|
หัวข้อ: จักรเย็บผ้า กับความรู้ดี ๆ ที่แม่เหย้าแม่เรือนต้องใส่ใจ เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ มีนาคม 23, 2019, 10:28:23 pm คงจะมีแม่ศรีเรือนหลาย ๆ คนที่ชอบแก้เสื้อผ้าหรือเย็บปักถักร้อย ซึ่งเครื่องมือสำคัญคงหลีกหนีไม่พ้นจักรเย็บผ้านั่นเอง ซึ่งใครต้องประสงค์จะได้เครื่องเย็บผ้าสักเครื่องและไม่มีข้อมูลมาก่อนคงฉงนสนเท่ห์น่าดูเลยเชียว กระผมเลยเก็บข้อมูลและความรู้มาให้ใครๆเห็นประจักษ์กัน
ในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตได้มีการออกแบบเครื่องเย็บผ้าออกมาต่างๆนาๆรูปแบบ โดยออกแบบให้มีตามสมัยเพิ่มขึ้น ใช้งานคล่องเพิ่มขึ้น รวมไปถึงยังดีไซน์ให้สามารถใช้งานได้นานาประการ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกคัดซื้อเครื่องเย็บผ้าได้ตามจุดหมายที่ต้องการใช้งานดังนี้ 1. ทราบจุดประสงค์ที่จะเอาไปใช้ พึงจะตั้งต้นจากการที่มีจุดหมายปลายทางชัดแจ้งแล้วว่าปรารถนาเลือกซื้อจักรเย็บผ้า สำหรับมาใช้งานอย่างไหนดังเช่น ซ่อมแซมเสื้อผ้าทั่วไป โดยขั้นพื้นฐานสำหรับเริ่มหัดหรือพึงปรารถนาแค่เอามาใช้ซ่อม เติมแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์ในยามจำเป็นและซ่อมเป้หรือว่าเครื่องใช้หยุมหยิม สามารถเลือกเป็นเครื่องเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการปะทางตรงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ก็มีทั้งจักรเย็บผ้าไฟฟ้าหรือว่าจักรคอมพิวเตอร์ที่มีสัดส่วนย่อม ปุปะได้พอประมาณและใช้งานสบายกว่าหัวจักรเหล็กที่จะมุ่งเน้นความแข็งแรงทนทานจากการใช้งานอย่างเป็นประจำ อยู่ที่ว่าต้องการปะเป็นงานว่างหรือประสงค์รับงานซ่อมมาปะเสริมด้วยนั่นเอง ทำงานฝีมือ นอกจากจักรเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการปุปะทางตรงอย่างเดียวแล้ว ก็ยังมีรูปแบบที่เสริมฟังก์ชันการซ่อมตะเข็บรูปแบบต่างๆ ประเภทแถวซิกแซก รวมทั้งการปะงานควิ้นล์ และในบางรุ่นอาจจะเพิ่มการปักเข้าด้วย ซึ่งจะเหมาะสำหรับการปุปะเครื่องแต่งตัวทั่วไปพร้อมกับทำงานฝีมืออื่น ๆ เสริมเพิ่มด้วย หากวันใดอยากตัดเย็บขากางเกงก็ทำได้ 2. ตั้งงบและสำรวจหาราคา หลังจากรับรู้เหตุจำเป็นและคัดเลือกรูปแบบจักรที่อยากได้แล้ว ต่อจากนั้นก็จำเป็นต้องตั้งงบประมาณและสำรวจราคากัน โดยจักรที่ไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ก็อาจจะเริ่มต้นที่ 3,000-4,000 บาท แต่กระนั้นถ้าหากเป็นเครื่องเย็บผ้าที่เก่งปุปะได้หลายรูปแบบหรือจักรปักก็อาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่น 3. ดูสินค้าของจริง ก่อนที่จะซื้อผู้ชื้อควรจะได้ดูสินค้าจริงๆ มากกว่าการดูผ่านแค่รูปถ่ายอย่างเดียว