ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Boyzite1011 ที่ มีนาคม 31, 2019, 12:19:36 am



หัวข้อ: เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 9 นัดเพียงแค่นั้นสำหรับศึกบุนเดสลีกาฤดูกาล 2018/19
เริ่มหัวข้อโดย: Boyzite1011 ที่ มีนาคม 31, 2019, 12:19:36 am
สถานการณ์ล่าสุดทั้งยัง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมทั้ง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ต่างก็กำลังทำแต้มได้เสมอกันที่ 57 คะแนน แล้วอะไรที่จะเป็นปัจจัยหลักสำหรับเพื่อการชี้ชะตาแชมป์ของทั้งคู่ชมรมยักษ์ใหญ่กันล่ะ?
วันนี้พวกเราจะมาพินิจพิจารณาให้ดูกันว่าจาก 27 คะแนนที่เหลือ กลุ่มไหนกันแน่ที่จะคว้าแต้มซิวถาดแชมป์ Meisterschale ได้มากกว่ากัน เริ่มกันที่ดอร์ทมุนด์ก่อนเลย...
(https://www.tnnthailand.com/uploads/phpP2zPtO.jpeg)

1) ดอร์ทมุนด์มีกัปตันรอยส์
มาร์โค รอยส์ รับหน้าที่สวมปลอกสำหรับใส่แขนกัปตันนำกองทัพเสือเหลืองมาตั้งแต่ต้นฤดูปัจจุบัน ด้วยความมุ่งหวังจะเป็นผู้ชูถาดแชมป์ลีกในปีนี้แล้วก็หยุดสถิติแชมป์ต่อเนื่อง 6 ปีของบาเยิร์นให้ได้ กัปตันรอยส์โชว์ฟอร์มได้เร่าร้อนสุดๆข้างหลังยิงถึง 14 ประตูรวมทั้งทำอีก 6 แอสซิสต์จากการลงเล่น 21 นัด

เล่นเอาโทมัส เดลานีย์ สหายร่วมทีมจะต้องออกมาพูดว่ารอยส์ก็คือเมสซีหรือโรนัลโด้แห่งถ้ำเสือเหลืองดีๆนี่เอง เขาคือนักเตะที่กลุ่มจำเป็น เมื่อนับตามสถิติแล้ว ถ้ากัปตันวัย 29 ปีคนนี้ลงไปในสนาม ดอร์ทมุนด์จะเก็บแต้มเฉลี่ยได้ที่ 2.3 คะแนนและยิงได้เฉลี่ย 2.57 ประตูต่อ 1 เกมบุนเดสลีกา แม้กระนั้นถ้าไร้เงารอยส์ในสนาม สถิติจะตกลงมาอยู่ที่ 2.0 รวมทั้ง1.75 เป็นลำดับ

นับได้ว่ารอยส์คือผู้สร้างความไม่เหมือนอย่างแท้จริงแล้วก็อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำถาดแชมป์กลับมาสู่ถ้ำเสือเหลืองได้อีกทีภายหลังที่เคยทำเป็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012

2) โปรจ่ายวัยชายหนุ่ม
มิได้หมายคือซื้อชำระเงินนะ แต่หมายถึงการผ่านบอลให้เพื่อนฝูงทำประตูหรือทำแอสซิสต์นั่นเอง จาดอน ซานโช ทำแอสซิสต์ในช่วงฤดูกาลนี้ไปแล้วถึง 10 ครั้ง

เป็นสถิติสูงสุดในบุนเดสลีกาและก็ถ้าเกิดนับทั้งยังท็อป 5 ลีกในยุโรปแล้ว มีเพียงแค่ลีโอเนล เมสซีแค่นั้นที่ทำทางให้สหายได้มากกว่าเขา นอกเหนือจากนั้น ซานโชยังยิงไปแล้ว 8 ประตูจากการลงเล่น 25 นัดอีกด้วย

