|
หัวข้อ: เครื่องเย็บผ้า กับความรู้ดี ๆ ที่แม่ศรีเรือนต้องสนใจ เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ มีนาคม 03, 2019, 07:17:09 am คงจะมีแม่เหย้าแม่เรือนหลาย ๆ คนที่ชอบซ่อมเครื่องนุ่งห่มหรือเย็บปักถักร้อย ซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญคงหนีไม่พ้นจักรเย็บผ้านั่นเอง ซึ่งใครตะกลามจะได้เครื่องเย็บผ้าสักเครื่องและไม่มีข้อมูลมาก่อนอาจจะฉงนน่าดูเลยทีเดียว ฉันเลยเรียบเรียงข้อมูลและความรู้มาให้ใครต่อใครรู้กัน
ในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตได้มีการดีไซน์เครื่องเย็บผ้าออกมาหลากหลายแบบ ซึ่งออกแบบให้มีตามยุคสมัยเพิ่มขึ้น ใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังออกแบบให้สามารถใช้งานได้มากมาย โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกคัดซื้อเครื่องเย็บผ้าได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งานดังต่อไปนี้ 1. ทราบเป้าหมายที่จะหยิบยกไปใช้ พึงจะตั้งต้นจากการที่มีจุดหมายปลายทางชัดแจ้งแล้วว่าพึงประสงค์เลือกซื้อจักรเย็บผ้า เพื่อมาใช้งานอย่างใดตัวอย่างเช่น ซ่อมเครื่องแต่งตัวทั่วไป ซึ่งขั้นพื้นฐานสำหรับไม่ชำนาญหรือต้องการเพียงนำมาใช้แก้ เติมแต่งเสื้อผ้าในยามจำเป็นและเย็บย่ามหรือว่าของใช้หยุมหยิม สามารถเลือกเป็นเครื่องเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการปะเส้นตรงอย่างเดียวก็เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีทั้งเครื่องเย็บผ้าไฟฟ้าหรือเครื่องเย็บผ้าคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดพอดี ซ่อมได้ละมุนละไมและใช้งานสะดวกกว่าหัวจักรเหล็กที่จะเน้นย้ำความเสถียรทนทานจากการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ อยู่ที่ว่าต้องการเย็บเป็นงานพิเศษหรือปรารถนารับงานซ่อมมาซ่อมเสริมด้วยนั่นเอง ทำงานฝีมือ นอกจากจักรที่มีฟังก์ชันการปะเส้นตรงเพียงอย่างเดียวแล้ว ก็ยังมีรูปแบบที่เติมต่อฟังก์ชันการซ่อมตะเข็บรูปแบบอื่นๆ ประเภทแนวซิกแซก รวมถึงการปุปะงานควิ้นล์ และในบางรุ่นอาจเพิ่มการปักเข้ามาด้วย โดยจะเหมาะสำหรับการปะเครื่องแต่งกายทั่วไปพร้อมทั้งทำงานฝีมืออื่น ๆ เสริมด้วย ถ้าหากวันใดต้องการตัดเย็บขากางเกงก็ทำได้ 2. ตั้งงบและตรวจสอบราคา หลังจากรับรู้เหตุจำเป็นและคัดเลือกรูปแบบเครื่องเย็บผ้าที่ประสงค์ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ต้องตั้งงบประมาณและสำรวจหาราคากัน ซึ่งเครื่องเย็บผ้าที่ไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ก็อาจเริ่มที่ 3,000-4,000 บาท อย่างไรก็ตามหากเป็นจักรเย็บผ้าที่เก่งปะได้หลายรูปแบบหรือจักรปักก็อาจจะมีราคาสูงถึงหลักหมื่น 