หัวข้อ: สมุนไพรมะระจีน สรรพคุณเเละประโยชน์ เริ่มหัวข้อโดย: Cloudsupachai111 ที่ มกราคม 24, 2019, 09:27:52 am (https://static1-velaeasy.readyplanet.com/www.disthai.com/images/content/original-1542858791579.jpg)
มะระจีน ชื่อสมุนไพร มะระจีน ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะระ (ทั่วไป) ชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica charantia Linn. var. maxima Williums & Ng ชื่อสามัญ Bitter Gourd ,Balsam apple, Leprosy Gourd, Bitter melon วงศ์ CUCURBITACEAE ถิ่นกำเนิด มะระจีนมีถิ่นเกิดในเขตร้อนทวีปเอเชีย แล้วก็ทวีปแอฟริกา เป็นพืชที่มีการปลูกเอาไว้ภายในแถบประเทศเขตร้อนอย่างมากมาย โดยมีการปลูกกันในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่นจีนประเทศอินเดีย , เมียนมาร์ , ไทย , เวียดนาม อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในประเทศไทยปลูกมากมายในภาคเหนือ ซึ่งมีการปลูกหลายสายพันธุ์ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีลักษณะเหลี่ยม เถาเลื้อยมีสีเขียว มีขนเล็กๆจะมีมือเกาะบนเถา อยู่บริเวณใต้ข้อต่อของใบ • ใบ เป็นใบลำพัง ออกเรียงสลับกันคนละข้างตามเถา มีลักษณะเป็นแฉกเว้าลึก 5 แฉก โคนใบมีลักษณะกลม มีก้านใบยาว ใบมีสีเขียว มีขนสากเล็กๆมีมือเกาะยื่นออกมาจากที่ข้อ • ราก เป็นระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลม แทงลึกลงดิน มีรากกิ้งก้านแล้วก็รากฝอยเล็กๆแทงออกตามรอบๆมีสีน้ำตาล • มือเกาะ มีลักษณะกลม เป็นเส้นเล็กๆคล้ายหนวดขนาดเล็กๆแตกออกบริเวณข้อใต้ใบของเถา ปริมาณมือเกาะ 1 เส้นต่อข้อ ส่วนปลายมีขนาดเล็กสุดม้วนงอ จะม้วนงอเข้ายึดเกาะรอบตัว ยึดลำต้นเพื่อเลื้อยแผ่ขึ้นที่สูง ใช้มือเกาะใช้ปลายหนวดม้วนใช้ยึดของ เป็นเกลียวพันรอบคล้ายสปริง • ดอก ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีลักษณะรูประฆัง กลีบจะมีเหลือง ก้านดอกยาว ออกตามซอกใบ • ผล มีลักษณะทรงยาวรี เปลือกบาง ผิวขรุขระมีร่องลึกตามทางยาว ผลใหญ่เนื้อดก ผลดิบจะมีสีเขียวอ่อน ใช้กิน เมื่อผลสุกจะมีสีแดง แต่ว่ารับประทานไม่ได้ ข้างในผลจะมีหลายเมล็ด มีเนื้อชุ่มฉ่ำน้ำ มีรสชาติขม • เมล็ด จะอยู่ภายในผล จะมีเมล็ดเล็กๆเป็นจำนวนมาก เรียงอยู่ด้านในผล เมล็ดมีลักษณะกลมแบนรี ผิวเรียบ เปลือกเม็ดแข็ง สีน้ำตาล การขยายพันธุ์ มะระจีนเป็นพืชที่นิยมนำมาปลูกกันมากในประเทศไทย โดยมะระจีนเป็นพืชปีเดียว สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล และปลูกขึ้นได้ดีกับดินดูเหมือนจะทุกชนิด แม้กระนั้นดินจะต้องมีความชื้นสูงสม่ำเสมอ และก็ควรจะได้รับแสงแดดสุดกำลังทั้งวัน มะระจีนที่ปลูกเอาไว้ภายในประเทศส่วนใหญ่แก่เก็บเกี่ยวราว 45-50 วัน การเก็บมะระควรจะเก็บวันเว้นวัน เลือกผลที่โตได้ขนาด มีสีเขียวยังไม่แก่เหลือเกิน ถ้าเกิดเริ่มมีสีขาวและก็เริ่มแตกถือว่าแก่เหลือเกิน ส่วนวิธีการขยายพันธุ์สามารถแพร่พันธุ์โดยกรรมวิธีการหยอดเมล็ดหรือปลูกจากต้นกล้าเพียงแค่นั้น โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้ การเตรียมดิน กระทำไถกระพรวนดิน พร้อมกำจัดวัชพืช รวมทั้งผึ่งแดดราว 5-10 วัน ขึ้นกับชนิดดิน แล้วทำแนวปลูกด้วยการขึงเชือกหรือกะระยะ ในระยะระหว่างแถว 1-1.5 เมตร แล้วทำการไถตามจุดของแนวปลูกตามแนวยาวของแปลงให้เป็นร่องลึกราวๆ 30 ซม.