3) ยิงได้จากทุกทิศทุกทาง
หากแม้ดอร์ทมุนด์จะเสียสถิติทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีกไปแล้ว แต่ก็ยังครอบครองสถิติเป็นกลุ่มที่มีผู้เล่นทำประตูได้มากที่สุดคือ 18 คนจาก 22 ขุนศึกที่ลุยศึกในฤดูกาลนี้ มีเพียงแค่ เออเมอร์ โทปรัค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ กับผู้รักษาประตูทั้งคู่คนคือ โรมัน เบือร์กี้ และ มาร์วิน ฮิตซ์ ที่ยังทำคะแนนมิได้

ดอร์ทมุนด์มีเกมรุกที่นานาประการโดยมีผู้ที่ทำประตูตัวหลักของทีมอย่างเช่นสามผสานรอยส์ อัลกาเซร์ (ยิงไปคนละ 14 ประตู) แล้วก็ ซานโช (8 ประตู) ในระหว่างที่บาเยิร์นมีเพียงแค่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้คนเดียวเท่านั้นที่ทำประตูได้มาก

4) ภาพจำของเยือร์เก้น คล็อปป์
สิ่งที่ยังติดตาแฟนๆดอร์ทมุนด์ก็คือฟอร์มการเล่นที่รุนแรงในยุคของคล็อปป์ ซึ่งพาทีมเสือเหลืองคว้าชัยชนะลีกได้สำเร็จในปี 2011 รวมทั้ง 2012 ในตอนนี้ ลูเซียง ฟาฟร์สามารถนำเอาภาพนั้นกลับมาสู่แฟนคลับได้อีกที

ปัจจุบันนี้พวกเขาทำคะแนนได้มากกว่าสมัยคว้าแชมป์ลีกครั้งปัจจุบันอยู่ 1 คะแนน (หลังแมตช์เดย์ที่ 25) และก็วิธีการเล่นสไตล์บุกอย่างดุเดือดก็ดูเหมือนตอนนั้นไม่มีไม่ถูก แถมยังทำประตูรวมไปแล้วถึง 61 ลูก มากยิ่งกว่าในยุคของคล็อปป์ซะด้วยซ้ำ อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือในฤดูกาล2010/11 หลังจากผ่านไป 24 นัดหมาย ดอร์ทมุนด์พ่ายเพียงแต่ 2 นัดหมายพอๆกับในฤดูกาลนี้เลย ภาพจำมันแน่ชัดและก็ฉายแววแชมป์จริงๆ

5) จุดหมายเดียว
ภายหลังจากตกรอบยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก รวมทั้งเดเอฟเบ โพคาล เรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลานี้ดอร์ทมุนด์ก็เหลือแชมป์ลีกให้ลุ้นอยู่เพียงรายการเดียวเท่านั้น ก็เลยเชื่อมั่นได้เลยว่าลูกทีมของฟาฟร์จะทุ่มเทพลังทุกขีดให้กับการแย่งชิงแชมป์บุนเดสลีกาเต็มพิกัดอย่างแน่แท้ ต่างกับบาเยิร์นที่พึ่งจะไม่เข้ารอบจากศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกมาหมาดๆซึ่งนักฟุตบอลกำลังเหนื่อยล้าแล้วก็เสียขวัญกำลังใจไม่หาย แถมยังมีถ้วยเดเอฟเบ โพค้างลให้ไปจุดโฟกัสอีกรายการนึงด้วย

ต่อนี้ไปมาดู 5 ข้อของข้างปกป้องแชมป์กันบ้าง…

1) ความเป็นจริงเป็นจังของสองปีกจรวด

5 เหตุผลที่ “เสือเหลือง” รวมทั้ง “เสือใต้” จะซิวแชมป์ลีกปีนี้ได้
ในช่วงเวลาที่ผู้เล่นดอร์ทมุนด์ในกลุ่มตอนนี้เอาเหรียญแชมป์ลีกมารวมกันได้ 10 เหรียญ แต่ฟรองก์ ริเบรี ปีกจรวดเลือดน้ำหอมเพียงคนเดียวก็มีตั้ง 8 เหรียญเข้าไปแล้ว! และก็เขาตั้งใจจริงอยากสุดๆที่จะคว้าเหรียญที่ 9 ให้กับตัวเองให้ได้เพื่อทำสถิติคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสูงสุดชั่วนิจนิรันดร์แซงหน้าตำนานนักเตะกลุ่มเสือใต้ทั้งยัง 4 คนคือ โอลิเวอร์ ค้างห์น ฟิลิปป์ ลาห์ม บาสเตียน ชเหล้าองุ่นชไตเกอร์ และก็เมห์เม็ต โชลล์

