|
หัวข้อ: เตาไฟฟ้ากับเรื่องราวน่ารู้ เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ มกราคม 21, 2019, 10:36:52 pm มั่นใจว่าคุณผู้อ่านที่อยู่ในคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์เวลาทำกับข้าวคงไม่ได้ใช้เตาแก๊สแน่ เหตุว่าเนื้อที่ที่มีจำกัด ผนวกกับเรื่องระเบียบปฏิบัติหลายอย่าง ในเรื่องสวัสดิภาพของผู้ดูแล เพราะฉะนั้น เตาไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีการดำเนินชีวิตแบบนี้ แต่กระนั้นรู้หรือไม่ว่าประเภทของเตาไฟฟ้านั้นมีมากหลายชนิดเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่างกันของแต่ละคนและครอบครัว ดังนั้นเราไปทำความรู้จักมักคุ้นกับเตาไฟฟ้าอุปกรณ์ประจำการห้องครัวของคนรุ่นใหม่ให้ดีขึ้นกันดีกว่า
เตาไฟฟ้าที่นิยมจำหน่ายกันอยู่ในท้องตลาด มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดด้วยกัน ดังต่อไปนี้ 1.เตาไฟฟ้าแบบ Solid Plate หรือ เพลทร้อน เตาประเภทนี้มีรูปร่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ตัวเตาจะมีแผ่นเพลทกลมผลิตจากแผ่นโลหะอยู่ด้านบน แผ่นโลหะกลมนี้เองจะมีขดลวดเพื่อให้ความร้อนติดตั้งอยู่ ซึ่งหลักการทำงานให้ความร้อนจะต้องทะลุตัวให้ความร้อนคือขดลวด ทะลุเพลทร้อนจนกระทั่งมาถึงตัวภาชนะที่อยู่บนเตา ลักษณะเตาเช่นนี้เมื่อหยุดใช้งานและปิดเตาแล้ว จะยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่ที่หัวเตา ควรระแวดระวังไม่ให้ไปแตะต้องโดน ข้อดี มีราคาย่อมเยากว่าเตาไฟฟ้าชนิดอื่น จุดอ่อน เปลืองไฟมากและให้ความร้อนช้า ต้องรอเป็นช่วงเวลานานสองนานกว่าที่ที่ใส่ของกินจะค่อยๆ ร้อนขึ้น หรือทันทีที่ปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่สามารถเป็นอันตรายได้ถ้าไปแตะต้องโดน 2. เตาไฟฟ้าแบบเซรามิค เตาประเภทนี้มีความละม้ายกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามาก อย่างไรก็ดีมีความตรงข้ามกันตรงการทำงานจะเป็นกลไกของขดลวดไฟฟ้าหรือใช้หลอดอินฟาเรดเป็นตัวให้ความร้อน ผิวของเตาด้านบนจะเป็นกระจกหรือเซรามิกสีดำเข้มซึ่งทนความร้อนได้สูงมากแทน ทันทีที่เปิดเตาขึ้นมา เพลทจะขึ้นเป็นแสงสีแดงเพื่อบอกสัญญาณแจ้งให้ทราบว่าเตากำลังร้อนอยู่และกำลังทำงาน ข้อดี ออกแบบสวยงาม เรียบร้อย ทนการกระแทกและทนอุณหภูมิสูงได้ดีสามารถใช้กับภาชนะประเภทไหนก็ได้อาทิเช่นกระเบื้อง หรือว่าสแตนเลส จุดอ่อน เปลืองไฟพอกับเตาประเภทเพลทร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นช้า หรือทันทีที่ปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนเหลืออยู่ตรงผิวหน้าเตาบ้าง