แล้วหลังจากนั้นหว่านโรยปุ๋ยหมักหรือขี้วัว ปริมาณ 1000 กก./ไร่ และก็ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 30 กิโลกรัม/ไร่ แล้วกระทำไถกลบหรือกลบแนวร่อง ตากดิน 2-3 วัน การเตรียมกล้า กระทำการเพาะกล้าในกระบะเพาะกล้า โดยใส่ดินผสมมูลสัตว์หรือสิ่งของอื่นๆยกตัวอย่างเช่น เถ้าถ่าน กากมะพร้าว แล้วรดน้ำให้เปียก วันละ 1-2 ครั้ง รุ่งเช้า-เย็น แม้กล้าเริ่มแตกใบ 4-6 ใบ หรือ 15-20 วัน สามารถนำมาปลูกได้ กระบวนการปลูก การปลูกด้วยกล้ามะระ ให้ปลูกเอาไว้ในระยะห่างของหลุม 1.5-2 เมตร แต่ว่าหากเป็น การปลูกด้วยการหยอดเม็ด ให้หยอดเม็ด 1-2 เม็ด/หลุม ในระยะห่างของหลุมเหมือนกัน หลังการปลูกหรือหยอดเม็ดเสร็จ จะต้องรดน้ำหลุมปลูกให้เปียก ส่วนประกอบทางเคมี ส่วนประกอบทางเคมีและก็สารออกฤทธิ์ จากส่วนต่างๆของมะระจีน ยกตัวอย่างเช่น ผล เม็ด ใบ ลำต้น เอนโดสเปิร์ม และแคลลัส มีสารสำคัญมากถึง 228 ชนิด ที่บางครั้งอาจจะออกฤทธิ์แบบผู้เดียวๆหรือ ออกฤทธิ์แบบด้วยกัน charantin, polypeptide-p, vicine, momordin และสารอนุพันธ์ที่คล้ายกัน ดังเช่นว่า momordinol, momordicilin, momorcharin, momordicin , Gallic acid , Caffeic acid รวมทั้ง Catechin ฯลฯส่วนค่าทางโภชนาการของมะระจีน (100 กรัม) มี ใยอาหาร2.8 กรัม เถ้า 1.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม ไขมัน 0.17 กรัม พลังงาน 17 กิโลแคลอรี วิตามิน A 380 มก. วิตามิน B1 0.04 มก. วิตามิน B2 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B3 0.4 มก. วิตามิน B5 0.212 มิลลิกรัม วิตามิน B6 0.043 มิลลิกรัม วิตามิน C 84 มิลลิกรัม สังกะสี 0.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 19 มิลลิกรัม ทองแดง 0.034 ไมโครกรัม เหล็ก 0.43 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.089 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 296 ไมโครกรัม โซเดียม 5 มิลลิกรัม ประโยชน์/คุณประโยชน์ มะระจีนนิยมนำมาทำเป็นของกิน อาทิเช่น ต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือแกงจืดยัดไส้หมูสับบ้างพลิกแพลง นำมะระมาหั่นเป็นแว่นบางๆชุบไข่ทอด แบบชะอมหรือมะเขือยาว หรือจะใช้ฝานเป็นแว่นบางๆจิ้มกับน้ำพริก หรือจะทำมะระผัดไข่ก็นิยมรับประทานกันมาก ซึ่งมะระจีนนับว่าเป็นผักที่นิยมรับประทานมากมายสำหรับคนที่มีอาการป่วยด้วยเบาหวาน เนื่องจากว่ามีสารประกอบหลายประเภท เป็นต้นว่า แคแรนทิน (charantin), โพลีเปปไทด์ พี (p-insulin) แล้วก็วิซิน (vicine) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนคุณประโยชน์ทางยาตามตำรายาไทยระบุว่า ราก แก้พิษ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ฝาดสมาน ยาบำรุง เถา บำรุงน้ำดี ยาระบายอ่อนๆเจริญอาหาร ใบ แก้ไข้ ดับพิษร้อน ขับพยาธิ ขับลม ดอก แก้พิษ แก้บิด ผล ขับลม ดับพิษร้อนแก้พิษฝี แก้ฟกบวม แก้อักเสบ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ เจริญอาหาร บำบัดรักษาโรคเบาหวาน และก็เมล็ด แก้พิษ บำรุงธาตุนอกจากนั้นหนังสือเรียนยาแผนโบราณในเมืองนอกได้มีการใช้มะระแก้โรคเบาหวาน ด้วยเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา แอฟริกาตะวันตก ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย แล้วก็อังกฤษ เป็นต้น สำหรับในการหมอแผนปัจจุบันได้มีการทำการค้นคว้าระบุว่า มะระจีนมีฤทธิ์ต้านเบาหวาน ช่วยระบายและก็ฆ่าเชื้อโรค โดยทางการแพทย์แผนไทยใช้เข้าตำรับยาแก้ไข้ที่มีลักษณะติดเชื้อต่างๆสารต้านเบาหวานในมะระจีนอาทิเช่นสารชาแรนทิน ซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคเบาหวานได้ดีมากยิ่งกว่ายา tolbutamide นอกนั้น เจอ สารไวซีน (vicine) โพลีเพปไทด์-พีแล้วก็สารออกฤทธิ์อื่นที่ กำลังเรียนกันอยู่ โพลีเพปไทด์-พี ออกฤทธิ์ลดน้ำตาลใน เลือดเมื่อฉีดแบบอินซูลินให้กับคนเจ็บเบาหวานชนิด ฤทธิ์ต้านทานโรคเบาหวานของมะระจีนได้ถูกศึกษาเล่าเรียนอย่างมาก อีกทั้งโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์ การเรียนในสัตว์ทดสอบ แล้วก็การเล่าเรียนทางสถานพยาบาล สารจากมะระจีนให้ผลทั้งยังในแง่การควบคุมจำนวนการหลั่งอินซูลินแล้วก็เปลี่ยนเมแทบอลิซึมของกลูโคส การแพทย์หนทางของสหรัฐอเมริกาแนะนำการใช้น้ำคั้นผลมะระจีน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดผู้เจ็บป่วยเบาหวาน ต้นแบบ / ขนาดวิธีใช้ • แก้อาการป่วยไข้ ให้นำมะระจีนอีกทั้ง 5 เป็น ดอก ผล ใบ ราก แล้วก็เถาอย่างละ 1 กำมือใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มกระทั่งเดือด รับประทานทีละ 1 แก้ว ก่อนกินอาหาร วันละ 3 - 4 ครั้งติดต่อกันเพียงแค่ 3-4 วันก็จะหายไข้ • แก้อาการคอแหบ เสียงไม่มี เนื่องมาจากโรคไข้หวัด นำผลมะระจีนต้มรับประทาน หรือใช้ประกอบเป็นอาหารช่วยรักษาให้ดีขึ้นกว่าเดิมจนกระทั่งหายขาดได้ • ให้นำมะระจีนใกล้สุก มาหั่นอีกทั้งเนื้อแล้วก็เม็ดและจากนั้นจึงนำไปตากแดดให้แห้ง คั่วจนหอมแล้วตำให้ละเอียดผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอนขนาดนิ้วโป้งกินครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน แก้ท้องผูก • บำรุงสายตา ให้นำผลมะระจีนและก็ยอดอ่อนมาทำกับข้าวตามใจชอบ ควรรับประทานวันเว้นวันเป็นประจำ สายตาจะดีขึ้น • บำรุงเลือด • บำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถนะทางเพศ ให้นำเม็ดมะระจีนแก่จัดมาตากแห้งแล้วแกะเปลือกออก ใช้เนื้อในบดจนกระทั่งละเอียดละลายน้ำร้อนกินครั้งละ 1 ช้อนที่มีไว้สำหรับตักกาแฟวันละ 1 ครั้งที่แล้วนอน ติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้น 2 อาทิตย์ รับประทานอีก 2 อาทิตย์ จะมีผลให้เจริญอาหารมีกำลังวังชาขึ้น ยาขนานนี้ยังช่วยขับพยาธิตัวเล็กได้อีกด้วย • ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากเปื่อย แก้ตับม้ามพิการ แก้อักเสบ ฟกช้ำบวม ใช้ทาภายนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคายเคือง อักเสบ การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา มีการศึกษาถึงผลของมะระจีนในมนุษย์หลายการศึกษาทั้งยังในผู้ที่มีสุขภาพดีและก็คนป่วยเบาหวานจำพวกต่างๆพบว่า