หัวข้อ: ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกช่องทางของความคุ้มราคา เริ่มหัวข้อโดย: mmhaloha ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2019, 05:49:31 am แม้ว่าสมาร์ทโฟนตัวหลักของค่าย Apple ในศก 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมทั้งดีไซน์และฟีเจอร์แบบพรีเมี่ยมและเป็นแน่แท้ว่ามูลค่าก็สูงเช่นกัน แต่หลายคนอาจจะหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X โหมโรงแค่ 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักจี่กัน โดยจากนั้นคงเหมือนเป็นรุ่นที่ถูกหลงลืมเพราะกระแสของ iPhone X แต่ทราบหรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 พร้อมด้วย iPhone 8 Plus แม้กระนั้นจะมีโครงสร้างหน้าตามิแตกต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ อิฉันจะพาทุกคนไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus เปิดขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในอเมริกาและวางขายที่บ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่นละออง เช่นกัน ถึงกระนั้นมีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังคือกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้ ในด้านของความจุนั้น Apple ก็มีมาให้คัดแค่เพียง 2 ความจุ เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง แม้ความละเอียดหน้าจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสีหน้าจอให้ตรงกับสภาวะแสงในขณะนั้น เป็นเหตุให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งเป็น 4-Core ที่ประสิทธิภาพสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอะไร โดยใช้การทำงานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าศึกษาคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบตลอดการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปหรือเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกขั้นสูงสุด ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่ต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างจะเยอะ หรือ ROV ก็เล่นได้มิสะดุด กล้องถ่ายรูปได้พัฒนามาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล แม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลคงเดิม แต่กระนั้นมีการปรับปรุงอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้เพิ่มมากขึ้น จับภาพในภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ชักรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า “Portrait Lighting” เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้มนุษย์เราเลือกสรรปรับแสงใบหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 กับแฟลชจากจอ Retina HD ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนที่ในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูอ่อนนุ่ม ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีแค่ 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกสรรได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปกติ ท่อนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps เทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า มิต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple แค่นั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จปราศจากสายจาก Apple ออกมาขายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถใช้แบรนด์อื่นๆ ได้ ถึงกระนั้นแนะนำว่าจงเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge เอาเป็นว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้จะคงไว้ดีไซน์ตัวเครื่องเดิมทีตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานถ่ายภาพน่าจะชอบใจการรวมกันของคุณลักษณะของกล้องถ่ายภาพที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเติมแต่งแสงเงาในภาพได้หลายหลากแบบตามความอยาก ทำให้ตอนที่ออก ออกขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องถ่ายภาพมือถือที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์มือถือ ส่วนหน้าจอที่งดงามบวกกับความไหลลื่นและคุณลักษณะสำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์มือถือตัวตัวหลักใด ๆ ในตอนนี้ก็นับว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากว่าใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเลื่อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะนำไปนั้น ก็แนะนำว่ารอคอยไปอีกนิดหน่อย เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8
|