หัวข้อ: Receiver ดีดูที่อะไร เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ มกราคม 31, 2019, 04:58:21 am ในหมู่นักเล่นเครื่องเสียงพวกโฮมเธียเตอร์นั้น Receiver หรือที่ขนานนามย่อๆ กันว่า AVRเป็นวัสดุอุปกรณ์ชิ้นส่วนสำคัญที่จำเป็นโดย Receiver ก็คือการรวมนำปรีแอมป์, จูนเนอร์ และภาคขยาย รวมทั้งภาคถอดรหัสระบบเสียงเซอร์ราวนด์ยัดใส่ไว้ในตัวเครื่องเดียวกัน เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ทำให้ระบบภาพและเสียงมาบรรจบกันก่อนที่จักส่งต่อไปที่ชุดลำโพงและระบบภาพ เช่นว่า TV โดยจะเป็นเหตุให้เพิ่มอรรถรสในการดูอย่างโรงภาพยนตร์เลยเทียว
ทุกวันนี้เราพบว่า AVR ยังสามารถทำอะไรอื่นๆ ได้ยิ่งกว่านั้น เช่น การเข้าอินเตอร์เน็ต หรือว่าการเล่นเสียงเพลงผ่านระบบ Home Networking ที่เป็นเหตุให้แปลงเป็นจุดศูนย์รวมความสำราญของครอบครัว ซึ่งการซื้อ Receiver ตัวหนึ่งสำหรับห้องโฮมเธียเตอร์นั้นหมายความว่าท่านกำลังซื้ออนาคตของความเบิกบานใจในที่อาศัยเลยเชียว โดยพวกเราจะมาเสนอแนะการคัดเลือกซื้อ Receiver สำหรับคนที่สนใจกัน 1. คัดเลือก Receiver ให้มันมีแนวเสียงที่มุ่งหวัง ขวนขวายคัดแบรนด์ที่ให้ข้อเด่นของน้ำเสียงของยี่ห้อนั้นๆตรงกับความชื่นชมของคุณไว้ก่อน อย่าไปดูรุ่นที่มีผู้คนบอกกล่าวว่าดีงาม หรือว่าไปเลือกสรรแบรนด์มีชื่อแต่อย่างเดียว เพราะหากเจ้าถูกใจสุรเสียงรุนแรง เบสหนัก แต่กลับไปเลือกคัด Receiver เสียงนิ่มนวลก็มิได้สร้างความสำราญให้เจ้าอย่างถ่องแท้หรือว่าใครจะมาเซ็ตเสียงภายหลังนั้นก็ใคร่ชี้แจงว่าในส่วนของโทนเสียงต่อให้ขยันเซ็ตยังไงก็มิสามารถทำให้ยี่ห้อนึงน้ำเสียงเทียบเท่าอีกยี่ห้อนึงได้ 2. พิจารณาจำนวนแชนแนลให้พอเพียง ตรวจสอบความจำนงของตนเอง พร้อมทั้งที่จักใช้เล่นกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ โดยมาตรฐาน เป็น Atmos7 แชนแนล หรือถ้าหากใครอยากอุ่นใจก็ไปยัน 9 หรือ 11 แชนแนลเลยก็ดี 3. เลือกเฟ้นระบบเสียงที่รองรับให้เพียงพอกับปัจจุบัน เวลานี้ให้เพ่งดูระบบเสียง Immersive Sound เช่น Dolby Atmos, DTS:X ไว้ก่อน ส่วนแบบเสียง HD ตัวอย่างเช่น Dolby True HD, DTS HD นี่เป็นขั้นต้นปกติ จำเป็นเลยทีเดียว 4. รองรับระบบภาพ 4K ถ้าว่าเธอมี TV ที่ระบบภาพให้เป็น 4K Ultra HDTV คุณก็ควรใช้ Receiver ที่สามารถรองรับกับ Content หรือว่ารายการที่บันทึกมาในรูปแบบ 4K ด้วย ซึ่งสมัยนี้ Receiver ระดับราคาไม่เลย 40,000 บาท ก็มีสมรรถนะนี้เหมือนกันหมดทุกตัว