มีหลายการค้นคว้าที่กล่าวว่าสารสกัดหรือน้ำจากผลมะระมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้โดยการศึกษาพบฤทธิ์รักษาโรคเบาหวานของมะระจีนเริ่มตั้งแต่ปี 1942 โดยพบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกระต่าย และเสริมฤทธิ์ยาลดน้ำตาลในกระต่ายที่เป็นเบาหวาน จึงได้มีผู้เรียนฤทธิ์ของมะระในสัตว์ทดลองต่างๆอาทิเช่นกระต่าย หนูขาว หนูถีบจักร แมว gerbils ลิง ตลอดจนการทดสอบทางคลินิก ซึ่งในการทดลองได้ใช้มะระจันทั้งยังในรูปสารสกัดด้วยอัลกอฮอล์ สารสกัดด้วยอะซีโตนสารสกัดด้วย้ำในรูปผลแห้งแล้วก็น้ำคั้น และก็ได้มีผู้ทดลองสกัดแยกสารซึ่งมีฤทธิ์ลดเบาหวาน ยกตัวอย่างเช่น charantin , polypeptide , polypeptide P แล้วก็ purified proteinสำหรับกลไกการออกฤทธิ์ พบว่ามะระจีนมีฤทธิ์เหมือนอินซูลินรวมทั้งกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ เพิ่มการใช้น้ำตาลเดกซ์โทรสในเนื้อเยื่อต่างๆโดยไปเพิ่ม tissue respiration เมื่อให้น้ำคั้นผลมะระจีนก่อนให้น้ำตาลกลูโคส พบว่ามีการนำกลูโคสไปใช้ก็เลยมีการสะสมของglycogen ในตับและก็กล้าม ซึ่งบางทีอาจเพราะเหตุว่าไปเร่งการหลั่งอินซูลิน รวมทั้งเร่งการดูดซึมของเดกซ์โทรสก็ได้ นอกเหนือจากนั้นน้ำคั้นยังส่งผลต่อ gluconegensis ในไตคล้ายกับสาร hypoglycin ซึ่งลดน้ำตาลเพราะเหตุว่าเบาหวาน รวมทั้งพบว่าการทดลองให้หนูที่รั้งนำด้วย strepotozotocin ให้เป็นโรคเบาหวาน มะระจีนไม่ได้ผล อาจเพราะเหตุว่าเบต้าเซลล์ถูกทำลายไปแล้วไม่เฉพาะแต่มีการทดลองโดยใช้ผลมะระจีนเท่านั้น ยังมีการทดลองผลของเม็ดมะระจีนอีกด้วย จากการเรียนของนักวิจัยในฮ่องกง พบว่าในเมล็ดมีสารซึ่งมีฤทธิ์เหมือนกันกับอินซูลินซึ่งต่อมาได้พบว่า เป็น α-momorcharin, β-momorcharin , α-trichosantin แล้วก็เลคติน ในเวลาใกล้ๆกัน ได้มีหัวหน้าเมล็ดมะระมาสกัดด้วย 50% เมทานอล และ 0.9% น้ำเกลือ เมื่อนำสารสกัดไปทดสอบในหนูซึ่งอดอาหาร พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลง รวมทั้งสารสกัดเมทานอลรวมทั้งน้ำเกลือยังคุ้มครองไม่ให้ adrenaline ไปรั้งนำให้เกิดโรคเบาหวานโดยมีรายงานว่า สารสกัดมะระจีนยั้ง glucose optake ใน cell Ehrlich ascites tumor cell ซึ่งใช้เป็นการตรวจสอบพื้นฐานของพืชที่ยั้งเบาหวาน มีการเล่าเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของตำรับยาซึ่งมีมะระจีนเป็นส่วนประกอบ (ไม่กำหนดชนิดของสารสกัด) โดยฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาด 0.1 ก./กิโลกรัม พบว่าลดน้ำตาลในเลือด เมื่อทดลองฉีดสารสกัดอินซูลินจากมะระจีนเข้าทางช่องท้องหรือให้ทางปากหนูขาวปกติ และก็หนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวาน ด้วย alloxan หรือ streptozotocin พบว่าน้ำตาลในเลือดลดลง ถัดมามีการเรียนผลของสารสกัดเมทานอล:น้ำ ของดอกแห้งรวมทั้งใบมะระจีนขนาด 10 และก็ 30 มก./กิโลกรัม เมื่อกรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว พบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด และก็สารสกัด 95% เอทานอลของผลสด ขนาด 200 มิลลิกรัม/กก. กรอกเข้าทางกระเพาะของหนูขาวที่ใช้ streptozotocin รั้งนำให้เกิดเบาหวาน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดลง 22% รวมทั้งน้ำคั้นผลดิบสดของมะระจีน(ไม่ระบุขนาด) กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด นอกจากนั้นเมื่อให้น้ำสกัดผลมะระจีน 2 มล.เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงจาก 220 มิลลิกรัม% เป็น 105 มิลลิกรัม%คิดเป็น 54% ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าผงแห้ง ซึ่งต่ำลง 25% การเล่าเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกรั้งนำโดย alloxan ทดสอบการใช้สารสกัดเอทานอลขนาด 250 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทดสอบตรงเวลา 2 อาทิตย์ พบว่ามะระมีฤทธิ์อย่างแรงในการลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดมะระ 3 ตัวอย่างเป็น สารสกัด A เป็นผลแห้งมะระ 0.5 กิโลกรัม ในเมทานอล (1:10) สารสกัด B เป็นผลแห้งมะระ 0.5 กิโลกรัม ในคลอโรฟอร์ม (1:10) สารสกัด C สำเร็จสดมะระ 0.5 กิโลกรัม ในน้ำ (10:25) ในขนาด 20 มก/กก มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan เมื่อทดสอบการใช้ตรงเวลา 4 อาทิตย์ไม่พบความเป็นพิษต่อตับแล้วก็ไต แล้วก็ทดสอบการใช้ในขนาดสูงไม่พบพิษต่อตับและไตเหมือนกัน โดยมองจากค่า SGOT , SGPT รวมทั้ง lipid profile การค้นคว้าที่ ประเทศแอฟริกาใต้ ปี พ.ศ.2549 ถึงฤทธิ์ของการใช้สารสกัดมะระจีนทั้ง5เพื่อลดจำนวนน้ำตาลในเลือดของหนูที่ทำให้เป็นโรคโรคเบาหวานโดยใช้สารสเตรปโทโซโทสิน พบว่าจำนวนน้ำตาลในเลือดหนูต่ำลงทั้งหนูธรรมดาและก็หนูที่เป็นเบาหวาน ผลของการลดจำนวนน้ำตาลเปลี่ยนแปลงตามจำนวนสารสกัดที่ได้รับ ส่วนการทดสอบให้สารสกัดมะระจีนทั้งยัง 5 โดยการฉีดเข้าหลอดเลือดกับหนูธรรมดาแล้วก็หนูที่ถูกทำให้มีความดันสูง (hypertensive Dahl salt-sensitive rats) พบว่าลดระดับความดันตอนบนและอัตราการเต้นของหัวใจของหนูทั้งที่เป็นปกติแล้วก็มีลักษณะอาการความดันสูงอย่างผันกับจำนวนสารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การให้สารอะโทรพีนต่อหนูไม่มีผลต่อการลดความดันเลือดในการทดลองนี้ จึง เชื่อว่าผลการลดความดันดังที่ได้กล่าวมาแล้วไม่ได้มีต้นเหตุที่เกิดจากกลไกวัวลิเนอร์จิก ส่วนการศึกษาเรียนรู้ที่ประเทศญี่ปุ่น ปีพ.ศ.2549 พบว่าไทรเทอร์พีนอะไกลโคนจากสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลมะระจีนแห้งจำนวน 2 ประเภท แสดงผลลดจำนวนน้ำตาลในเลือดตัวทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน (หนูโรคเบาหวานเพศผู้ ประเภท ddY) สารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็น epoxydihydroxycucurbitadiene แล้วก็ trihydroxycucurbitadien-al การทดสอบทางสถานพยาบาลในคนปกติพบว่า เมื่อกินผลมะระจีนสด (ไม่กำหนดขนาด) มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด มีการเรียนรู้โดยใช้ใบมะระจีนพบว่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (postpandrial glucose level) อีกทั้งในคนปกติและผู้ปั่นป่วนเบาหวานประเภทที่ 2 และใบมะระจีน ลดน้ำตาลในเลือดคนเจ็บเบาหวานจำพวกที่ 2 ได้ 60% อย่างมีนัยสำคัญเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับเดกซ์โทรส75 