจิกลงดิน มันจะสึกไปเองโดยธรรมชาติ แต่ว่าถ้าหากเป็นสุนัขที่เลี้ยงบนพื้นไม้หรือพื้นซีเมนต์ ชอบเจอปัญหาเล็บไม่สึก มีเล็บยาวเร็วกว่าธรรมดาทำให้เดินไม่สะดวก และเมื่อทิ้งไว้ นานๆจะทำให้นิ้วคด หรือแยกห่างออกมาจากกัน บางครั้งก็ถอนหรือฉีกแตกจนถึงกำเนิดหนองได้ จะก่อให้หมาปวดมากมายเวลาเดิน ด้วยเหตุนั้นก็เลยจำต้องหมั่นตรวจทานแลตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เป็นประจำการตัดเล็บหมาควรจะใช้กรรไกรสำหรับในการตัดโดยยิ่งไปกว่านั้น จะทำได้โดยง่ายรวมทั้งไม่เป็นอันตราย ได้รอยตัดที่กลมโค้ง การตัดควรจะตัดที่ปลายเพียงเล็กน้อย ระวังอย่าตัดให้ถูกปลายประสาทสีชมพูในเล็บได้สุนัขที่มีเล็บดำไม่สามารถแลเห็นปลายประสาทนี้ได้ โดยเหตุนี้ตัดเล็บก็เลยทำเป็นเพียงแค่คลิบปลายเพียงเล็กน้อย หรือตัดตรงตำแหน่งต่ำจากรอบๆที่มีเลือดมาเลี้ยงสัก 3 มม. การตัดเล็บควรจะทำทุกเดือน โดยข้างหลังการอาบน้ำ เนื่องจากว่าเล็บที่เปียกน้ำจะอ่อนตัดง่ายดายกว่าธรรมดา
   (http://cz.lnwfile.com/q0ymkv.jpg)

หมาที่มิได้รับการฝึกบางทีอาจกลายเป็นสุนัขกระด้างและก็ทำให้เป็นอันตรายกับเจ้าของได้ ผู้ครอบครองควรจะเริ่มฝึกหัดหมาตั้งแต่ยังเล็กๆจะง่ายยิ่งกว่าโดยฝึกฝนให้เคยชินกับการรับคำสั่ง การเดินโดยใช้สายจูง การเล่นเกม สุนัขที่ได้รับการฝึกตั้งแต่เล็กถ้าเกิดความประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดีตอนโตจะปรับปรุงแก้ไขได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าหมาที่มิได้รับการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง
เมื่อใดที่ควรจะเริ่มฝึก
คุณไม่สมควรเอาจริงเอาจังกับการฝึกหัดหมาเท่าไรนัก หากหมาอายุยังไม่ถึง 7-8 เดือน นักจิตวิทยาสัตว์บางคนกล่าวว่า ลูกสุนัขบางตัวสามารถเริ่มฝึกได้เมื่ออายุตั้งแต่ 7 สัปดาห์ แล้วจากนั้นก็ให้เทคนิคต่างๆค่อยๆสอนวันหลัง แม้กระนั้น ในความเป็นจริงแล้วเรื่องของวิธีต่างๆปล่อยให้นักฝึกฝนสุนัขอาชีพเป็นผู้ฝึกดียิ่งกว่า เวลาที่ลูกหมาของคุณยังอยู่ในตอนต้นๆของความเป็นลูกหมา ตั้งอกตั้งใจเอาชนะจิตใจมันให้ได้ มันจะรักแล้วก็นับถือคุณ การฝึกหัดรากฐานจะเริ่มได้เมื่ออายุ 3-4 เดือน ช่วงอายุนี้ควรฝึกฝนให้เดินงามในช่วงเวลาที่คุณลาก นั่ง นอน ตามคำสั่ง แล้วก็เข้ามาหาคุณเวลาคุณเรียกมัน
 
เมื่อมันเริ่มเรียนรู้ให้ใช้เพียงคำพูดเป็นคำสั่งโดยไม่ต้องออกท่าทาง จ้ำจี้จ้ำไชกับมันเป็นประจำเมื่อมันทำผิดก็ปรับปรุงมันมันถูก แรกๆก็ใจดีกับมันก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยๆครัดเคร่งขึ้นเรื่อยๆตามความรุ่งเรืองของการฝึก อย่าหมดความอดทนหรือโกรธเสียก่อน อย่าตีมันด้วยมือหรือเชือกจูงตอนที่ฝึกฝน แค่เพียงคุณดุมันหรือมันก็รู้สึกไม่ถูกมากพอแล้ว
