หัวข้อ: สมุนไพรโด่ไม่รู้ล้มประโยชน์เเละสรรพคุณ เริ่มหัวข้อโดย: jeerapunsanook ที่ มกราคม 17, 2019, 10:35:12 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542265281482.jpg) โด่ไม่รู้ล้ม ชื่อสมุนไพร โด่ไม่รู้ล้ม ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น หญ้าไก่นกคุ้ม , หญ้าสามสิบสองหาบ , หญ้าไฟนกคุ้ม , หนาดผา (ภาคเหนือ) , ขี้ไฟนกคุ่ม (เลย) , หญ้าปราบ (ภาคใต้) , หนาดมีแคลน (สุราษฎร์ธานี) , เคยโป๊ , ตะชีโกวะ (กะเหรี่ยง) , ก้อมทะ (ลั๊วะ) , จ่อเก๋ (ม้ง) ชื่อวิทยาศาสตร์ Elephantopus scaber Linn. ชื่อสามัญ Prickly-Leaved Elephant’s Foot วงศ์ ASTERACEAE [/color] ถิ่นกำเนิด โด่ไม่รู้ล้ม เป็นพืชที่ถูกเรียกชื่อตามลักษณะของลำต้นที่เมื่อถูกดูถูกหรือถูกทับก็จะแบนราบลงไปกับพื้นดิน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงเดี๋ยวเดียว ลำต้นก็จะกลับมาตั้งโด่อย่างเดิมจึงเป็นที่มาของชื่อ โด่ไม่รู้ล้ม ซึ่งพืชนี้ข้อมูลบ้านเกิดเมืองนอนที่แท้จริงยังกำกวมแม้กระนั้นจัดเป็นพืชในเขตร้อนที่พบได้ในประเทศเขตร้อนทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยด้วย ซึ่งในประเทศไทยสามารถเจอได้ทั่วทุกภาคของประเทศ รวมทั้งพบบ่อยตามป่าดิบ ป่าสนเขา ป่าเต็งรัง แล้วก็ป่าโปร่งที่มีภาวะของดินเป็นดินร่วนซุยผสมทราย ลักษณะทั่วไป โด่ไม่รู้ล้ม จัดเป็นไม้ล้มลุก ลำต้นสั้น กลม ชี้ตรง สูง 10-30 ซม. ตามผิวลำต้น มีขนสีขาวตรงละเอียดห่าง สาก ใบเป็นใบลำพังอยู่รอบๆเหนือเหง้าชิดกันเป็นวงกลม เรียงสลับชิดกันอยู่เป็นกลุ่ม เหมือนดอกกุหลาบซ้อนที่โคนต้น ลักษณะของใบเป็นรูปหอกหัวกลับ แผ่นใบกว้างโดยประมาณ 3-5 ซม.แล้วก็ยาวราวๆ 8-20 เซนติเมตร ขอบของใบหยักหรือเป็นจะเหมือนฟันเลื่อยห่างๆมีเส้นกิ้งก้านของใบราวๆ 12-15 คู่ ส่วนของใบที่ค่อนไปทางปลายจะผายกว้าง แล้วสอบเป็นแหลมทื่อๆส่วนโคนใบจะสอบแคบจนกระทั่งก้านใบ มีเนื้อใบครึ้มสาก ผิวใบจะมีขนสากเล็กๆขนตรงห่างมีสีขาว แล้วก็มีขนต่อมห่างอยู่ทั้งสองด้าน โดยท้องใบจะมีขนมากกว่าข้างหลังใบ แผ่นใบมักแผ่ราบไปกับพื้นดิน ก้านใบยาวโดยประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร หรือเปล่ามีก้านใบ ดอกช่อแทงออกจากกลางต้น ช่อดอกรูปขอบขนาน มี 4 ดอกย่อย ยาว 8-10 มิลลิเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 มิลลิเมตร ดอกย่อยขนาดเล็กดอกรูปหลอดสีม่วง หลอดกลีบดอกยาว 3-3.5 มิลลิเมตร หมดจด ปลายกลีบดอกไม้ยาว 1.5-2 มม. ไม่มีขน เกสรเพศผู้สีเหลือง มีอับเรณูยาว 2.2-2.3 มิลลิเมตร ปลายแหลม ฐานเป็นติ่งแหลม ก้านชูอับเรณูยาว 1.5-1.7 