หัวข้อ: กล้องถ่ายรูป VS กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ หากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วเธอจะเลือก เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ มกราคม 30, 2019, 01:59:45 pm ครั้นเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่าจำใส่ใจจนต้องเก็บบันทึกออกมาเป็นรูป และมันจักยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก ครั้นเมื่อข้างในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น “กล้องถ่ายรูป” นั่นเอง ซึ่งในสมัยนี้ ใครต่อใคร ต่างก็มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกล้องพร้อมมาด้วย เพื่อง่ายต่อการใช้งาน มิต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบโต อีกทั้งยังมีความคมชัดมิได้ต่างไปจากกล้องถ่ายภาพ DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แม้กระนั้นจริงๆ แล้วนั้นมันยังมีอะไรอีกมากหลายที่ต่างกันอยู่เยอะแยะเลยเทียว
อย่างเช่นเรื่องเซนเซอร์ เพราะด้วยกล้องถ่ายภาพจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะรวบรวมแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดภาพที่ยิ่งกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมไปถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างหลากหลายมากกว่า สำหรับสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายภาพเท่าใดนัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับมามาดูภาพจากกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนก็จะเจอ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องถ่ายภาพทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องมือถือเล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วไป ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเหนือกว่ากล้องถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ ถ้าหากเป็นการขยายของกล้องถ่ายภาพ เธอสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย ซึ่งน้อยรายในหมู่แบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะมีคุณสมบัตินี้ ก็เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นต้องใช้การซูมแบบ Optical เพื่อให้ได้ความเกี่ยวข้องของวัตถุบนภาพที่ดียิ่ง รวมทั้งหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เหตุเพราะในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคุณอาจจะมีทั้งรูปภาพ เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่นอน ถ้าเธอคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพท่านตลอดทริปที่กินซ่าไม่ก็พาแฟนท่องเที่ยว Universal Studios เพราะท่านคงจะมิต้องการมานั่งลบภาพถ่าย ลบบทเพลงโปรด หรือไม่ลิสหนังดังของคุณหรอก แต่ถ้ายอมสะพายกล้องถ่ายรูปสักตัว พร้อมด้วยเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเจ้าได้ทั้งรูปถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของคุณแน่นอน นั่นเป็นข้อมูลขั้นต้นว่าไฉนคุณถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายภาพตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนไว้ก่อน และอาจจะหยุดพักยาวๆ เลย หากได้รู้จักกับกล้องถ่ายภาพตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูข้อดี ๆ ของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือหรือไม่ กล้อง Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่เหมาะสมของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ข้อดีของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องมาจากกล้องถ่ายภาพ Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดความสะเทือนได้ถึง 4 Stop โดยหากว่าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ในที่แสงน้อย โดยที่ท่านมิต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย แถมป้องกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของเธอไม่เป็นตัวปัญหาเช่นกัน โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยทีเดียว ที่ถึงแม้ว่าจะถือด้วยมือ และไม่ได้มีเครื่องมือเพิ่มเติมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแยกเฟรมเพื่อให้บันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย จะเห็นว่านี่แค่จุดแข็งเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่ขาดลอยแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีฟีเจอร์หลากหลาย อีกมากมายเลยที่ยังมิได้พูดถึง อย่าง โหมดถ่ายรูป Auto ที่ให้คุณปรับตั้งค่าตามที่เจ้าต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายอยู่เช่นกัน เพื่อภาพมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และจุดสำคัญอีกอย่างของกล้อง Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก โดยมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำปรามาสที่ว่า “กล้องมันหนัก” ไปได้เลย คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา
|