ก. (97%) แต่ว่าระดับอินซูลินและก็กลูโคสในเลือดไม่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้จากผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ยังพบว่าทั้งมะระจีนมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV โดยออกฤทธิ์สำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน มีรายงานศึกษาเรียนรู้ว่าชาวฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อได้ใช้สารสกัดจากมะระจีนนาน 4 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes เพิ่มขึ้น แล้วก็มีแพทย์คนจีนกล่าวว่ามีผู้ใช้มะระจีนนาน 4 เดือน ถึง 3 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes มากขึ้น ชี้ให้เห็นว่ามะระจีนมีฤทธิ์สำหรับในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน การศึกษาทางพิษวิทยา การทดลองความเป็นพิษ เมื่อฉีดสารสกัดพืชทั้งยังต้นด้วยเอทานอล(50%) เข้าใต้ผิวหนังในขนาด 20 กรัม/กิโลกรัม หรือให้หนูถีบจักรกินในขนาด 10 กรัม/กก. ไม่พบพิษ สารสกัดส่วนเหนือดินและไม่กำหนดส่วนที่ใช้ด้วยเอทานอล (50%) เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายกึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่าพอๆกับ 681 มก./กิโลกรัม รวมทั้งมีค่าสูงยิ่งกว่า 1,000 มก./กก. แอลคาลอยด์ที่แยกได้จากมะระจีน เมื่อให้กระต่ายรับประทานขนาด 56 มิลลิกรัม/ตัว หรือฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร 14 มก./กิโลกรัม ไม่เจอพิษ ฉีดน้ำคั้นจากผลเข้าท้องหนูขาวขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม หรือ 40 ซีซี/กก. พบว่าทำให้สัตว์ทดสอบตายภายใน 18 ช.ม.รวมทั้งเมื่อฉีดน้ำคั้นผลเข้าท้องของกระต่ายในขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม พบว่าทำให้กระต่ายตายด้านใน 18 ช.ม. แต่ว่าเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของกระต่ายในขนาด 6 ซีซี/กิโลกรัม พบว่ากระต่ายตายหลังจากได้รับสารสกัดอย่างต่อเนื่องตรงเวลา 23 วัน ส่วนน้ำสุกผลสดฉีดเข้าช่องท้อง หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ค่า LD50 เท่ากับ 16 มคก./ซีซี และ 270 มคกรัม/ซีซี ตามลำดับ เมื่อฉีดสารสกัดผลด้วยเอทานอล (50%) เข้าช่องท้องหนูถีบจักรพบว่าLD50 เท่ากับ 681 มิลลิกรัม/กก. ให้หนู gerbil กินสารสกัดผลกุดเอทานอล (95%) ขนาด 1.1 กรัม/กิโลกรัม นานต่อเนื่องกัน 30 วัน และสารสกัด (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้) ด้วยเอทานอล (95%) เมื่อผสมของกินในขนาด 50 มคก./ตัว ในหนูถีบจักรกิน พบว่าไม่ทำให้มีการเกิดพิษ เมื่อฉีดสารสกัดเม็ดด้วยน้ำเข้าช่องท้องหนูขาวพบว่า LD50 เท่ากับ 25 มิลลิกรัม/กก.สารสกัดผลด้วยคลอโรฟอร์ม เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูถีบจักรในขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทำให้สัตว์ทดสอบอ่อนแรง รวมทั้งตายหลังได้รับสารสกัดเป็นเวลา 24 ช.