หัวข้อ: พลู เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์ที่น่าทึ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Treekaesorn ที่ มีนาคม 25, 2019, 07:58:39 pm (https://sv1.picz.in.th/images/2019/01/08/9CZJi9.png)[/b]
พลู ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper betle Linn. ชื่อตระกูล : Piperaceae ชื่อสามัญ : Betel Piper ชื่อท้องถิ่น : – พลู – พลูจีน – เปล้าอ้วน ซีเก๊าะ (ใต้) – ซีเก๊ะ – ซีเก – เปล้ายวน – ปู – ดื่อเจี่ย พลู (Betel Piper) เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณกาลที่รู้จักกันในคำบอกเล่า กับหมาก ที่นิยมใช้ส่วนใบที่มีรสเผ็ดร้อนมาบดกับปูนขาวหรือปูนแดง ร่วมกับหมาก และก็ใบยาสูบ สำหรับรักษาฟัน แล้วก็บำรุงเหงือก จึงมักพบว่า คนเคี้ยวหมากมักมีฟันแข็งแรง แม้อายุถึงวัยแก่ มีถิ่นเกิดในประเทศอินเดีย มีหลากหลายประเภท คือ จีน เหลือง เขียว และทองหลาง สำหรับเมืองไทยมีแหล่งปลูกที่ปลูกมากในแถบจังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสาน มักปลูกเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น แล้วก็ปลูกเพื่อการค้า รวมทั้งส่งออกต่างถิ่นในบางส่วน (ส่งไปยังประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ประเทศปากีสถาน รวมทั้งกรุ๊ปประเทศตะวันออกกึ่งกลาง) ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์ รากพลู[/size][/b] รากใต้ดินของ เป็นระบบรากฝอย (ต้นจากการปักชำ) โดยประกอบด้วยราก 2 ประเภท คือ รากหาอาหาร รวมทั้งรากยึดเกาะ โดยรากยึดเกาะบางครั้งเรียกว่า รากตุ๊กแก แตกออกตามข้อของลำต้นเพื่อยึดเกาะวัสดุสำหรับช่วยประคองลำต้นเลื้อยขึ้นที่สูงได้ รวมทั้งทำให้ลำต้นไม่หลุดหล่นลงสู่พื้นได้ง่าย ส่วนรากใต้ดินมีรากขนาดใหญ่ และรากแขนงที่แตกออกเป็นวงกว้างตามขนาดทรงพุ่มไม้ ลำต้น พลูเป็นไม้เลื้อย ลำต้นเป็นข้อ แล้วก็มีข้อ ขนาดลำต้น 2.5-5 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ รวมทั้งมีร่องเล็กๆสีน้ำตาลอมแดงตามแนวยาวของลำต้น สันร่องมีสีเขียว โดยลำต้นส่วนปลายจะมีสีเขียว ส่วนลำต้นส่วนต้นจะมีสีเขียวอมเทา ใบ เป็นใบผู้เดียว ออกเรียงสลับ ใบมีรูปไข่หรือรูปวงกลมปนรูปไข่ ใบกว้าง 4-10 ซม. ยาว 5-18 เซนติเมตร ผิวใบเรียบ ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มมากยิ่งกว่าข้างล่าง ใบเป็นร่องยุบด้านใบ มีเส้นใบโดยประมาณ 5-7 เส้น โคนใบมีลักษณะกลมเบี้ยวหรือมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม มีเส้นใบนูนเด่น ใบอ่อนมีสีเหลืองอ่อน รวมทั้งเบาๆกลายเป็นสีเขียวอ่อน และก็สีเขียวเข้ม เมื่อแก่เต็มกำลังจะมีสีเหลือง เนื้อใบออกจะครึ้ม เป็นเงา และก็มีกลิ่นฉุน ใบข้างล่างมักมีขนาดใหญ่กว่าใบข้างบน ดอก มีสีขาว ออกรวมกันเป็นช่อ มีช่อดอกแบ่งเพศกันอยู่คนละต้น ประกอบด้วยช่อดอกตัวเมีย และดอกตัวผู้ มีใบแต่งแต้มดอกขนาดเล็กรูปวงกลม ช่อดอกเพศผู้ยาว 2-12 ซม. ก้านช่อดอกยาว 1.5-3 ซม. ประกอบด้วยเกสรตัวผู้ 2 อัน มีขนาดสั้นมากมาย ส่วนช่อดอกตัวเมียมีความยาวพอๆกับช่อดอกเพศผู้ แต่มีก้านช่อดอกยาวกว่า ดอกมักบานไม่พร้อม จึงทำให้ไม่ค่อยพบเจอผลของ เพราะได้โอกาสผสมเกสรน้อย ผล และก็เมล็ด ผลของมีลักษณะอัดแน่นที่เกิดขึ้นจากดอกในช่อดอก ผลของมีลักษณะค่อนข้างจะนุ่ม ด้านในประกอบด้วย 1 เม็ด เม็ดมีลักษณะกลม ขนาดยาวประมาณ 2.25-2.6 มิลลิเมตร กว้างโดยประมาณ 2 มม. (https://sv1.picz.in.th/images/2019/01/08/9CZLCJ.png)[/b] ประโยชน์ซึ่งมาจากพลู และก็ใบพลู – ใช้กินกับหมาก และก็ปูนแดง สำหรับเคี้ยวให้ฟันแข็งแรง – น้ำมันหอมระเหยจากใบ ใช้สำหรับปรับอากาศ ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นคาว กลิ่นเหม็นอับ – ใช้เป็นสารสกัดสมุนไพรสำหรับกำจัด แล้วก็ปกป้องแมลงศัตรูพืช พลูกับหมาก สารสำคัญที่พบ – Fluoride – tectrochrysin – adunctin A – yangonin – fargesin – pluviatilol – sesamin น้ำมันหอมระเหย/น้ำมัน – eugenol – chavicol – chavibitol – β-situsterol – P-cymene – cincole – eugenol methyl ether – caryophyllene – cadinene สรรพคุณของพลู – แก้วิงเวียนหัว – แก้เจ็บคอ แล้วก็ช่วยขับเสลด – แก้โรคหอบหืด และโรคหลอดลมอักเสบ – แก้อาการท้องเสีย – ช่วยลดไข้ – ช่วยรักษาโรคริดสีดวง ลำต้น – ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ใบ – ช่วยกระตุ้นน้ำลาย – ช่วยแก้ไอ – ช่วยขับเสมหะ – ช่วยขับเหงื่อ – ถนอมอาหารเจ็บท้อง – แก้เลือดกำเดา – แก้ผื่นคัน และก็อาการผื่นคัน – ฆ่าพยาธิ – รักษาแผล แล้วก็ฆ่าเชื้อโรค – ลดอาการอักเสบ อาหารบวมซ้ำ – ช่วยสร้างเสริม และก็รักษาฟันให้แข็งแรง เพราะมีสารฟลูออไรด์สูง ดอกพลู – ใช้บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ – ช่วยเจริญอาหาร ฤทธิ์ทางการปรุงยาของใบพลู
สารสกัดจากใบมีผลต้านการแบ่งเซลล์ที่ปลายรากหอม ทำให้โคโมโซมแตกต่างจากปกติ นิวเคลียสมีขนาดใหญ่ขึ้น และไม่มีการเปลี่ยนของไซโตพลาสซึม
สมุนไพรผสมระหว่าง ผงสกัดแห้งของพลู [/i]4.5 กรัม, ผงสกัดแห้งของ Embelia ribes Piper longum และก็Abrus precatorrius, borax 11.25 กรัม Asefoetida 4.05 กรัม และน้ำมัน Polianthes tuberosa 2,025 ซีซี เมื่อรับประทาน ครั้งละ 1 ส่วน ในปริมาณทั้งปวง 40 ส่วน วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 20 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ของการมีประจำเดือน และไม่การเพศสัมจำพวก พบว่า ยาสมุนไพรผสมออกฤทธิ์การคุมกำเนิดได้นาน 4 เดือน แต่ว่ายังไม่เป็นที่กระจ่างว่าฤทธิ์การคุมกำเนิดมีเหตุที่เกิดจากผงสกัดแห้งของ
สารสกัดจากใบด้วยน้ำมันปิโตรเลียมอีเทอร์ แล้วก็อัลกอฮอล์ ออกฤทธิ์ยับยั้งการแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของวัณโรค โดยมีขนาดความเข้มข้นต่ำสุดหนออกฤทธิ์ที่ 1:5,000 ส่วนความเข้มข้นต่ำสุดที่ออกฤทธิ์ยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของหนองในที่ 1:600 และเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคกลากที่ 1:400 (ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร, 2523)(3) คุณลักษณะของน้ำมันพลู – มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อโรคการเป็นหนองที่แผลหรือฝี และมีคุณสมบัติลดอาการบวม แล้วก็การอักเสบของแผล – ใช้รักษาอาการอักเสบของเยื่อจมูก รวมทั้งคอ – ยั้งการเติบโตของเชื้อวัณโรค – ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของกลากโรคเกลื้อน รวมทั้งฮ่องกงฟุต – ช่วยลดอาการเกร็งของไส้ ช่วยรักษาอาการปวดท้อง และก็ท้องเดิน – ออกฤทธิ์เป็นยากระตุ้นการทำงานของสมองอ่อนๆทำให้มีความรู้สึกกระชุ่มกระชวย แจ่มใส ฤทธิ์ทางเภสัชกรรมของน้ำมันหอมระเหยจากพลู