เมื่อสุนัขทำในสิ่งที่คุณต้องการ ชมเชยมันพร้อมกับคลำหลังมันไปด้วย อย่าตบรางวัลหมาด้วยขนมหรือปฏิบัติกับมันดีเกินความจำเป็นขณะฝึกฝน สุนัขที่ชินกับนิสัยการรับรางวัลแบบนี้จะเชื่อใจไม่ค่อยได้ เนื่องจากว่ามันจะไม่ค่อยยอมทำอะไรถ้ามิได้กลิ่นขนมหรือของขวัญ หากฝ่าฝืนคำสั่งหรือทำอย่างไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจ (เหลวไหล) คุณน่าจะกล่าวกับมันดีๆต่อไปมันจะเรื่อยๆ
เสียงที่ใช้ฝึกหัด
เมื่อคุณฝึกสุนัขให้ใช้เสียงสำหรับในการสั่งที่แข็งขันรวมทั้งชัดแจ้ง คราวแรกคุณบัญชาไปแล้วจำต้องยืนกรานคำสั่งเดิมไปตราบจนกระทั่งมันเชื่อฟัง หรือแม้แต่จะผลักมันให้มาฟังคุณก็ตามแต่ มันจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าการฝึกฝนนั้นแตกต่างจากการเล่น เมื่อใดที่มีการออกคำสั่งมันจำต้องเชื่อฟังไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้วอกแวกก็ตามที ต้องจำไว้ว่าน้ำเสียงแล้วก็น้ำหนักเสียงของคุณ (จะต้องไม่ดังสนั่น) จะมีอิทธิพลต่อสุนัขเป็นส่วนมาก ต้องบอกด้วยคำบอกเล่าที่เน้นแน่น สำหรับในการใช้คำบอกเล่าระหว่างฝึกฝนจำกัดคำบัญชาของคุณให้ใช้คำแค่เพียง 2-3 คำ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าแปลงคำบัญชา มันเป็นการดีที่สุดหากจะมีผู้ฝึกสอนหมาเพียงผู้เดียว คนอื่นๆบางทีอาจใช้คำบัญชาแตกต่างกันออกไป วิธีฝึกก็ต่างไปซึ่งอาจจะก่อให้สุนัขงงได้ สุนัขที่ได้ยินคำสั่งชนิด "มานี่" "มาหาหน่อย" "เร็วๆเข้า" หรือคำบัญชาทำนองนี้แต่มีความต้องการเดียวกันคือให้มันมาหา ถ้าคุณใช้คำบัญชาเยอะแยะขนาดนี้มันจะงงงวยมาก ให้ใช้คำไหนคำนั้นเหมาะสมที่สุด
 
บทเรียนที่ใช้ฝึก
การฝึกเป็นงานหนักทั้งสุนัขรวมทั้งครูฝึก หมาเล็กๆใช้เวลาฝึกหัดในช่วงหนึ่งได้ไม่เกิน 10 นาที ก็จะไม่ต้องการที่จะอยากฝึกต่อโดยเหตุนั้นควรจะจำกัดอย่าให้บทเรียนบทแรกยาวเกินไปนัก แล้วจึงเบาๆขยายเวลาไปเป็นระยะจนตราบเท่าถึง 30 นาที คุณเองก็บางทีอาจพบได้ว่าคุณก็เริ่มหมดความทรหดอดทนเหมือนกันเมื่อใกล้ๆจะหมดเวลาฝึกหัด เมื่อคุณมีความคิดว่าคุณอารมณ์ไม่ดีให้หยุดฝึกฝน ใช้เวลาที่เหลืออยู่ทบทวนบทเรียนเก่าๆไปก่อน และหลังหรือก่อนบทเรียนจะต้องมีขณะพักเล่นด้วยจริงๆระหว่างเรียน แม้แต่หมาที่เด็กที่สุดก็จะเรียนรู้ได้เองว่าในช่วงเวลาที่ต้องเรียนนั้นเป็นตอนที่จะต้องเคร่งตั้งใจจริง ส่วนความสนุกสนานร่าเริงจะตามมาหลังจากนี้
อย่าใช้เวลาในการฝึกฝนทีแรกๆๆมากเท่าไรนัก มิฉะนั้นหมาก็จะเบื่อ พยายามจบบทเรียนในตอนที่ดีๆหากสุนัขมิได้ทำในสิ่งที่คุณต้องการนั้นเป็นเนื่องจากว่าคุณไม่อาจจะทำให้มันจดจำได้ดิบได้ดีเพียงพอ
 
