หัวข้อ: วิธีซื้อโปรแกรมบัญชีให้เข้ากับร้านค้าของท่าน เริ่มหัวข้อโดย: lnwneverdie2015 ที่ เมษายน 24, 2019, 05:41:55 am สมัยปัจจุบัน ธุรกิจขนาดย่อม หลายบริษัทต่างสรรหาวิธีที่จะสร้างศักยภาพในธุรกิจและลดต้นทุนให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ เพื่อสามารถแข่งขันและรอดชีวิตในยุคที่การค้าขายซบเซาเช่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้ ซอฟแวร์โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุน แม้กระนั้นซอฟแวร์มีมากมายหลายเจ้า จะเลือกเจ้าไหนจึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอชี้ช่องทางข้อควรตรวจสอบเพื่อเป็นแนวทางให้คุณเลือกโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับบริษัทของคุณ ดังต่อไปนี้ครับ
(http://www.thai-account.com/images/sales.jpg) 1.อุตสาหกรรม บริษัทของคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือธุรกิจให้บริการ ซึ่งแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการทำบัญชีที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้นักพัฒนา softwareจะออกแบบโปรแกรมบัญชีให้ลงตัวกับแต่ละชนิดธุรกิจ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานกับกลุ่มธุรกิจหลายๆ ประเภทเช่นกัน แต่ถ้าคุณอยากได้โปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชั่นเหมาะสมกับบริษัทท่าน หรือมีส่วนปลีกย่อยพิเศษสำหรับกลุ่มธุรกิจบางประเภท เช่น บริษัทปลูกสร้าง โรงงานผลิต และกิจการโลจิสติก ควรจ้างโปรแกรมเมอร์มาดีไซน์โปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับกิจการคุณจะดีกว่า 2.ขนาด ร้านค้า รายละเอียดของการบันทึกบัญชีจะมีความซับซ้อนมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ ธุรกิจ ท่านอาจจะใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ ร้านค้าที่มียอดจำหน่าย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้ากิจการของคุณมีขนาดใหญ่กว่านี้และมีความซับซ้อน โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถรองรับระบบได้ ดังนั้นควร ตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย 3.ความต้องการในการใช้งาน ก่อนการ ซื้อซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรตั้งคำถามว่ามีฟังก์ชั่นหรือโมดูลอะไรที่กิจการคุณต้องการ ควรลิสความต้องการ คุณลักษณะ หรือฟังก์ชั่นการใช้งานออกมาเป็นหัวข้อเสียก่อน บางบริษัทอาจจะต้องการการใช้งานที่ง่ายๆ หน้าต่างโปรแกรมไม่ซับซ้อน ขณะที่กิจการอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการจ่ายเงินออนไลน์ หรือการใช้ credit card หรือมีฟังก์ชั่นบริหารสินค้าคงเหลือ หรือสร้างปรับเปลี่ยนใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร เลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และเหมาะสมกับร้านค้าท่าน อย่าจ่ายเงินให้กับส่วนเสริมที่ไม่จำเป็น 4.การบริการ ในเวลาที่ท่านมีปัญหาใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทตัวแทนสามารถซับพอร์ท แก้ไขได้ได้ดีเพียงใด ติดต่อได้ตลอดเวลาหรือไม่ น่าไว้วางใจหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญตัวแทนพวกนั้น มีผู้ชำนาญการด้านบัญชี คอยให้คำแนะนำคุณหรือไม่ โดยรายละเอียดเหล่านี้สามารถ หาได้ จาก internet หรือซักถามบริษัทที่อยู่อยู่ใกล้ๆ กันดูได้ 5.งบในการซื้อ งบในการซื้อจะเป็นประเด็นประเด็นหลักที่มีผลต่อการ เลือกซื้อโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีแบบเบสิคจะมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีรูปแบบเฉพาะที่ดีไซน์ฟังก์ชันการใช้พิเศษ คุณต้องจ่ายแพงกว่าเสมอ และก่อนจะตกลงใจซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำตารางวิเคราะห์ความคุ้มค่าขั้นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินความจำเป็น หรือไม่คุ้มกับการลงทุน 6.โปรแกรมบัญชีมีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่ จะเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากถ้าท่านได้รับโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะจะสามารถเห็นแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องความสะดวกในการใช้งาน อุปสรรคที่พบ การใช้งานฟังก์ชันระบบต่างๆ ลงตัวหรือไม่ เพราะฉะนั้น ก่อน ตัดสินใจเลือกซื้อซักถามกับบริษัทซอฟแวร์ว่ามีระยะเวลาทดลองฟรีหรือไม่ โดยปรกติจะให้ใช้ฟรี 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว ในที่สุดแล้วควรสอบถามธุรกิจอื่นๆ ที่ท่านรู้จักเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่ที่อยู่ในลิส อย่างน้อย 3 บริษัท ควรซักถามเรื่องปัญหาการใช้งาน พบปัญหาอะไรหรือไม่ อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการบริการซับพอร์ทของตัวแทนจำหน่ายดีหรือไม่ นอกจากนี้หากเป็นไปได้ควรเลือกโปรแกรมบัญชีที่เป็นที่นิยม มีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโปรแกรมที่ดี ไม่มีปัญหามาก ที่มา : https://accountonlineforyou.wordpress.com/2015/07/05/ลองใช้โปรแกรมบัญชีonlineได้/ Tags : โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรี
|