เตาประเภทนี้จัดได้ว่าเป็นเตาที่มีความปลอดภัยมากที่สุดก็ว่าได้ ด้วยหลักการการทำงานที่ใช้ขดลวดสนามแม่เหล็กในการส่งสัญญาณ ทันทีที่ใช้คู่กับภาชนะที่เป็นโลหะก็จะทำให้เกิดความร้อนขึ้น และมีความต่างจากเตาสองแบบแรกที่ได้บอกไปแล้วข้างต้น ตรงที่มีข้อจำกัดว่าสามารถใช้ได้กับภาชนะที่ผลิตจากโลหะหรือสแตนเลส เท่านั้น วัสดุอื่นไม่อาจจะใช้กับเตาประเภทนี้ได้ ข้อดี เหตุด้วยกลไกการทำงานความร้อนจะมีขึ้นกับตัวภาชนะเลย ตัวเตาจึงไม่มีความร้อนสามารถแตะต้องได้แม้กำลังทำงาน พอปิดเตาแล้วก็ไม่มีความร้อนเหลืออยู่ ช่วยประหยัดไฟเพราะว่าใช้กำลังไฟน้อย จุดบกพร่อง มีราคาสูง เตาแบบนี้มีมูลค่าสูงกว่าเตาแบบเพลทร้อนและเตาประเภทเซรามิค และมีเงื่อนไขตรงที่สามารถใช้ได้กับภาชนะที่เป็นสแตนเลสเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับภาชนะที่ผลิตจากวัสดุอื่น แม้กระนั้นภาชนะโลหะบางรุ่นก็ไม่รองรับการใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า โดยข้อนี้ผู้ใช้งานต้องคอยพิจารณาสัญลักษณ์ที่แนบไว้กับตัวภาชนะก่อนซื้อ ขั้นตอนดูแลรักษาเตาไฟฟ้า 1. การทะนุบำรุงเตาไฟฟ้าชนิดเตาเพลทไฟฟ้า เตาไฟฟ้า ชนิดเตาเพลทไฟฟ้า เป็นเตาที่อาจแตกหัก และเกิดสนิมได้ง่ายๆ จึงจำต้องดูแลรักษาให้แผ่นเพลทมีความฉ่ำอยู่สม่ำเสมอ โดยให้คุณเอาน้ำมันพืชไม่ก็น้ำมันมะกอกก็ได้ มาเช็ดถูให้ทั่วแผ่นเพลทจนชุ่ม จะช่วยให้แผ่นเพลทมีอายุใช้งานเพิ่มมากขึ้น ไม่แตกหักง่าย และไม่เป็นสนิมง่ายด้วย นอกจากนี้ ท่านจะต้องระวังไม่ให้เตาเพลทไฟฟ้าโดนกระทบแรงๆ พร้อมด้วยห้ามนำมีดมาขีดหน้าเตาเด็ดขาด เพราะว่าจะทำให้แผ่นเพลทและหัวเพลทพังได้ 2. การบำรุงรักษาเตาไฟฟ้าแบบเซรามิคพร้อมทั้งแม่เหล็ก เตาไฟฟ้าแบบเซรามิคและแม่เหล็ก ส่วนมากแล้วจะมีมีดสำหรับทำความสะอาดด้านหน้าเตา ติดมากับเตาไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยการทำความสะอาดนั้น ถ้าหากหน้าเตาไม่เละเทะมาก ให้ถูประทินโฉมด้วยน้ำยาทำความสะอาดก็พอ แต่หากหน้าเตาเปื้อนมาก จะต้องใช้มีดที่ติดมากับเตา ครูดเศษข้าวและสิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน แล้วก็ค่อยถูชะล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที เพื่อให้เตาไฟฟ้าแห้งนั่นเอง และนี่คือเรื่องราวของเตาไฟฟ้าที่น่าสนใจ ทั้งชนิดและการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี สำหรับใครที่กำลังจะตัดสินใจจับจ่าย สิ่งที่สำคัญต้องนึกตรองหลาย ๆ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ ดีไซน์ ความงดงาม งบประมาณในการซื้อ ไปจนกระทั่งการใช้งานของผู้อยู่อาศัยและที่สำคัญคืออย่าเผอเรอกับอุบัติเหตุโดยเด็ดขาดนะครับ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เตาไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี Tags : เตาไฟฟ้า,เตาไฟฟ้า ราคา,เตาไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
|