มิลลิเมตร เกสรเพศเมียมีก้านเกสรยาว 7-8 มม. ยอดเกสรยาว 0.5-0.6 มิลลิเมตร มีขนที่ปลายยอดแล้วก็สิ้นสุดที่รอยแยก แต่ละช่อย่อยมาอยู่รวมกันเป็นช่อกลุ่มกลมที่ปลายก้านดอก บริเวณโคนกระจุกดอกมีใบประดับแข็งสามเหลี่ยม แนบอยู่ 3 ใบ ยาว 1-2 เซนติเมตร กว้าง 0.5-1.5 ซม. ขอบใบเรียบปลายเรียวแหลม ที่ผิวใบทั้งคู่ด้านมีขนตรงสีขาว ออกที่ปลายยอดแบบช่อแยกกิ้งก้าน ก้านช่อดอกมีความยาวได้ถึง 8 เซนติเมตรและก็มีขนสาดๆอยู่ทั่วๆไป ส่วนฐานรองดอกจะแบนรวมทั้งหมดจด มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 0.5-0.7 มิลลิเมตร วงใบแต่งแต้มเป็นรูปขอบขนาน มี 2 ชั้น สูงราว 7-10 มม. มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 2-3 มม. ใบประดับคล้ายรูปหอก ผิวภายนอกมีขนตรง ส่วนขอบของใบมีขนครุย ชั้นนอกเป็นรูปใบหอกยาวโดยประมาณ 4-6 มิลลิเมตรและกว้างโดยประมาณ 0.5-1.5 มิลลิเมตร ปลายแหลม ส่วนชั้นที่ 2 เป็นรูปขอบขนานกว้างราวๆ 1-2 มิลลิเมตรแล้วก็ยาวประมาณ 8-10 มม. ปลายแหลม สีขาว เป็นเส้นตรงแข็ง มี 5 เส้น เรียง 1 ชั้น ยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตรส่วนผลได้ผลสำเร็จแห้งและไม่แตก ลักษณะของผลเล็กและก็เรียว เป็นรูปกรวยแคบ ผิวด้านนอกผลมีขนหนาแน่น ยาวประมาณ 2.5-3 มม.รวมทั้งกว้างประมาณ 0.4-0.5 มม. ผลไม่มีสัน การขยายพันธุ์ โด่ไม่รู้ล้มเป็นไม้ล้มลุกที่ทนแล้งเจริญ สามารถแพร่พันธุ์ได้หลายแนวทาง อย่างเช่น การเพาะเม็ดหรือการแยกต้นแยกหัว ที่สามารถปลูกภายในแปลงหรือปลูกใส่กระถางได้โดยการปลูกโด่ไม่รู้ล้มนั้นก็ดังการปลูกพืชปกติ เป็น ตระเตรียมหลุมแล้วก็รองก้นหลุมใส่ต้นประเภทลงไปกลบดินแล้วรดน้ำพอเพียงเปียกแต่ภาวะดินที่ปลูกต้องเป็นดินร่วมคละเคล้าทราย และก็ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะเหตุว่าโด่ไม่รู|ไม่รู้เรื่อง|ไม่เคยรู้|ไม่เคยทราบ|ไม่ทราบ|ไม่รู้จัก}ล้มเป็นพืชที่ชอบแดดรวมทั้งทนแล้งได้ดิบได้ดี ส่วนประกอบทางเคมี ในส่วนต่างๆของโด่ไม่รู้ล้มเจอสารกรุ๊ป elephantopins รวมทั้ง deoxyelephanpin Crepiside E, cynaropicrin deacyl; cyanaropicrin-3-β-D-glucopyranoside deacyl; dotriacontan-1-ol; elephantopin, 11-13-dihydro-deoxy; elephantopin, 11-13-dihydro; elephantopin deoxy; elephantopin, iso-deoxy; friedelanol, epi; friedelinol, epi; lupeol; stigmasterol; stigmasterol 3-O- β-D-glucoside; triacontan-1-ol; zaluzanin C, gluco; scabertopin ประโยชน์/คุณประโยชน์ ตำรายาไทย อีกทั้งต้น มีรสกร่อยขมให้เป็นยาขับเยี่ยว แก้ไข้ แก้ไข้จับสั่น ขับน้ำเหลืองเสีย แก้บิด