ม. พิษต่อระบบแพร่พันธุ์ เมื่อให้น้ำคั้นจากผล ขนาด 6 ซีซี/กก. ในกระต่ายที่ตั้งท้อง ทำให้มีเลือดไหลจากมดลูกรวมทั้งมีกระต่ายตายจากการตกเลือด เมื่อฉีดสารสกัดผลซึ่งมีสาร charantin และเม็ดซึ่งมีสาร vicine เข้าทางท้องของหมาในขนาด 1.75 กรัม/ตัว พบว่าฤทธิ์ยับยั้งกรรมวิธีสร้างน้ำอสุจิแล้วก็ในหนูถีบจักรเพศเมีย เมื่อได้รับสารสกัด (ไม่ระบุจำพวก) พบว่าส่งผลยับยั้งการผสมพันธุ์เมื่อให้ใบและเปลือกลำต้น (ไม่กำหนดขนาด) เข้าทางกระเพาะในหนูขาวที่ตั้งท้อง พบว่ามีเลือดไหลไม่ปกติจากมดลูก น้ำคั้นผลสดเมื่อให้ในหนูถีบจักรเพศภรรยามีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญวัย และน้ำคั้นผลสดเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของหนูขาว เมื่อให้น้ำคั้นจากผล (ไม่กำหนดขนาด) สารสกัดด้วยน้ำ (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) ในขนาด 200 มก./กก. เมื่อให้หนูขาวที่ท้องกินไม่พบว่าเป็นพิษต่อตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง และสารสกัดด้วยเอทานอลในขนาดที่พอๆกับ ก็ไม่พบว่ามีฤทธิ์ยั้งการฝังตัวของตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง น้ำต้มจากใบเมื่อให้หนูขาวเพศเมียกินในขนาด 500 มก./กก พบว่าไม่มีฤทธิ์ยับยั้งการฝังของตัวอ่อน และไม่เป็นพิษต่อตัวอ่อน ผลต่อเม็ดเลือดขาว น้ำคั้นจากผลในขนาดที่มีผลทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวธรรมดา(lymphocyte) ตายครึ่งหนึ่ง มีค่าเท่ากับ 0.35 มิลลิกรัม/จานเพาะเชื้อ สารสกัดด้วยน้ำเกลือ (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้) เมื่อทดสอบกับเซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) ในขนาด 40 มคกรัม/จากเพาะเชื้อ พบว่ามีความเป็นพิษต่อยืน (gene) lectin และก็โปรตีนบางชนิดในเมล็ดของมะระ ส่งผลยับยั้งบางแนวทางการสังเคราะห์ DNA ของอีกทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติรวมทั้งเซลล์ของมะเร็ง ป้อนน้ำคั้นจากผลสดรวมทั้งเมล็ดของมะระจีนให้หนูขาวเพศผู้ในขนาด 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 ก. เป็นเวลา 30 วัน พบว่าทำให้ enzyme serum Ƴ-glutamyltransferase และก็ alkaline phosphatase มีความเข้มข้นสูงขึ้นก็เลยคาดว่าน่าจะมีสารที่ส่งผลให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ คำแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง 1. ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากเปื่อยยุ่ย แก้ตับม้ามพิการ แก้อักเสบ บวมช้ำบวม ใช้ทาด้านนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคายเคือง อักเสบ 2. ผู้ที่มีภาวการณ์ขาดเอนไซม์จีสิกข์พีดี (G6PD) ไม่ควรกินเมล็ดมะระ เนื่องจากว่าบางทีอาจเกิดผลใกล้กัน ยกตัวอย่างเช่น โลหิตจาง ปวดศีรษะ เจ็บท้อง จับไข้ รวมทั้งอาจมีภาวะรุนแรงได้ในบางราย 3. หญิงมีท้องและอยู่ในตอนให้นมบุตร ไม่สมควรกินมะระจีน เพราะเหตุว่ามีการเรียนในสัตว์ทดสอบพบว่า สารเคมีในผลหรือเมล็ดมะเอือมระอาจทำให้มีเลือดไหลระหว่างมีท้อง และอาจเป็นสาเหตุให้แท้งได้ 4. คนไข้เบาหวาน โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่จะต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ยกตัวอย่างเช่น อินซูลิน ไกลพิไซด์ โทลบูตาไมด์ ไกลเบนคาไมด์ ไพโอกลิตาโซน ฯลฯ ควรระมัดระวังในการกินมะระ เพราะมะระอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลดน้อยลงเยอะเกินไป เอกสารอ้างอิง
|