หัวข้อ: มะระขี้นก กินแล้วตาหวาน...ไขมัน...น้ำตาลลด เริ่มหัวข้อโดย: Keekayr1200gs ที่ มีนาคม 06, 2019, 06:48:28 am (https://sv1.picz.in.th/images/2018/12/22/9KtmuN.jpg)
มะระขี้นก ขึ้นชื่อว่ามะระ ก็จะต้องระลึกถึงรสขมๆที่ไม่ต้องลิ้มลองก็รู้สึกขมไปถึงในคอ แต่ว่าก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเจ้าพืชผักจำพวกนี้น่ะก็มีสาระไม่น้อยอย่างเดียวกัน แม้แต่สายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเจ้ามะระผลใหญ่ๆอย่างมะระขี้นก สรรพคุณของมันก็มีพรั่งพร้อมไปตั้งแต่รากจนถึงเม็ด วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาไปลัดรอบรั้ว ทำความรู้จักกับเจ้าพืชสมุนไพรใกล้ตัวประเภทกันให้แจ้งชัดไปเลยว่า ภายใต้รสชาติขมๆนั้นซ่อนประโยชน์อะไรไว้บ้าง หากได้ทราบแล้วบอกได้เลยว่าจึงควรรีบไปพบมาปลูกไว้กินกันแบบไม่มีเรื่องที่น่าสงสัยกันอีกเลย มะระขี้นก ชื่อวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ คืออะไร[/size][/b] มะระขี้นก มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Momordica charantia L. รวมทั้งมีชื่อเรียกทางภาษาอังกฤษไปอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น Balsam apple, Balsam pear, Bitter cucumber, Bitter gourd, Bitter melon, Carilla fruit โดยพืชจำพวกนี้เป็นในเชื้อสายพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นไม้เถา เช่นเดียวกับ บวบ แตงร้าน โดยนั้นเป็น 1 ใน 2 สายพันธุ์ของมะระที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ซึ่งตัวอย่างเช่น มะระจีน รวมทั้งโดยจะส่งผลเล็ก รวมทั้งขมกว่ามะระจีน โดยรสขมของมะระนั้นก็มาจากสารเคมีที่ชื่อว่า Momodicine ในเวลาที่โดยมากแล้วนิยมนำผลมารับประทานสดกับน้ำพริก หรือไม่ก็ลวกก่อนที่จะเอามารับประทาน หรือหากทนกับกลิ่นเหม็นเขียวแล้วก็รสขมๆได้ ก็นำมาคั้นหรือปั่นรับประทานเป็นเครื่องดื่มได้เหมือนกัน ดังนี้ปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางของกินดังต่อไปนี้ - พลังงาน 17 กิโลแคลอรี - ไขมัน 1 กรัม - ไฟเบอร์ 12 กรัม - คาร์โบไฮเดรต 9.8 กรัม - แคลเซียม 3 มิลลิกรัม - โปรตีน 2.9 กรัม - ฟอสฟอรัส 140 มก. - ธาตุเหล็ก 9.4 มก. - วิตามินเอ 2,924 ยูนิต - วิตามินบี 1 0.09 มิลลิกรัม - วิตามินบี 2 0.05 มิลลิกรัม - วิตามินซี 0.4 มิลลิกรัม - ไทอามีน 0.07 มิลลิกรัม - ไนอะซิน 190 มก. และไม่เพียงในประเทศไทยแค่นั้นที่เห็นคุณค่าของมะระขี้นก เนื่องจากจริงๆแล้วสมุนไพรประเภทนี้ถูกใช้สำหรับเพื่อการรักษาโรคมานานนับพันปีไม่ว่าจะในทวีปเอเชีย แอฟริกา หรือแถบละตินอเมริกา ก็ล้วนแล้วแต่ใช้เจ้านี้ในการทุเลาและรักษาลักษณะโรคต่างๆอีกด้วย มะระขี้นก คุณประโยชน์สุดเยี่ยมด้านในผลเล็กๆ มะระขี้นก[/b][/i]นับว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และก็วิตามินประเภทต่างๆรวมถึงไนอะซิน ที่ดีต่อสภาพร่างกาย เวลาที่คุณประโยชน์ทางยาของเองก็ไม่ใช่น้อยๆอย่างเดียวกัน เพราะไม่ว่าจะส่วนไหนของก็สามารถช่วยรักษาลักษณะการป่วยรวมทั้งโรคต่างๆได้ทั้งนั้นเลย * รากแล้วก็เถา - ใช้แก้ร้อน แก้พิษ ถ่ายบิดเป็นเลือด หรือแม้กระทั้งรักษาฝีบวมอักเสบ และปวดฟัน * ใบ - ใช้รักษาโรคกระเพาะ บิด ทุเลาแผลฝีบวมอักเสบ ขับพยาธิ * ดอก - มีรสขมรวมทั้งเย็นจัด สามารถช่วยรักษาโรคบิดได้ * เมล็ด - ใช้เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ บำรุงธาตุ และชูกำลัง * ผลสด - ใช้แก้พิษร้อน แล้วก็อาการร้อนใน รักษาโรคบิด ตาบวมแดง บรรเทาแผลบวมเป็นหนองและฝีอักเสบ * ผลแห้ง - ช่วยรักษาอาการโรคหิด ไม่เพียงแต่สรรพคุณทางยาเท่านั้น สาร Momodicine ในมะระขี้นกก็ยังมีคุณประโยชน์สำหรับในการช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากอาหาร และก็กระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะดำเนินงานได้เต็มสมรรถนะเยอะขึ้น ทั้งยังยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะท้องผูกเสมอๆแล้วก็เว้นแต่สารเคมีจำพวกนี้แล้ว