แก้ท้องเสีย แก้ไอ แก้วัณโรค บำรุงหัวใจ ขับเหงื่อ ขับระดูขับพยาธิตัวกลม แก้ปัสสาวะพิการ บำรุงความกำหนัด แก้กษัยขับไส้เดือน แก้กามโรค แก้บวมน้ำ แก้นิ่ว แก้ไข้หวัด แก้เจ็บคอ แก้ตาแดง แก้ดีซ่าน แก้เลือดกำเดาออกง่าย แก้ฝี แก้แผลมีหนอง แก้แผลงู แก้แมลงเป็นพิษกัดต่อย แก้อักเสบ แก้แผลในกระเพาะอาหาร แก้แผลเปื่อยในปาก แก้เหน็บชา ราก รสกร่อยขื่น ขับเยี่ยว แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไข้หวัด แก้ไอเรื้อรังแก้ท้องเสีย แก้บิด ขับพยาธิ ขับระดู บีบมดลูก ต้มเอาน้ำอมแก้ปวดฟัน แก้ฝี แผลมีหนอง บวมอักเสบทั้งหลายแหล่ เป็นยาคุมสำหรับหญิงที่คลอดลูกใหม่ เป็นยาบำรุง เป็นยาขับไส้เดือน รักษาโรคบุรุษ ต้มดื่มแก้อ้วก ใบ รสกร่อยฝาด รักษารอยแผล แก้โรคผิวหนัง แก้ไข้ ขับเยี่ยว แก้หมดแรง รักษากามโรค รักษาโรคบุรุษ เป็นยาคุมกำเนิดสำหรับหญิงที่คลอดลูกใหม่ เป็นยาบำรุง เป็นยาขับไส้เดือน แก้ไอ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความกำหนัด รากรวมทั้งใบ รสกร่อยขมขับปัสสาวะ แก้ท้องเดิน แก้โรคแผลในกระเพาะอาหารแก้บิด แก้กามโรคในสตรี ไม่กำหนดส่วนที่ใช้ บำรุงกำลัง บำรุงกำลัง ตัดกษัย บำรุงกษัยไม่ให้กำเนิด แก้ปัสสาวะทุพพลภาพ บำรุงความกำหนัด ขับฉี่ แก้ไข้จับสั่น แก้ไอ แก้ไข้ ขับพยาธิไส้เดือน แก้กามโรค แก้โรคหลอดลมอักเสบ แก้ปวดบวม แก้ตับอักเสบ แก้บิด รักษาตัวบวม รักษาไตอักเสบ แบบเรียนยาพื้นบ้าน ใช้ รากต้มน้ำดื่ม แก้ไอ ชูกำลัง บำรุงความสามารถทางเพศ ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ ราก ต้มน้ำกินหรือดองเหล้าดื่ม กับยากำลังเสือโคร่ง ม้ากระทืบโรงบำรุงร่างกายแก้เมื่อย ราก ลำต้น ใบ แล้วก็ผล ต้มน้ำ แก้โรคกระเพาะอาหาร แก้ไอ หนังสือเรียนแพทย์แผนจีน โด่ไม่รู้ล้มกล่าวไว้ว่า ” อีกทั้งต้น มีรสขมเผ็ด ฤทธิ์เย็น เข้าเส้นลมปราณ ปอด ตับแล้วก็ม้าม สรรพคุณ แก้เจ็บคอ รักษาต่อมทอนซิลอักเสบ แก้บวมน้ำภายในร่างกาย โรคกำเดาห้ามเลือด นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ขับฉี่ ฝีข้างในและก็ภายนอก ใช้ด้านนอกแก้โรคผิวหนัง แก้พิษงู แมลงสัตว์กัดต่อย ส่วนในทางหมอแผนปัจจุบัน กล่าวว่า โด่ไม่รู้ล้มบางทีอาจช่วยเรื่องบำรุงร่างกาย แก้อาการหมดแรง ช่วยให้มีกำลัง และก็มีฤทธิ์สำหรับในการช่วยถอนพิษไข้แก้อาการตัวร้อน แก้ไอ แก้คลื่นไส้ แก้ท้องร่วง โดยแนวทางกินที่เหมาะสมที่สุดเป็นการนำมาต้นน้ำดื่ม