3. ดูผลิตภัณฑ์ของจริง ก่อนที่จักซื้อผู้ชื้อควรจะได้ดูสินค้าจริง มากกว่าการดูผ่านแค่รูปภาพอย่างเดียว ควรเดินทางไปดูสินค้าจริงที่ร้านขายจริงโดยตรง บางร้านอาจจะมีการแสดงการใช้งานเครื่องเย็บผ้ารุ่นหลากหลาย ให้ได้ชม รวมทั้งผู้ซื้อยังสามารถตั้งคำถามสิ่งที่อยากทราบจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย 4. เทียบเคียงข้อดีข้อเสียหายของแต่ละรุ่น หลังจากที่ได้ดูผลิตภัณฑ์ของจริงแล้ว ต้องมีการเอาข้อมูลที่ได้มาทำการเทียบเคียงรุ่นของจักรเย็บผ้าว่าแต่ละรุ่นมีความต่างกันเช่นไร อาทิสมรรถภาพ ขั้นตอนใช้งาน รวมไปถึงราคาจักรแต่ละรุ่นด้วย 5. ตรวจดูบริการหลังการขาย บริการหลังการขายเป็นอีกส่วนสำคัญในการคัดเลือกซื้อเครื่องเย็บผ้า เพราะฉะนั้นหากร้านค้าขายจักรที่ให้บริการมีการบริการเพิ่มเติมเหนือจากการขาย จักรเย็บผ้า เช่น การบริการซ่อม การบริการเคลื่อนย้าย การบริการติดตั้ง จะทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการใช้งานจักรและการขนย้ายมากเพิ่มขึ้นรวมทั้งผู้บริโภคสมควรเลือกสรรร้านรวงจัดจำหน่ายเครื่องเย็บผ้าที่มีอะไหล่จักรเย็บผ้าให้บริการครั้นเมื่อเสื่อมสภาพ ทันทีที่ได้จักรเย็บผ้ามาแล้วการทำนุบำรุงจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติตามมาดังนี้
โดยตรวจดูความเรียบร้อยทั่วๆ ไป เช่น ความผิดปกติที่พื้นที่ตัวเครื่องจักรเย็บผ้าและมอเตอร์ ชำระล้างที่บริเวณเท้าทับผ้า แท่นฟันจักร เข็มสอยผ้าเครื่องเย็บผ้าและรอบๆ ตัวเรือนกระสวย และหลังจากหยุดใช้เครื่องเย็บผ้าแล้ว ให้นำเศษผ้า มาแผ่ไว้ที่ใต้เท้าทับผ้าทุกครั้ง 2. การดูแลรักษาประจำอาทิตย์ โดยสำรวจตรวจสอบมองดูระดับน้ำมัน ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง คือ ระดับ High กับ Low ถ้าหากน้ำมันสกปรกมาก ควรจะทำการเปลี่ยนขนย้ายน้ำมันจักร โดยใส่น้ำมันใหม่ ให้ได้ระดับตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน และควรจะสำรวจความตึงของสายพานจักร โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงหยอดน้ำมันหล่อลื่น ตรงข้อต่อหรือตรงชิ้นส่วนที่เกิดการเสียดสี อย่างไรก็ตามอย่าหยอดน้ำมันบ่อยเกิน เพราะจะทำให้น้ำมันไหลออกมาข้างนอกจนเปื้อนเปรอะ หัตถศิลป์นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสามารถผู้ทำ แม้กระนั้นวัสดุอุปกรณ์เช่นจักรเย็บผ้าที่ดีทรงคุณภาพก็เป็นตัวช่วยสำคัญให้งานออกมาปราศจากข้อเสียมากเพิ่มขึ้น ซึ่งจากที่ผมรวมความถึงข้อมูลก่อนการเลือกซื้อและการดูแลรักษาจักรเย็บผ้าไปแล้วนั้น วาดหวังว่าจะเป็นแผนการที่ดีให้ผู้ให้ความสนใจทุกท่านนะขอรับกระผม Tags : จักรเย็บผ้า,จักรเย็บผ้า ราคา,จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี
|