สุนัขที่ได้รับน้ำมันหอมระเหยของใบพลูทางเส้นเลือดดำ ขนาด 15 มก. พบว่า ทำให้ความดันโลหิตน้อยลงชั่วเวลาเดียว แล้วก็การให้น้ำมันหอมระเหยใบแก่หมาที่ได้รับการตัดเส้นประสาทเวกัสมาแล้ว ในขนาด 50 มิลลิกรัม พบว่า หมามีความดันเลือดต่ำลงอย่างคงทน เนื่องมาจากสารออกฤทธิ์กดการทำงานของหัวใจ ทำให้อัตราการเต้น แล้วก็แรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจลดน้อยลง
น้ำมันหอมระเหยจากใบ ขนาด 2.5 มิลลิกรัม/ล. มีผลต่อการคลายกล้าม rectus abdo minis ของกบได้
น้ำมันหอมระเหยของใบ ขนาด 12.5 มิลลิกรัม/ลิตร สามารถลดการบีบตัวของลำไส้หนูขาวได้ ส่วนขนาด 100 มิลลิกรัม/ล. สามารถทำให้มดลูกของหนูขาวคลายตัวได้
น้ำมันหอมระเหยของใบ ขนาด 1 กรัม/ลิตร มีผลสามารถฆ่าพยาธิไส้เดือนได้ ลักษณะการใช้ – ใช้ใบ 1-2 ใบ ตำผสมสุราหรือบดอย่างรอบคอบผสมกับน้ำ ใช้ทาบริเวณผื่นคันหรือกำเนิดลมพิษ – ใช้ใบ2-3 ใบ บดอย่างรอบคอบ ใช้ทาบริเวณแมลงกัดต่อย ช่วยลดอาการปวด อาการบวมแดง – ใช้ใบ 2-3 ใบ บดอย่างถี่ถ้วนผสมกับดินสอพอง ใช้ทาบริเวณที่เกิดโรคผิวหนัง ดังเช่นว่า กลาก โรคเกลื้อน – ใช้ใบบดอย่างถี่ถ้วน ใช้ทาบริเวณแผลสด แผลเปื่อยยุ่ย แผลหนอง – ใช้ใบ 1-2 ใบ มามวนเหมือนยาสูบ แล้วขยี้ปลายข้างหนึ่งให้ซ้ำ ก่อนสอดเข้ารูจมูกที่มีเลือดกำเดาออก ทิ้งไว้สักพักเลือดกำเดาก็จะหาย – ใช้ใบ 3-5 ใบ ตำหรือบดให้รอบคอบ และผสมน้ำน้อย กรองมัวแต่น้ำสำหรับดื่มแก้อาการไอ ลักษณะการเจ็บคอ และก็มีเสลด ความเป็นพิษ การทดสอบความเป็นพิษด้วยการให้สารสกัดจากพลูแก่หนูถีบจักร พบว่า ปริมาณที่ทำให้หนูตายตั้งแต่กึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่ 3.22 กรัม/กิโลกรัมหนู ส่วนความเข้มข้นที่ต่ำกว่า 2 กรัม/กก.หนู จะมีผลให้หนูมีลักษณะซึม รวมทั้งหลับ แต่ไม่มีผลต่อการหายใจ รวมทั้งสามารถกลับมาปกติได้ ส่วนความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5 กรัม/กิโลหนู ขึ้นไปหนูจะมีลักษณะอาการซึม รวมทั้งหลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมีลักษณะอ่อนเพลีย มีอาการซึม รวมทั้งตายจากการหายใจไม่ออก (บุปผาวดี, 2540)(1) การปลูก และก็ขยายพันธุ์ พลู[/b][/i]สามารถปลูก รวมทั้งเพาะพันธุ์ใหม่ด้วยการปักชำกิ่ง โดยใช้กิ่งหรือลำต้นที่มีข้อราวๆ 3-5 ข้อ ปักชำในแปลงปักชำหรือถุงปักชำ เมื่อกิ่งปักชำติดแล้วค่อยย้ายลงปลูกลงในแปลงปลูก การเก็บใบ การเก็บใบควรจะเก็บตอนเวลาสาย ด้วยเหตุว่าเป็นตอนที่ใบมีการสังเคราะห์ด้วยแสงสมบูรณ์ โดยเลือกเก็บเฉพาะใบในส่วนล่างถึงตอนกลางของลำต้นที่มีสีเขียวเข้ม ไม่สมควรเก็บใบอ่อนรอบๆยอดหรือเก็บใบแก่ที่เหลืองแล้ว เพราะเหตุว่าใบกลุ่มนี้จะมีสารเคมี หรือน้ำมันหอมระเหยน้อย เอกสารอ้างอิง
Tags : ประโยชน์พลู
|