หัวข้อ: ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกวิธีเลือกของความคุ้มราคา เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2019, 06:10:07 pm แม้สมาร์ทโฟนตัวหลักของค่าย Apple ในศก 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมออกแบบและคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็แพงเหมือนกัน แต่กระนั้นหลายคนคงจะหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X โหมโรงเพียง 15 นาที iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักคุ้นกัน ซึ่งต่อจากนั้นอาจจะเหมือนคือรุ่นที่ถูกหลงลืมเพราะว่ากระแสของ iPhone X แต่รู้หรือไม่ว่า iPhone 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus แม้จะมีโครงสร้างหน้าตามิต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของ iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ ดีฉันจะนำพาทุกคนไปทำความรู้จักมักคุ้นกับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
ไอโฟน 8[/b] กับ iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ณประเทศสหรัฐอเมริกาและจัดจำหน่ายในไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีขนาดตัวเครื่องทัดเทียมกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีสมรรถภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นเดียวกัน แต่กระนั้นมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังคือกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบปราศจากสายได้ ในส่วนของความจุนั้น Apple ก็มีมาให้คัดเพียงแค่ 2 ขนาด ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมพร้อมกับเร็วเพิ่มขึ้น จึงทำการลดรุ่นให้น้อยลง แม้ว่าความละเอียดหน้าจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาพแสงในขณะนั้น ทำให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แยกย่อยเป็น 4-Core ที่สมรรถนะสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอะไร โดยใช้งานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าดึงดูดคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปพร้อมกับเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกอันดับสูงสุด ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่ต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือไม่ก็ ROV ก็เล่นได้ไม่ชะงัก กล้องถ่ายรูปได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล แม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม กลับมีการปรับปรุงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ชักรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า “Portrait Lighting” เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพบุคคล เดิม ที่ให้พวกเราเลือกปรับแสงหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายรูปข้างหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมด้วยไฟแฟลชจากจอ Retina HD ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพความเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีแค่ 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปกติ ส่วนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps เทคโนโลยีชาร์จปราศจากสายที่เพิ่มเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง มิจำเป็นต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จปราศจากสายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้โดยในเวลานี้สามารถใช้แบรนด์อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำว่าสมควรเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge เอาเป็นว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงไว้ดีไซน์ตัวเครื่องเดิมทีตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชอบฉายรูปน่าจะชอบใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องถ่ายรูปที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมแต่งแสงเงาในภาพได้ต่างๆ นาๆแบบตามความประสงค์ เป็นเหตุให้ขณะที่ออก ออกขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องมือถือที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนจอที่งามผนวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวเรือธงใด ๆ ในเวลานี้ก็ถือได้ว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่หากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะย้ายขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชักชวนไปนั้น ก็แนะนำว่ารอคอยไปอีกสักนิด เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะมากขึ้นยิ่งกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8
|