แล้วก็ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการกำเนิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยมีรายงานศึกษาว่าที่เอทานอลที่สกัดได้จากโด่ไม่รู้ล้มมีค่าความเข้มข้นซึ่งสามารถช่วยลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนั้นทางการแพทย์ยังนำโด่ไม่รู้ล้มไปสกัดเพื่อรักษาอาการอักเสบจากการติดเชื่อประเภทต่างๆเช่นลำไส้อักเสบ ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ และยับยั้งเชื้อโรคแล้วก็เชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาอาการที่เกี่ยวกับระบบปัสสาวะเป็นต้นว่าช่วยในการขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบาซึ่งเป็นอาการเริ่มของทางเท้าปัสสาวะอักเสบ ช่วยลดการเกิดนิ่ว แล้วก็ยังมีฤทธิ์ช่วยทำนุบำรุงกำหนัดเพิ่มความปรารถนาทางเพศทั้งยังในผู้หญิงรวมทั้งผู้ชาย ช่วยฟื้นฟูรวมทั้งบำรุงสมรรถภาพ ช่วยลดสภาวะอวัยวะเพศแข็งช้า อ่อนตัวเร็ว และก็หลั่งเร็วในผู้ชาย ทำให้โด่ไม่รู้ล้มจึงเป็น 1 ในสมุนไพรที่นิยมนำไปสกัดเป็นยาหรือสินค้าเสริมของกินที่ให้คุณประโยชน์สำหรับเพื่อการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ต้นแบบ / ขนาดวิธีใช้ • แก้เลือดกำเดา ใช้ต้นสด 30-60 กรัม (หรือต้นแห้ง หนัก 10-15 กรัม) ต้มกับเนื้อหมูพอประมาณ กินติดต่อกันเป็นเวลานาน 4-5 วัน • แก้ดีซ่าน ใช้ต้นสด 120-240 กรัม ต้มกับเนื้อหมูพอควร รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน 4-5 วัน • แก้ท้องมาน ใช้ต้นสด 60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม เช้าตรู่-เย็น หรือต้มกับเนื้อหมูรับประทาน • แก้ขัดเบา ใช้ต้นสด15-30 กรัม ต้มเอาน้ำ • แก้นิ่ว ใช้ต้นสด 90 กรัม ต้มกับเนื้อหมู 120 กรัม เพิ่มน้ำใส่เกลือบางส่วน ต้มเคี่ยว กรองเอาแต่น้ำ แบ่งไว้ดื่ม 4 ครั้ง • แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ใช้ต้นแห้ง 6 กรัม แช่น้ำร้อน 300 ซีซี(ราวๆขวดแม่โขง) นาน 30 นาที รินเอาน้ำหรือจะบดเป็นผุยผงปั้นเม็ดไว้กินก็ได้ • แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ใช้ต้นสด 30 กรัม ต้มเอาน้ำ • แก้ฝีบวมหรือฝีเป็นหนอง ใช้ต้นสด ตำผสมเกลือเล็กน้อย ละลายน้ำส้มสายยกพอข้นๆพอก • แก้ฝีฝักบัว ใช้ต้นสด 25 กรัม ใส่น้ำ 1 ขวด แล้วก็สุรา 1 ขวด ต้มดื่มและก็ใช้ต้นสดต้มกับน้ำ เอาน้ำล้างหัวฝีที่แตก รักษาโรคผิวหนังต่างๆและก็ใช้ทาแผล โดยใช้ใบสด 2 กำมือ มาต้มกับน้ำมันที่ทำจากมะพร้าวแล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น หรือใช้รากและใบ (สดหรือแห้งก็ได้) 2 กำมือ ต้มดื่มแก้ท้องเสีย แก้กระเพาะเป็นแผล ช่วยขับฉี่ หรือใช้อาบในสตรีหลังคลอด ส่วนรากใช้ตำผสมพริกไทย แก้อาการปวดฟัน หรือใช้รากต้มกับน้ำแล้วใช้อบแก้ปวดฟันก็ได้เช่นเดียวกัน การศึกษาทางเภสัชวิทยา