เครื่องมือที่ใช้ในการฝึกฝน
1. เชือกที่ใช้ลากหมา ใช้เรียกกันอย่างมากมายว่า "ตัวนำ" ด้วยเหตุดังกล่าวเราจะใช้คำนี้แทน ตัวนำ ที่เยี่ยมที่สุดสำหรับฝึกฝนนั้นเป็นผ้าทอหรือสาน ยาว 6 ฟุต ส่วนใหญ่ใช้สีทึมๆมอๆหรือจะใช้เป็นหนังขนาดเสมอกัน หรือจะใช้แบบเป็นสีสันก็มีใช้กันอยู่บ้าง แล้วแต่คุณจะเลือก
2. ต้องใช้ปลอกใส่คอฝึกหมาพร้อมกันไปด้วย ปลอกที่เอาไว้ใส่คอฝึกส่วนใหญ่ทำด้วยไนล่อนหรือ โซ่เหล็ก ซึ่งมีห่วงติดอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง แล้วก็ใช้ตัวนำคล้องกับปลายห่วงทั้งสอง ใช้ผ่อนหรือดึงบังคับสุนัข แม้ว่าจะฟังมองน่าตกใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หมาของคุณจำเป็นต้องเจ็บแต่อย่างใด แล้วก็มันก็ต้องใช้เพื่อการฝึกหัดด้วย ควรฝึกฝนวิธีการใช้ปลอกที่มีไว้ใส่คอให้ถูก ปลอกสำหรับใส่คอฝึกหัดควรจะใส่รอบคอสุนัข เพื่อคุณจะสามารถล่ามตัวนำกับห่วงตรงปลายปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่คอ อย่าใส่ห่วงใต้คอ มันเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเพื่อการใส่ปลอกคอฝึกให้ถูก มันจะได้แน่นเวลาคุณดังตัวนำ รวมทั้งง่ายเวลาคุณผ่อนหรือไม่ได้รั้งตัวนำ
3. วิธีสำหรับในการจับนำก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากมาย เนื่องจากว่าปลอกที่มีไว้ใส่คอควรหย่อนอยู่ตลอดระยะเวลา เว้นแต่เวลาดึง จับวงเชือกไว้ด้วยมือขวา ไขว้มือไปข้างๆ ส่วนมือซ้ายจับตัวนำไว้ให้ใกล้ปลอกใส่คอฝึกเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่เหลือของตัวนำก็จะขมวดเป็นวงได้ (ที่คุณถือด้วยมือขวา) แนบแขนข้างนี้กับลำตัว การผ่อนคลาย ดึง หรือคลาย ทุกอย่างทำด้วยมือซ้าย ด้วยการกระตุก
 
การฝึกหัดให้ตาม
"การตาม" เป็นคำศัพท์สำหรับสุนัขเป้าหมายความว่า ให้สุนัขเดินไปด้านข้างของคุณชิดกับขาคุณ มีตัวนำด้วยหรือไม่มีก็ได้ หากคุณทรหดอดทนรวมทั้งอุตสาหะเพียงพอ คุณสามารถฝึกหัดหมาให้เดินใกล้เคียงคุณได้ในถนนอันคับแคบ หรือผ่านสุนัขตัวอื่นๆได้อย่างดี ถึงเดี๋ยวนี้คุณก็ได้ทำความเข้าใจถึงกรรมวิธีการใส่ปลอกใส่คอ การใช้ตัวนำแล้วคุณก็พร้อมที่จะเริ่มบทเรียนแรกสำหรับในการฝึกการตาม ให้สุนัขนั่งอยู่ทางด้านซ้าย เรียกชื่อ และก็ใช้คำบัญชา "ตาม" เริ่มก้าวเท้าซ้ายของคุณ ดึงตัวนำเล็กน้อย เพื่อสุนัขได้เริ่ม จะต้องเรียกชื่อมันก่อนเสมอ แล้วตามด้วยคำสั่ง ตัวอย่างเช่น "แดงตาม" การเอ่ยชื่อจะช่วยทำให้มันสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มันได้ทราบว่าคุณกำลังบัญชาให้มัน (แดง คือชื่อสมมุติของหมาในที่นี้)
