หัวข้อ: โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ มกราคม 21, 2019, 12:09:42 pm ย้อนกลับในศักราช 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างตั้งใจมากนัก ครั้นเมื่อบวกกับมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในตอนนั้น ส่งผลให้มีผู้บริโภคโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เท่าไหร่นักเมื่อเปรียบกับท้องตลาดมือถือรวมทั้งหมด
แต่กระนั้นเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมกับความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนกระทั่งช่วงปัจจุบัน มือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้ราบรื่น ในศักราช 2017 ยอดสุทธิส่งออกมือถือทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกจำหน่ายไปรวมทั้งสิ้นราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราวๆ 5% ซึ่ง 3 ระดับของยี่ห้อที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดเผยสถิติกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจนถึงธันวาคมพุ่งไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากพ้นไปแค่ 3 เดือน ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายรับราว 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว โดยทั้งที่เงินรายได้รวบยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถทำเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท ที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นผลงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนเวลามาวางขายเร็วขึ้น บวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงมูลค่าไม่แพงที่วางขายในหลายๆ ชาติ และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถสร้างกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยเงินรายได้รวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นเดียวกัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐฯคิดเป็น 65% ของเงินรายได้รวม 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน ทั้งที่จะมีข่าวแต้มสีออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกให้ทราบจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง) รายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท) ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับแต่เริ่มต้นส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลหวัง ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นเงินกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2017 หัวเว่ยได้มอบสมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นกรรมสิทธิ์เดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016 โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แม้กระนั้นเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ เนื่องจากฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว ทั้งนี้เพราะสมาร์ทโฟนขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่ายอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็หมายมุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ เช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายแว่นแคว้นมี 4G และปี2018 คาดการณ์ว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า การปรากฏตัวของโครงข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประมาณกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกโดยจำต้องรอคอยจับตามองดูว่าแบรนด์โทรศัพท์มือถือเหล่านี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดขายและแก่งแย่งความเป็นที่ 1 ต่อไป Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
|