สารสกัดต่างๆของโด่ไม่รู้ล้มมีฤทธิ์ลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันโลหิต รวมทั้งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ของมะเร็งต่อมลูกหมาก ยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยั้งเชื้อไวรัส ต้านความเป็นพิษต่อตับ ลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันเลือดและยับยั้งการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็กกระตุ้นมดลูก ยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี reverse transcriptase, glutamate-oxaloacetate-transaminase แล้วก็ glutamate-pyruvate-transaminase มีการศึกษาเล่าเรียนผลของโด่ไม่รู้ล้มในหนูเพศผู้ต่อความกำหนัด ประสิทธิภาพน้ำกาม อวัยวะเพศเสริม ขนาดและกล้ามเนื้อลึงค์ รวมทั้งสัดส่วนเพศลูก พบว่าสมุนไพรโด่ไม่รู้ล้ม มีฤทธิ์กระตุ้นกำหนัดแล้วก็ทำให้ระดับ testosterone สูงขึ้นในหนูแรท แต่ในขนาดสูงกลับทำให้ระดับ testosterone แล้วก็เชื้อสเปิร์มลดน้อยลง เพิ่มการเกิด libido เปลี่ยนแปลงค่า osmolality แล้วก็ปริมาณน้ำอสุจิของน้ำกาม ลดเปอร์เซ็นต์อสุจิเคลื่อนไหว เพิ่มน้ำหนักอวัยวะสืบพันธุ์เสริม แล้วก็เพิ่มสัดส่วนเพศลูก (เพศเมีย/เพศผู้) การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา จากการเล่าเรียนพบว่าน้ำต้มโด่ไม่รู้ล้ม หรือสารสกัด 50% เอทานอลจากพืชทั้งยังต้น ไม่มีพิษ เมื่อให้หนูถีบจักรรับประทานแม้จะให้ในขนาดสูงถึง 6.0 กรัม/กิโล แล้วก็พบว่าขนาดของสารสกัดทั้งสองแบบที่ทำให้หนูถีบจักรตายปริมาณร้อยละ 50 มีค่ามากกว่า 2 กรัม/โล เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้อง สารสกัดรากและก็ใบที่หมักกับสุราโรง 40 ดีกรี เมื่อนำมาป้อนหนูทดลองในขนาดความเข้มข้น 2,000 มก.ต่อกิโล เพียงแต่ครั้งเดียว แล้วเก็บผลในวันที่ 14 ผลของการทดสอบพบว่าหนูไม่มีการแสดงอาการแตกต่างจากปกติ ส่วนการทดลองความเป็นพิษแบบระยะสั้น พบว่าไม่มีความต่างอย่างมีนัยสําคัญของน้ำหนักตัว น้ำหนักตับ ไต ม้ามหัวใจ adrenal cortex แล้วก็อัณฑะ แล้วก็ระดับเอนไซม์ BUN creatinine AST แล้วก็ ALT ของหนูทุกกลุ่ม คำแนะนำ / ข้อควรระวัง 1. สตรีตั้งท้องไม่ควรรับประทานอาหารเสริมหรือยาแผนโบราณที่มีส่วนประกอบจากโด่ไม่รู้ล้ม 2. คนที่มีลักษณะฉี่มากมายไม่ปกติไม่สมควรใช้โด่ไม่รู้ล้มเพราะเหตุว่ามีสรรพคุณสำหรับเพื่อการขับฉี่ ซึ่งอาจจะเป็นผลให้อาการร้ายแรงขึ้น 3. ผู้ที่มีภาวการณ์หยางพร่อง (กลัวหนาว , แขนขาเย็น , ไม่หิวน้ำ , ถ่ายเหลว , ตัวซีด , ง่วงนอนหงาวหาว นอน) ไม่ควรใช้โด่ไม่รู้ล้ม เอกสารอ้างอิง
|