หัวข้อ: iPad Mini 4 ความทรงพลังในขนาดกระชับ เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ มกราคม 10, 2019, 07:53:30 pm iPad Mini คือคำตอบของหลายคนที่ชอบใช้Tabletที่มีขนาดเล็กแต่สมรรถนะดีในระบบ iOS จนถึงทุกวันนี้ได้เดินทางมาถึงรุ่น iPad Mini 4 แล้ว ซึ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทยเป็นอันมาก โดยวันนี้กระผมจะมาแนะนำถึงแท็บเล็ตจาก Apple รุ่นนี้กัน
แต่ก่อนอื่นฉันจะมาแนะนำถึงความเป็นมาคร่าว ของ iPad และ ไอแพด มินิ ก่อนว่ามีแหล่งที่มาที่ไปเช่นใดก่อนที่จะครองใจสาวก Apple ถึงทุกวันนี้ iPad คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ดีไซน์และปรับปรุงโดยบริษัท Apple โดยมีหน้าที่หลักในด้านมัลติมีเดีย หนัง เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ iPad เปิดตัววางขายหนแรกในเดือนเมษายน 2010 สำหรับรุ่น Wi-Fi และในเดือนเมษายน 2010 สำหรับรุ่น Wi-Fi พร้อมกับ 3G ซึ่ง iPad สามารถทำยอดขายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในช่วงเวลาแค่ 80 วัน ข้อดีคือมาพร้อมกับเทคโนโลยี Multi Touch สามารถเล่นวิดีโอ, ฟังเพลง, ดูรูปถ่ายและเล่นอินเทอร์เน็ตได้ หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว มีความละเอียด 768 x 1024 พิกเซล หนา 0.5 นิ้ว ใช้ซีพียู Apple A4 ที่พัฒนาขึ้นเองโดยบริษัท Apple ซึ่งจากนั้น iPad ก็ทยอยออกรุ่นใหม่ ๆ ตามมาอย่างไม่ขาดระยะ อาทิเช่น iPad2 ได้รับการปฏิรูปขึ้นให้มีขนาดโปร่งบางลง น้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มเติมกล้องหลังด้วย แต่ว่าขนาดจอ 9.7 นิ้วเหมือนเดิม The New iPad ได้ทำการพัฒนาในหลายๆ ส่วน อย่างเช่น เพิ่มความเร็วซีพียู ปรับความละเอียดของกล้อง เพิ่มความละเอียดจอเพิ่มมากขึ้น (2048 x 1536 พิกเซล) แต่ว่าหน้าตาภายนอกยังเหมือนกัน iPad2 iPad with Ratina Display เป็นรุ่นที่ทำการพัฒนาขึ้นมาจาก The New iPad โดยพัฒนาซีพียูให้ล้ำหน้า พร้อมด้วยแก้ไขสเปคบางส่วนอาทิ กล้องถ่ายภาพข้างหน้าละเอียดขึ้น เปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อ จาก 30 pin adapter เป็น Lightning Port แม้กระนั้นที่เป็นที่ชื่นชอบและตอบโจทย์ของคนที่ไม่ชอบพกพาจอใหญ่ ๆ ก็คือ iPad mini ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2012 มีหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล (163 ppi)น้ำหนัก 308 กรัม สำหรับรุ่น Wi-Fi และน้ำหนัก 312 กรัม สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ระบบประมวลผลแบบ Dual-core processor (Apple A5 chipset) ซึ่งเป็นซีพียูอันเดียวกับ iPad 2 กล้องถ่ายภาพหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและบันทึกวิดีโอระดับ 1080p ส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหน้ามีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล มีระบบปรับความสว่างและโฟกัสโดยอัตโนมัติ และยังรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 4G LTE วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2012 โดยปัจจุบันนี้ iPad mini ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ยังไม่มีรุ่นใหม่ของพี่น้อง Mini มาทดแทน โดยสเปคเบื้องต้นของ ไอแพด มินิ 4 มีดังนี้ - ขนาด 134.8x203.2x6.1 มม. - น้ำหนัก 298.8 กรัม - จอกว้าง 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2040x1536 พิกเซล (326 ppi) - ตัวเครื่องใช้เครื่องไม้เครื่องมือประเภท อะลูมิเนียม แบบ Unibody - กระจกหน้าจอใช้เทคโนโลยี Oleophobic Coating เคลือบป้องกันร่องรอยนิ้วมือ - ชิปประมวลผล Apple A8 (64 bit) กับชิป M8 motion coprocessor - กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล - กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล - รองรับ FaceTime HD - รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 1080p - มาพร้อมกับระบบ Touch ID หลายคนคงจะมีข้อสงสัยว่า ไอแพด มินิ 4 ควรจะถือครองหรือเปล่าดีฉันจึงคอมไพล์ จุดเด่น และ ข้อด้อย มาให้พิเคราะห์กันดังต่อไปนี้ ส่วนดี 1. คุณภาพหน้าจอเยี่ยมยอด หลังจากโดนมืออาชีพแค่นแคะมาตลอดว่าจอของ iPad Mini 1-2-3 นั้นมีคุณลักษณะไม่เหมาะกับความเป็น Apple เพราะสามารถแสดงสีได้แค่ 62% ของขอบข่ายสี sRGB แถมยังสะท้อนแสงมาก ผลสุดท้าย Apple ก็ยกระดับหน้าจอให้ iPad Mini 4 สามารถแสดงสีสันได้แม่นยำและโชว์ได้ถึง 101% ของขอบข่ายสี sRGB เลยเชียว แถมมีอัตราการสะท้อนแสงเพียง 2%
iPad Mini 4 มีน้ำหนักประมาณ 3 ขีดเท่านั้น โดยเบากว่า iPad Mini 2 ราว 30 กรัม ทำให้ความรู้สึกในการ จับจับง่าย นอกจากนี้ iPad Mini 4 ยังslimแค่ 6.1 มม.
มีสมรรถนะแบ่งแยกครึ่งหน้าจอที่มาใน iOS9 สำหรับทำงาน 2 แอปโดยพร้อมเพรียง โดยจะต้องใช้เครื่องมือที่มี Ram 2 GB ขึ้นไป จุดอ่อน 1. ใช้ร่วมกับเคสเดิมไม่ได้ iPad Mini 4 มิได้บางลงเท่านั้น เนื้อที่ด้านหน้าก็มากกว่า iPad Mini รุ่นอื่น โดยสูงกว่ารุ่นก่อนโดยประมาณ 3 มิลลิเมตร ทำให้ใช้ Smart Cover ของ iPad Mini รุ่นเดิมไม่ได้ ตัวเครื่องบางลงเยอะก็ใช้เคสของ iPad Mini เดิมมิได้อีกเช่นเดียวกัน
iPad Mini 4 พลังไม่เทียบเท่า iPhone 6s ที่ใช้ชิป A9 เนื่องด้วย iPad Mini 4 ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Apple A8 ประเภท เดียวกับที่ใช้ใน iPhone 6 อย่างไรก็ตามก็มีทดสอบแล้วเร็วกว่าชิปใน iPhone 6 อยู่ราว 10% เนื่องจากปฏิบัติการที่ความถี่สูงกว่า ตอนนี้ iPad Mini 4 มูลค่าอยู่ที่ 14,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi และ 19,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi+ Cellular บนขนาด 128 GB ท่านใดให้ความสนใจก็ไปเสาะหาซื้อกันที่ตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้ครับผม Tags : iPad,ipad ราคา,ipad 2017 สเปค
|