ส่วนทางกราบขวา อาร์เยน ร็อบเบน ก็ไม่น้อยหน้า เขาตั้งใจครอบครองแชมป์ลีกสมัยที่ 8 ให้กับตนเองเช่นกัน

ลองนับเหรียญแชมป์บุนเดสลีกาของนักฟุตบอลบาเยิร์นชุดเดี๋ยวนี้กันเล่นๆดูบ้าง ดาวิด อาลาบา กับ โทมัส มึลเลอร์ ได้คนละ 7 ยุค เชโรม บัวเต็ง คาบี้ มาร์ตำหนิเนซ มานูเอล นอยเออร์ ราฟินญ่า แล้วก็ เลวานดอฟสกี้ คนละ 6 สมัย รวม 9 คนคว้าไปแล้ว59 เหรียญจัดว่าสูงสุดในบรรดาลีกท็อป 5 ของยุโรปเลยทีเดียว..

2) ฟอร์มเข้าที่
ว่ากันว่าการชิงชัยฟุตบอลลีกก็เสมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น ข้างหลังแมตช์เดย์ที่ 15 บาเยิร์นตามหลังดอร์ทมุนด์ถึง 9 แต้ม แม้กระนั้นก็ลดช่องว่างมาที่ 6 แต้มข้างหลังผ่านครึ่งฤดูแรกไป รวมทั้งแล้วบาเยิร์นก็ระเบิดฟอร์มแชมป์เก่าได้สำเร็จ เมื่อทำผลงานยอดเยี่ยมชนะถึง 7 จาก 8 เกมล่าสุด (แพ้นัดเดียว)

ขณะที่ดอร์ทมุนด์เอาชนะได้เพียง 4 นัด (เสมอ 3 แพ้ 1) กระทั่งทำให้พรรคพวกเสือใต้ผงาดกลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูที่มากกว่า 2 ลูก ช่วงนี้คงจะเรียกได้ว่าบาเยิร์นเดินเครื่องสุดกำลังกระทั่งขุนศึกดอร์ทมุนด์เริ่มออกอาการหวาดหวั่นๆแล้วล่ะ

3) ศึกชิงบัลลังก์ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า
90 นาทีแห่งศึก “แดร์ คลาสสิกเคอร์” ในวันที่ 6 เมษายนนี้บางทีอาจเป็นการวินิจฉัยชะตาแชมป์บุนเดสลีกาเลยก็เป็นได้ โดยดอร์ทมุนด์ควรต้องเคลื่อนพลไปเยี่ยมถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า รังเหย้าของบาเยิร์น มิวนิค ในแมตช์เดย์ที่ 28 ถึงแม้ในฤดูกาลนี้ บาเยิร์นจะทำผลงานในบ้านได้ไม่สู้ดีนัก

แต่เชื่อเถอะว่าการเล่นในบ้านเฉพาะหน้าแฟนบอลกว่า 75,000 คนแถมถาดแชมป์บุนเดสลีกาที่พวกเขารู้จักยังอยู่นิดเดียวแล้วล่ะก็... พรรคพวกเสือใต้คงจะเล่นด้วยความดุเดือดกว่าธรรมดาอย่างแน่นอน

ช่วงเวลาเดียวกันดอร์ทมุนด์นั้นมีสถิติไม่ค่อยดีนักสำหรับเพื่อการมาเยือนแว่นแคว้นบาวาเรีย พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับบาเยิร์นใน 4 นัดหมายล่าสุดที่มาเยี่ยมนครมิวนิค เสียถึง 17 ประตู ยิงคืนได้เพียง3 ลูกแค่นั้น ถ้าเกิดไม่นับผลงานในสมัยของคล็อปป์ที่พาเสือเหลืองมาชนะ 3 เสมอ 1 แล้วล่ะก็ ระหว่างปี 1993 ถึง 2010 ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถเอาชนะบาเยิร์นถึงมิวนิคได้เลยในการพบกันทั้งผอง 18 ครั้ง ศึกคราวนี้บางทีอาจเป็นเกมที่น่าจับตาที่สุดในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

