ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: uchaiyawat ที่ เมษายน 04, 2019, 02:16:38 am



หัวข้อ: ประวัติศาสตร์สังคม Rock and Roll ต้อง “Jim Marshall”
เริ่มหัวข้อโดย: uchaiyawat ที่ เมษายน 04, 2019, 02:16:38 am
                ถ้าคุณคือคนที่คลั่งไคล้ในเสียงเพลง หรือเสียงเพลง เชื่อว่าคุณจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชมอย่างมากมาย เช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกนานาประการ ซึ่งเรื่องราวภูมิหลังของแบรนด์นี้ จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประวัติศาสตร์วงการเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยเรื่องราวของ Marshall นั้น จะมีภูมิหลังยังไงบ้าง พร้อมทั้งเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อระดับโลกปานนี้ ดิฉันจะมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือเก่ามาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง แล้วก็ได้เปลี่ยนตนเองมาปฏิบัติงานกิจการร้านรวงขายเครื่องดนตรี พร้อมกับเครื่องไม้เครื่องมือหลากหลาย ซึ่งเริ่มจากการวางขายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนอาณาบริเวณ Hanwell โดยผู้ซื้อจำนวนมากจะเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น อาทิ ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                แล้วก็เริ่มมีนักดนตรีดังๆ หลายท่านต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมกับเสียงดังกว่าแต่ก่อน เนื่องจากปัญหาที่ประสบโดยมากมักจะเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาจำหน่าย และดันประสบผลอย่างหนัก กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาลงมือออกมาค้าขายอย่างเอาจริงเอาจัง และได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดแรกเริ่มของแบรนด์ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ รวมถึงยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงดีเลิศตามที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้ใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงโด่งดัง ระดับประวัติศาสตร์เช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall ฉบับรวบรัดตัดความ แม้กระนั้นเมื่อสมัยได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่เชี่ยวชาญในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งแม่นยำตามความอยาก หรือตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือว่าสามัญชนสามัญให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall ฮิตอย่างท่วมท้นเหมือนกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก ดูดี ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิคอยู่ข้างในตัว การออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดพอดีสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมโดยเร็วด้วย Bluetooth 4.0 อย่างไรก็ตามสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกแยะรายละเอียดของชิ้นส่วนดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกจริงๆ โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่เรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่กระจ่างครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว ยิ่งกว่านั้นยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมทั้ง INPUT2 หรือว่า RCA นอกจากนี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้น้ำเสียงเสมอเหมือนคุณกำลังฟังบทเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท หากเปรียบเทียบน้ำเสียงที่ได้ ถือว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางกระผมได้ยกมาฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่ากระทั่งถึงปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากมากหลายรุ่นที่ไม่ว่ากาลเวลาจะพ้นไปนานเพียงใด ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