หัวข้อ: โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ มกราคม 12, 2019, 04:09:19 am ย้อนกลับในศักราช 2001 โทรศัพท์มือถือได้เริ่มมีการจัดจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ดังเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างจริงจังมากนัก ครั้นเมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ในเวลานั้น ส่งผลลัพธ์ให้มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มากนักเมื่อเปรียบกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
ถึงกระนั้นเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงสมัยปัจจุบัน โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลายเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ราบรื่น ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกจำหน่ายไปรวมยอดประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 ลำดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือนว่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากพ้นไปเพียง 3 เดือน ทันทีที่เข้าสู่มีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายรับประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว ซึ่งแม้รายได้รวมทั้งสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ กลายเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท แหล่งกำเนิดของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้ย้ายมาขายเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงสนนราคาไม่แพงที่จัดจำหน่ายในหลายๆ ประเทศชาติ และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการผลกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จำหน่าย iPhone X โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน ทั้งที่จะมีข่าวซุบซิบออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลแจ้งให้ทราบจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง) รายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท) ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับแต่เริ่มต้นส่งมอบครั้นเมื่อพฤศจิกายน 2017 และขายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาดหวัง ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา โดยในศก 2017 หัวเว่ยได้มอบมือถือทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016 ซึ่งครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ในเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ ก็เพราะว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เนื่องจากโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี ถึงแม้ยอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อาทิเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายประเทศมี 4G และปี2018 เดาว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองสมรรถนะก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า การแสดงตัวของโครงข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประมาณกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกโดยจำเป็นจะต้องเฝ้ารอจับตามองดูว่ายี่ห้อมือถือเหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแข่งขันความเป็นที่ 1 ต่อไป คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุง Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
|