4) ตัวแปร X
ตัวแปร X ในที่นี้ก็คือดาวยิงที่ฉลองการยิงประตูด้วยกระบวนการทำเครื่องหมาย X เสมอ “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” หัวหน้าดาวซัลโวสูงสุดคนปัจจุบันนี้คือตัวแปรตัวสำคัญสำหรับเพื่อการคว้าแชมป์ของบาเยิร์น ฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 17 ประตู แล้วก็พึ่งจะทำสถิติเป็นนักเตะฝรั่งที่ทำประตูในบุนเดสลีกาสูงสุดชั่วนิจนิรันดร์ (197 ประตู)

กัปตันทีมชาติประเทศโปแลนด์วัย 30 กะรัตคนนี้คือเครื่องยืนยันการบรรลุผลของบาเยิร์น เขาสามารถทำประตูในบุนเดสลีกาได้ถึง 81 เกมซึ่งช่วยให้บาเยิร์นเอาชนะคู่แข่งขันได้ถึง 75 นัด เสมอ 5 นัดหมายและก็แพ้เพียงนัดหมายเดียว มีอัตรายิง 1 ประตูในทุกๆ128 นาที บอกได้เลยว่าในเกมที่เหลืออีก 9 นัด เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่...

5) นิเก๋ วัววัช
ความมุ่งหวังที่กรุงมิวนิคนั้นยิ่งใหญ่ไม่เบา พวกเขาไม่ได้อยากเป็นลำดับที่สอง “แชมป์เท่านั้น” เป็นจุดหมายของเทรนเนอร์ป้ายแดงที่ถ้ำเสือใต้ แม้จะเริ่มได้อย่างทุลักทุเล

แต่สมัยก่อนเทรนเนอร์ “อินทรีแดง-ดำ” ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ตแล้วก็ทีมชาติโครเอเชียก็เริ่มปรับเท่าเทียมในกลุ่มได้ดิบได้ดีขึ้นเรื่อยเขาใช้มิดฟิลด์ตัวรับสองคนช่วยสกรีนการบุกให้กับเซ็นเตอร์ตัวหลักอย่าง นิคลาส ซือเล่อ กองหลังดาวรุ่งวัยเพียง 23 ปี ยิ่งไปกว่านี้ยังได้ ฮาเมส โรดริเกซที่หายเจ็บกลับมาช่วยในเกมรุกอีกด้วย

สิ่งหนึ่งที่น่าดึงดูดสำหรับบาเยิร์นก็คือ กุญแจสำหรับเพื่อการคว้าชัยชนะของพวกเขาไม่ใช่การถล่มคู่แข่งขันแบบขาดลอยซึ่งมีให้เห็นในหลายๆนัดหมายก่อนหน้านี้ แต่เป็นการเน้นย้ำผลจากการแข่งขันในเกมที่ใกล้เคียงชี้ชะตากันด้วยประตูสำคัญๆ

ซึ่งพวกเขามักเอาชีวิตรอดได้เสมอ ในขณะที่ดอร์ทมุนด์เองกลับพลาดท่าทำสกอร์หล่นไปหลายต่อหลายหน สิ่งนี้เองที่สร้างความต่างให้กับกลุ่มแชมป์และก็รองแชมป์ แล้วก็นี่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการฉลองแชมป์ลีก 7 สมัยติดต่อกันของพรรคพวกบาเยิร์น ณ จตุรัสมาเรียนพลัตซ์ หลังหมดฤดูสุดสนุกในพฤษภาคมนี้ก็เป็นได้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : alexis-brill.com

เครดิตบทความจาก : http://alexis-brill.com

Tags : http://alexis-brill.com
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