ทางอายุรเวทยังได้มีการนำมาใช้เพื่อการรักษาโรคตับ บรรเทาลักษณะของโรคโรคเกาต์ และข้ออักเสบได้ มะระขี้นก กับเบาหวาน สมุนไพรเด่นลดน้ำตาลได้ดีเยี่ยม การเรียนรู้ในปี 1962 ได้พบว่า สารซาแรนว่ากล่าวน (Charatin) ในผลมะระขี้นกสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือด ต้านอาการโรคโรคเบาหวานในหลายๆกลไก เช่น ช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ กระตุ้นการเผาไหม้น้ำตาล และก็เพิ่มความคงทนจากเดกซ์โทรส และก็ยั้งการหลั่งของเดกซ์โทรสในลำไส้เล็ก รวมถึงยับยั้งเอนไซม์กลูวัวไซเดส อันเป็นที่มาของอาการโรคเบาหวานได้อีกด้วย ที่น่าแปลกไปอีกทั้งเป็น มะระสามารถชะลอความผิดแปลกของไต แล้วก็ความเสื่อมโทรมของเส้นประสาทในร่างกายที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงสะสมเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเกิดโรคต้อกระจกในคนเจ็บโรคเบาหวานได้อีกด้วย ซึ่งหากว่ากินเป็นประจำก็สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้อีกด้วย(https://sv1.picz.in.th/images/2018/12/22/9KtMDS.jpg) มะระขี้นก รักษางูสวัดได้ใช่หรือ ? บางทีอาจจะเคยทราบตำรายาโบราณกันมามากมายว่า ถ้าหากเป็นงูสวัดแล้วให้นำใบแก่ของมาตำเพียงพอแหลกแล้วพอกลงบนงูสวัด แต่ว่าขอบอกเลยว่ายังไม่มีผลวิจัยทางด้านการแพทย์ใดๆยืนยันว่าใบมะระขี้นกสามารถรักษางูสวัดได้ แต่ว่าที่มีความเห็นแบบนั้นอาจจะเป็นเนื่องจากตัวใบของเองก็มีฤทธิ์เย็น สามารถช่วยบรรเทาอาการบวมอักเสบของงูสวัดได้ แต่ว่าไม่สามารถกำจัดเชื้อของงูสวัดได้ ข้อควรปฏิบัติตามสำหรับในการกินมะระขี้นก ถึงจะมีสรรพคุณล้นหลาม แต่ว่าการกินมะระขี้นกก็ยังมีข้อจำกัดในคนบางกรุ๊ป เนื่องด้วยมีฤทธิ์เย็น การรับประทานมากมายไปอาจทำให้เกิดผลกระทบได้ ดังเช่น สตรีตั้งท้อง เด็กหรือผู้ที่หรูหราน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานโดยเด็ดขาด เพราะมีสารที่ช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลง ถ้ารับประทานเข้าไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลงได้ โดยเฉพาะคนท้องที่บางทีอาจจะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวแม่เองแล้วก็เด็กในท้อง ยิ่งกว่านั้นยังไม่ควรกินมะระต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆเพราะอาจก่อให้ร่างกายมีการเสียสมดุล ควรจะเว้นระยะสำหรับการกิน ทั้งผลสุกของมะระขี้นกก็ควรหลบหลีก เนื่องจากผลสุกของมีสารไซยาไนต์ และก็สารซาโปนินที่ส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาท กินเข้าไปแล้วอาจก่อให้กำเนิดอาการระบบประสาทไม่ปกติ ทำให้เกิดการคลื่นไส้ ท้องร่วงหรือช็อกสลบได้ มองเห็นไหมล่ะคะว่าคำว่า "หวานเป็นลมเป็นแล้งขมเป็นยา" เป็นคำที่ถูกที่สุดเลยล่ะ เนื่องจากว่าประโยช์จากนั้นดีต่อสภาพทางด้านร่างกายมากมายหลายอย่าง ยังไงไปตลาดสดครั้งต่อไปอย่าลืมซื้อมะระขี้นกมาทดลองรับประทานกันนะ หรือถ้าคนใดกันรับประทานแบบได้ผลสำเร็จสดๆมิได้เพราะเหตุว่าทำใจไม่ไหว ลองเริ่มด้วยการกินแบบแคปซูลดูกรก็ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีแบบแคปซูลวางจำหน่ายตามท้องตลาดอยู่มากมาย ลองเลือกดูสักทางจะได้มีความคิดเห็นว่าสมุนไพรจำพวกนี้มีสิ่งดีๆที่ล้ำกว่ารสชาติอย่างไรล่ะ มะระทำยังไงไม่ให้ขม ? มะระขี้นก ม่ว่าจะมะระสายพันธุ์ไหนก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความขมแทบทั้งนั้นจนกระทั่งบางบุคคลบางทีก็อาจจะรับประทานแทบมิได้ แต่โน่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปจ้ะ แค่เพียงใช้เกลือแกง โดยแม้จะนำมะระไปต้มสุกก็ควรจะเพิ่มเกลือสมุทรลงไปในน้ำที่ใช้ต้มมะระด้วยก็จะทำให้ความขมต่ำลง แต่ว่าถ้าเกิดอยากรับประทานสดๆแม้กระนั้นไม่ต้องการที่จะอยากลิ้มชิมรสชาติขมๆก็เพียงนำมะระมาชำระล้าง ผ่าครึ่งแล้วก็ควักเมล็ดออก แล้วหลังจากนั้นนำมาคลุกกับเกลือสมุทรทิ้งไว้สักครู่ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปล้างน้ำออก เกลือก็จะช่วยให้ดูดความขมออกไปได้
|