ควรเดินทางไปดูผลิตภัณฑ์จริงที่ร้านขายจริงๆโดยตรง บางร้านรวงอาจจะมีการแสดงการใช้งานจักรเย็บผ้ารุ่นต่างๆ ให้ได้ชม รวมทั้งผู้ซื้อยังสามารถสอบถามสิ่งที่ต้องการทราบจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย 4. เทียบจุดดีจุดบกพร่องของแต่ละรุ่น ภายหลังที่ได้ดูสินค้าของจริงแล้ว ควรจะมีการนำข้อมูลที่ได้มาทำการเทียบเคียงรุ่นของจักรว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันยังไง อาทิความสามารถ ขั้นตอนใช้งาน รวมไปถึงมูลค่าเครื่องเย็บผ้าแต่ละรุ่นด้วย 5. ตรวจสอบบริการหลังการขาย บริการหลังการขายเป็นอีกสาระสำคัญในการเลือกซื้อจักร เพราะฉะนั้นถ้าร้านค้าจักรเย็บผ้าที่ให้บริการมีการบริการเสริมนอกเหนือจากการจำหน่าย จักรเย็บผ้า ไม่ว่าจะเป็น การบริการซ่อมบำรุง การบริการยักย้าย การบริการติดตั้ง จักทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการใช้งานจักรเย็บผ้าและขนส่งมากเพิ่มขึ้นรวมไปถึงลูกค้าสมควรคัดร้านทำการค้าจักรเย็บผ้าที่มีชิ้นส่วนจักรเย็บผ้าให้บริการครั้นเมื่อเสื่อมสภาพ ครั้นเมื่อได้จักรเย็บผ้ามาแล้วการทะนุบำรุงจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติตามมาดังต่อไปนี้
โดยสำรวจดูความเป็นระเบียบทั่วไป อย่างเช่น ความผิดปกติที่โซนตัวเครื่องจักรเย็บผ้าและมอเตอร์ ล้างที่บริเวณเท้าทับผ้า แท่นฟันจักร เข็มจักรเย็บผ้าและโดยรอบ ตัวเรือนกระสวย และภายหลังหยุดใช้เครื่องเย็บผ้าแล้ว ให้เอาเศษผ้า มาแผ่ไว้ที่ใต้เท้าทับผ้าเป็นประจำ 2. การถนอมประจำสัปดาห์ โดยตรวจตรวจสอบดูระดับน้ำมัน ให้อยู่ในระดับที่แน่นอน คือ ระดับ High กับ Low หากน้ำมันสกปรกมาก ต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันจักร โดยใส่น้ำมันอีกครั้ง ให้ได้ตำแหน่งตามเกณฑ์มาตรฐาน และต้องวิเคราะห์ความตึงของสายพานจักร โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ รวมถึงหยอดน้ำมันหล่อลื่น ตรงจุดรอยต่อหรือตรงส่วนประกอบที่เกิดการเสียดสี แต่ห้ามหยอดน้ำมันมากเกินไป ก็เพราะว่าจะเป็นเหตุให้น้ำมันไหลออกมาข้างนอกจนเปรอะเปื้อน หัตถศิลป์นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ทักษะผู้ทำ อย่างไรก็ตามเครื่องมืออย่างเครื่องเย็บผ้าที่ดีมีคุณภาพก็เป็นตัวช่วยสำคัญให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากเพิ่มขึ้น ซึ่งจากที่เราย่อความถึงข้อมูลก่อนการเลือกซื้อและการทำนุบำรุงเครื่องเย็บผ้าไปแล้วนั้น หวังว่าจะเป็นแผนการที่ดีให้ผู้สนใจทุกคนนะครับผม คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี Tags : จักรเย็บผ้า,จักรเย็บผ้า ราคา,จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี
|