หัวข้อ: ผ้าซิ่นผ้าไหม เริ่มหัวข้อโดย: Navaphon11991 ที่ มิถุนายน 21, 2015, 09:34:59 am “อยากรู้จักหญิงสาวให้เริ่มมองที่หน้า แต่หากอยากได้ภรรยาต้องดูจากผ้าซิ่น”คำกล่าวนี้คงนิยาม ความหมายผ้าซิ่นให้ทุกท่านได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งในอดีตกาลผ้าซิ่นสำหรับชาวลาว หรือชาวไทยทางล้านนาและ อีสานถือว่าผ้าซิ่นเป็นเสื้อผ้าหลักของผู้หญิงที่บ่งบอกถึงตัวบุคคลได้อย่างดี ทุกท่านคงสงสัยกันไม่น้อย แล้วว่า “ผ้าซิ่นนั้นสำคัญไฉน” ด้านล่างนี้มีคำตอบ (http://www.prou-d.com/images/content/original-1424366178741.jpg) คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผ้าทอด้วยครั้งหลังผู้หญิงจะเย็บผ้าซิ่นไว้เป็นถุงใช้สำหรับนุ่งเปรียบคล้ายกับกระโปรง สำหรับการแต่งกาย ที่จะต้องแตกต่างกันไปเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และกาลเทศะนั้นสำหรับผู้หญิงก็จะนุ่งผ้านุ่งที่มีลวดลายและเนื้อผ้า แตกต่างกันไป โดยหลักแล้วจะมีสองแบบคือ สวมอยู่บ้านปกติก็อาจจะนุ่งผ้าซิ่นที่เป็นผ้าฝ้ายธรรมดาไม่มี ลวดลาย และอีกแบบคือ นุ่งสำหรับออกงานสังคมผ้าซิ่นก็จะมีต้องตาต้องใจมากขึ้น ไม่ว่าด้านความประณีตใน การทอ การตกแต่งลวดลาย เพิ่มสีสัน รวมถึงคุณภาพของเนื้อผ้าที่มีมีราคายิ่งขึ้น ทั้งนั้นงานทอผ้าในครั้งหลังนั้นถือเป็นหน้าที่ของลูกผู้หญิง โดยทุกๆบ้านจะมีการปลูกฝังและฝึกฝนลูกสาวให้ รู้จักทอผ้าให้ชำนาญและมีการทอไว้สำหรับโอกาสพิเศษของตนเอง สำหรับบางผืนอาจจะใช้เวลานานหลายปีขึ้นอยู่กับ ความประณีตบรรจงของลวดลายการทอ เมื่อถึงวันออกงานสาวๆบ้านไหนที่นุ่งผ้าซิ่นที่สวยงามอย่างพิถีพิถันนั้น เมื่อผู้อื่นได้พบเห็นก็จะที่ถูก กล่าวถึงเป็นที่ประทับใจ ในด้านฝีมือการทอผ้า ทั้งนั้นตัวผ้าซิ่นจะบ่งบอกความเป็นกุลสตรี ในด้านความประณีตบรรจงด้านงาน ฝีมือ ความสุขุมและสมาธิ และอีกทั้งยังบ่งบอกถึงสถานภาพทางสังคมอีกด้วย อาจกล่าวง่ายๆได้ว่า “สำเนียงต่อภาษา ส่วน เนื้อผ้าส่อสกุล” ได้เลยทีเดียว สำหรับองค์ประกอบของผ้าซิ่นนั้นสามารถจำแนกได้เป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1.หัวซิ่น จะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของผ้า ซิ่น โดยที่ในขณะที่นุ่งใส่จะอยู่บริเวณช่วงเอวและอยู่ใต้ชายเสื้อทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก อีกทั้ง ส่วนมากนั้นไม่มีการตกแต่งลวดลายในส่วนนี้ 2.ตัวซิ่น เป็นส่วนที่กว้างมากที่สุดของผ้าซิ่นและเป็นส่วนหลักๆที่สามารถ สังเกตเห็นได้ในขณะสวมใส่ตั้งแต่ใต้เอวจนถึงบริเวณหน้าแข้งทีเดียว ส่วนมากมักมีการถักให้มีสีสันและลวดลายบ้าง เล็กน้อยแต่จะเป็นแบบเดียวกันตลอดทั้งตัวผ้าซิ่น เพื่อความกลมกลืนและไม่ให้เป็นจุดเด่น 3.ตีนซิ่น ส่วนนี้นั้นจะอยู่ด้าน ล่างสุดตามชื่อเรียก ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีลวดลายที่โดดเด่นเป็นพิเศษทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น ผ้าซิ่นแต่ละประเภทนั้นจะถูกเรียกชื่อตามจารีตท้องถิ่นและแหล่งต้นกำเนิดของผ้าซิ่น โดยประเภทของผ้าซิ่นก็ จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวไปในข้างต้น ที่จะต่างกันไปในแต่ละพื้นบ้าน เช่น ความกว้างแคบของตีนผ้าซิ่น ภาคเหนือมักมีความกว้างของตีนซิ่นที่มากกว่าฝั่งอีสานที่มักนิยมตีนซิ่นที่แคบ หรือ กระทั่งความแตกต่างกันในเรื่องของลวดลายก็จะเป็นตัวแบ่งลักษณะของผ้าซิ่น ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดๆ การเลือกผ้าซิ่น ต้องคำนึงรูปร่างและสรีระของผู้สวมใส่โดยต้องมีความกว้างที่พอดีกับความสูง และมีความยาวหรือเส้นรอบวงที่พอดีกับ ช่วงลำตัวเพื่อความน่ารักและเหมาะสม หวังว่าจะทุกท่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับผ้าซิ่นกันพอสังเขปนะครับ (http://tisc.feu.ac.th/UploadImg/handicraf/Cloth/Pic13.jpg) เครดิต : http://www.prou-d.com/15127400/ผ้าซิ่น-sinh-fabric-textiles-silk Tags : sinh fabric,ผ้าไหม
|