ให้เดินอย่างกระฉับกระเฉงแต่ละก้าว เดินวนเป็นวงกลมใหญ่ หรือเดินไปเป็นสี่เหลี่ยม หรือเส้นตรงก็ได้ ในตอนที่เดินแน่ใจว่าสุนัขของคุณอยู่ข้างซ้ายและก็ชิดขาของคุณเสมอ ถ้าหากมันเดินล้าหลังคุณให้กระตุกตัวนำเบาๆให้มันเดินให้ทันคุณ และก็ดูมันว่าก็ดีที่ทำอย่างนี้ ถ้ามันเดินนำหน้าคุณหรือออกห่างไป ให้คุณหยุดกับกระตุกตัวนำอย่างแรง ดึงมันกลับมาอยู่ตรงที่ที่ถูก ควรชมมันเมื่อใดก็ตามมันเดินเหมาะสมถูกทาง ทันทีที่คุณกระตุกตัวนำเพื่อให้สุนัขคุณอยู่ถูกที่ก็ให้ผ่อนสายตัวนำไปด้วย อย่างลากสุนัขหรือดึงตัวนำเพราะว่าจะเกิดการดึงกันไปดังกันมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย
เพื่อหมามุ่งมั่นฝึกฝน จะต้องบอกกับมันในช่วงเวลาที่คุณให้มันกลับมาเหมาะสมคุณควรฝึกการเดินหันหลังกลับด้วยการกระตุกตัวนำเบาๆระหว่างที่คุณหมุนด้วย มันจะทำความเข้าใจไปครั้งละนิดละหน่อยว่ามันจำเป็นต้องสนใจ หรือจะถูกกระตุกให้กลับมาอยู่ข้างตัวคุณ และก็คุณสามารถแปลงแนวทางการไปได้เรื่อยโดยการเปลี่ยนความเร็วบ้าง หันหลังกลับ เดินตรง หรือว่าเดินสิกข์แซกผ่านสนามที่ใช้ฝึก เป็นต้น
"ตาม" หมายถึง "นั่ง" ด้วย สำหรับหมาแล้วคำบัญชาว่า "ตาม" จะหมายความว่ามันจำเป็นต้องนั่งอยู่ข้างซ้ายของคุณด้วย เมื่อคุณหยุดโดยไม่มีคำสั่งอะไรเพิ่มช่วงเวลาที่คุณฝึกให้ตาม ทำให้มันนั่งเมื่อคุณหยุด หนแรกใช้คำบัญชาว่า "นั่ง" แต่ต่อไปไม่ต้องสั่งการอีก มันจะนึกรู้แล้วก็จะนั่งได้เองเมื่อคุณหยุด และจะรอคำบัญชา "ตาม" ใหม่ เพื่อจะลุกเดินอีกครั้ง
 
การฝึกฝนให้นั่ง
การฝึกสุนัขให้นั่งค่อนข้างง่าย โดยให้มันยืนอยู่ข้างซ้ายมือ ให้จองหองนำสั้นๆแล้วบัญชาว่า "นั่ง" ขณะบัญชาให้ดึงตัวนำขึ้นพร้อมทั้งกดตอนหลังของสุนัขลง แม้กระนั้นอย่าให้มันลงไปหมอบหรือยืนขึ้น ถ้ามันลงหมอบให้กระตุกตัวนำขึ้นจนกว่ามันลุกขึ้นแล้วนั่ง หากมันกระทำตามคำบัญชาช้าๆให้ดังมันอย่างแรงจนกระทั่งมันปฏิบัติตามความจำเป็นของพวกเรา ให้มันอยู่ในท่านั่งสักชั่วขณะหนึ่ง และก็หลังจากนั้นจึงค่อยผ่อนความตึงของตัวนำพร้อมด้วยดูมันด้วย ทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นขณะที่คุณลากมันในท่านั่ง ย้ำเพื่อมันจำคำสั่งได้ขึ้นใจ ถ้ามันเคลื่อนที่ละก้อให้ทวนคำสั่งอีกรอบแล้วให้มันนั่งลง ภายหลังจากนี้มันก็จะคิดทราบและก็นั่งไปเองโดยไม่ต้องกดหลังมันอีก เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วหมายความว่ามันจะนั่งเองได้ สรรเสริญมันบ่อยๆให้รางวัลโดยความประพฤติปฏิบัติกับมันอย่างสุภาพ และสรรเสริญมันบ่อยๆด้วยคำกล่าวที่นุ่มนวล
 
การฝึกหัดให้หมอบลงหรือหมอบ
