หัวข้อ: กล้องถ่ายรูป VS กล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าหากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ มีนาคม 30, 2019, 05:37:52 pm ครั้นเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่าจำขึ้นใจจนจำต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นภาพถ่าย และมันจะพิเศษขึ้นอีก ครั้นข้างในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น “กล้องถ่ายภาพ” นั่นเอง โดยในสมัยนี้ ทุกคน ต่างก็มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกล้องพร้อมกันมาด้วย เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่ ยิ่งกว่านั้นยังมีความชัดไม่ได้ต่างไปจากกล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แต่กระนั้นจริงๆ แล้วนั้นมันยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่ต่างกันอยู่เพียบเลยเทียว
อย่างเช่นเรื่องเซนเซอร์ เพราะด้วยกล้องจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะรักษาแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า สำหรับมือถืออาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องเท่าใดนัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังมีผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะเจอ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนเล็กกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป ต่อจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเหนือกว่ากล้องจากโทรศัพท์มือถือ หากเป็นการขยายของกล้องถ่ายรูป คุณสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่แบรนด์มือถือที่จะมีสรรพคุณนี้ เพราะภาพบางภาพ ก็จำเป็นต้องใช้การซูมแบบ Optical เพื่อให้ได้ความเกี่ยวข้องของสิ่งของบนภาพที่ดียิ่ง รวมทั้งหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เนื่องจากว่าในสมาร์ทโฟนของท่านคงมีทั้งรูปภาพ เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาชัวร์ ถ้าเธอคิดว่าจะใช้กล้องสมาร์ทโฟนชักรูปเธอตลอดทริปที่กินซ่าไม่ก็พาคนรักเที่ยว Universal Studios ก็เพราะว่าท่านคงจะมิต้องการมานั่งลบภาพถ่าย ลบบทเพลงโปรด หรือไม่ก็ลิสภาพยนตร์โด่งดังของเจ้าหรอก แต่ถ้าว่ายอมสะพายกล้องถ่ายภาพสักตัว พร้อมกับเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าคุณได้ทั้งรูปที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของคุณแน่นอน นั่นเป็นข้อมูลขั้นต้นว่าเพราะเหตุไรพวกเราถึงต้องยอมสะพายกล้องตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือไว้ก่อน และอาจจะพักยาวๆ เลย ถ้าหากได้รู้จักกับกล้องตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดดี ๆ ของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา มากกว่ากล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเปล่า กล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายภาพเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่พอเหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นเป็นอันดี จุดเด่นของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องมาจากกล้องถ่ายรูป Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดความสะเทือนได้ถึง 4 Stop ซึ่งหากถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ที่แสงน้อย โดยที่เจ้ามิจำเป็นจะต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วยซ้ำ แถมกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของเจ้าไม่เป็นอุปสรรคอีกด้วย โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเทียว ที่ถึงแม้ว่าจะถือด้วยมือ และมิได้มีเครื่องมือเสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาสะดวก ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแบ่งเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย จะเห็นว่านี่แค่ข้อดีเรื่องเดียวของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ก็ชนะกล้องถ่ายภาพมือถือขาดลอยแล้ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์หลากหลาย อีกมากมายเลยที่ยังมิได้พูดถึง อาทิ โหมดถ่ายรูป Auto ที่ให้คุณปรับตั้งค่าตามที่คุณต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเพียบอยู่เหมือนกัน เพื่อให้ภาพมีความน่าสนใจมากเพิ่มขึ้น และจุดเด่นอีกอย่างของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสบายมาก โดยมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำสบประมาทที่ว่า “กล้องมันหนัก” ไปได้เลย คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา
|