สติ๊กเกอร์หลายอย่าง ที่ประทับไว้บนตัวเครื่องบอกถึงฟีเจอร์เด่น อย่างเช่น Pandora, Rhapsody หรือว่า Spotify คือผู้ให้บริการ streaming ผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่ว่าหลักๆ ณปัจจุบันมักให้การต่อผ่าน Ethernet ชนิด LAN แม้กระนั้นก็มีระบบการต่อระบบเครือข่ายแบบไม่มีสายมาให้อีกด้วย ทั้ง WiFi พร้อมกับบลูทูธ โดยความแตกต่างของระบบเชื่อมแบบไม่มีสายทั้งสองรูปแบบก็อยู่ที่ความง่ายดาย ความสบายในการคอนโทรล พร้อมกับคุณภาพของการเล่นไฟล์เพลงนั่นเอง 6. ขนาด Receiver ควรให้สมกับสัดส่วนของห้องหับ พร้อมด้วยขนาดของต้นลำโพงว่าขับยากแค่ไหน ถ้าห้องเล็กๆ 3 x 3.5 เมตร ห้องนอนปิด ลำโพงประเภทกะทัดรัด แบบนี้การใช้ Receiver เล็กๆอาจจะพอเพียงแล้ว การเพิ่มจำนวนเงินไปใช้รุ่นใหญ่คงจะมองเห็นความแตกต่างบ้างแต่ก็ขี้ผงจนไม่คุ้มค่ากับเงินทองที่จ่ายเพิ่มเติม รวมถึง Power ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เกินจำเป็น เนื่องจากได้รับแค่โทนเสียงที่เปลี่ยนไป แต่พลังพร้อมกับเนื้อเสียงนั้นมิมีส่วนข้องเกี่ยวเลย 7. ระบบ MultiRoom ทันทีที่ท่านต้องการแชร์การฟังเพลงไปยังห้องอื่นๆ ภายในบ้าน หรือทุกหัวระแหงที่เธอต้องการเสียงเพลง Receiver บางรุ่นมีฟังก์ชัน Multi Zone รวมทั้งฟังก์ชัน Multi Source Audio ที่ทำให้คุณสามารถเล่นดนตรีได้จากแหล่งต้นทางที่แตกต่างกันในแต่ละอาณาบริเวณ โดยสามารถใช้ความจัดเจนนี้ได้ผ่านทางภาคขยายที่มากับตัวเครื่อง หรือจักนำเฉพาะสัญญาณ Line-out ไปเชื่อมกับ Active Speaker ข้างนอกก็ได้ สมัยปัจจุบันการทำงานในประเภทนี้นับว่าง่ายดายและประหยัด เพราะสามารถคอนโทรลเลือกเสียงเพลงจากแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อยู่ในวง network เดียวกันกับ AV Receiver ได้เลย
เวลาเลือกเฟ้น Receiver พยายามตั้งราคาที่ชำระไหวจากนั้นค่อยๆคัดเลือกรุ่นที่อยู่ในงบในฟังก์ชันครบเครื่องที่สุด โดยดูว่า แชนแนล Preout รองรับระบบเสียงที่ต้องการไหม ถ้าหากมีมากเกินพอดีและราคาจ่ายไม่ไหวก็ลดน้อยลงมา ด้าน Option รองๆ ประเภท Blutooth, Streaming อาทิ Chormcast, Playfi, Zone2 ต่างๆ อย่างนี้ หากงบไม่ถึงจริงๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องสนใจ มาดูที่ขั้นแรกการใช้งานทั่วไปให้แน่นก่อน จะเห็นได้ว่าการที่ท่านจักคัดซื้อ Receiver ที่เหมาะกับตนเองนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ กลั่นกรองถึงความเหมาะเจาะของตัวเราเองก่อน ว่าพึงประสงค์สิ่งไรและมีงบเท่าไหร่ พอเป็นไปตามกรรมวิธีนี้ ท่านจะได้ Receiver ที่ถูกใจแน่ขอรับกระผม คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : receiver ราคาถูก Tags : Receiver,receiver ราคา,receiver ราคาถูก
|