เป้าหมายขั้นตอนนี้เป็น ทำให้สุนัขหมอบลงกับคำสั่ง "หมอบ" หรือเมื่อสั่งด้วยมือ ให้ท่านยกมือมาด้านหน้ากลับโบกฝ่ามือลง แม้กระนั้น คุณจำต้องทำไปจวบจนกระทั่งสุนัขจะเข้าประเด็นหลักหมายของคำบัญชาและจะทำเองได้โดยไม่มีปฏิกิริยาครึ่งบังคับจากคุณ สัญญาณมือน่าจะทำควบคู่ไปกับการออกคำสั่ง คำสั่งนี้บางทีอาจจะยากไปหน่อยในระยะแรก ด้วยเหตุว่ามันรู้สึกเหมือนคุณยกมือเพื่อจะรังแกมันและก็มันปกป้องตัวเองไม่ได้ บางทีก็อาจจะวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปก็ได้ ให้เอาอกเอาใจมันด้วยคำยกย่องหรือทำกับมันดีๆเมื่อมันประพฤติตามคำบัญชาแล้วมันจะศึกษาไปเองว่าไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น ในทางกลับกันมันจะรู้จักคำบัญชาว่า "หมอบ" แล้วถ้าเกิดมันทำตามอย่างนายจะพอใจ
อย่าเริ่มฝึกหมาหมอบลงจวบจนกระทั่งมันเข้าใจคำบัญชานั่งได้เป็นอย่างดีซะก่อน ให้สุนัขอยู่ในท่านั่งแล้วก็คุณยอตัวอยู่ข้างหน้า ยกขาหน้าของมันด้วยมือแต่ละข้างของคุณ จับตรงเหนือศอก ชูขามันขึ้นแล้วดึงลงมาที่พื้นข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็ออกคำสั่งว่า "หมอบ" แล้วดึงขาหน้ามันลงมาติดพื้น
ดึงมันลงมาที่พื้นรวมทั้งทำให้มันทราบดีว่าท่านี้เป็นท่าที่ต้องการให้มันทำ วิธีการแบบนี้ดีกว่าจะไปบังคับให้มันทำ มิฉะนั้นจะมีผลให้มันรู้สึกสะดุ้งและก็เริ่มจะเกลียดชังการฝึกฝนอะไรก็แล้วแต่เลย หมั่นเสวนากันมัน บอกมันให้ทราบว่าคุณพอใจ พอใจ ขณะที่มันกระทำตามคำสั่ง แล้วคุณจะพบว่าคุณมีความสุขกับการฝึกฝนหมา
ภายหลังที่มันเริ่มทำความเข้าใจ เลื่อนตัวนำไปอยู่ใต้เท้าซ้ายและก็บัญชา "หมอบ" ในเวลาเดียวกันดึงตัวนำด้วยจะช่วยให้สุนัขหมอบลง ตอนนี้ยกมือคุณแล้วโบกลงบอกสัญญาณมืออีกรอบ อย่าหวังว่ามันจะสามารถทำได้ด้วยคำสั่งเพียงแค่ครั้งเดียว ควรอดทนฝึกฝนกับมันไปเรื่อยมันก็จะร่วมมือด้วย ถ้าเกิดคุณแสดงให้มันมีความเห็นว่าอะไรบ้างที่คุณต้องการให้มันทำ
การฝึกหัดให้อยู่นิ่งๆ
ขั้นต่อไปเป็นการฝึกฝนหมาให้อยู่นิ่งๆในท่านั่งหรือหมอบ ดังคราวก่อนโดยใช้ตัวนำสอนคำสั่งนี้ จนตราบเท่าหมาของคุณตอบรับคำบัญชาด้วยการเลียนแบบคำบัญชา แล้วจึงเอาตัวนำออก การฝึกหัดเริ่มด้วยการนั่งนิ่งๆจัดให้หมาอยู่ในท่านั่งข้างคุณในท่านั่งแนบขาโดยอัตโนมัติ ถือเชือกในมือข้างหนึ่ง (ส่วนมากผู้ฝึกถูกใจถือมือซ้าย) ก้าวไปด้านหน้าแล้วหันมาหามัน ยื่นมือออกไป นิ้วชี้ไปที่ตอนจมูกของมันแล้วสั่งว่า "อยู่นิ่ง" หากมันทำท่าจะเดินตามคุณด้วยเหตุว่าเป็นธรรมชาติของมันที่จะทำ เพราะว่ามันอยู่ในท่าที่จะตาม ให้กระตุกตัวนำ เพื่อมันกลับมานั่งก่อน ยกมือมาไว้ด้านหน้ามันแล้วทวนคำสั่งอย่างหนักแน่นอีกรั้ง ให้มันอยู่ในท่านั่งนั้นสัก 2-3 วินาที ก่
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