หัวข้อ: เครื่องพิมพ์ 3 มิติ คืออะไร รับชมด้วยกัน เริ่มหัวข้อโดย: ceoseo1 ที่ เมษายน 28, 2019, 03:29:10 am 3D Printer - เทคโนโลยีการผลิตยุค 4.0
เครื่อง 3D Printer เป็นเทคโนโลยีการผลิตซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ผลิตขึ้น ให้แปลงเป็นชิ้นงานจริงที่สามารถจับต้องได้ โดยหลักการของเครื่องเป็นการเติมเนื้อวัสดุ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่อยากได้ ซึ่งไม่เหมือนกับกรรมวิธีการผลิตแบบเริ่มแรกเป็นต้นว่า เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้อวัสดุออก (subtractive) ด้วยเหตุผลดังกล่าวอุปกรณ์ที่ใช้และก็สูญเสียสำหรับเพื่อการผลิตจึงน้อยกว่ามาก รวมถึงการใช้แรงงานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจน้อยกว่ามากมาย ดังนั้นพวกเราก็เลยเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกช่วยเหลือให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติเบื้องต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) เลือกชมผลิตภัณฑ์คลิ๊ก 3D Printer https://www.sync-innovation.com คุณประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer เป็น ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ ส่วนประกอบต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านที่รับผลิต โดยความถนัดที่ควรจะมีเป็นการสร้างหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งเดี๋ยวนี้มีอีกทั้งฟรีและก็เสียตังค์ รวมถึงจุดมุ่งหมายของโปรแกรมที่ต่างกัน อาทิเช่น งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลป์ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing 1. ทุนการผลิตต่ำ รองรับการสร้างงานต้นแบบหรือผลิตจำนวนน้อย ปัจจุบันเครื่อง 3D Printer ราคาแพงถูกลงมาก กระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ ทั้งยังการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนจำหน่ายในไทย ทำให้แนวทางการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ว่าในโรงงานผลิต ซึ่งโดยมากรับเฉพาะการสร้างมากไม่น้อยเลยทีเดียว (Mass production) ถ้าหากเป็นคนทั่วไป หรือยังเป็นแค่งานต้นแบบ (Prototype) อาจไม่สามารถสั่งผลิตได้ นอกเหนือจากตัวเครื่องแล้ว วัสดุในตอนนี้ทั้งยังแบบ Filament หรือ Resin ก็แพงถูกลง แล้วก็ทรัพย์สินที่นานัปการตามความปรารถนา ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทคโนโลยี 3D Printing จึงมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่คนทั่วๆไป กระทั่งไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการวางแบบสินค้า เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเพิ่มเนื้อสิ่งของเข้าไป ฉะนั้นจึงไม่ต้องคิดถึงรายละเอียดที่สลับซับซ้อนข้างในงาน ซึ่งแตกต่างจากการผลิตทั่วไป 3D Printerที่ทำได้เฉพาะผิวด้านนอก หรือต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงสูงถึงจะผลิตได้ ตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน ในตอนที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน เพราะการพิมพ์ 3 มิติ เป็นการสร้างชิ้นงานทีละชิ้น โดยใช้วิธีการเติมเนื้อสิ่งของ ดังนั้นสามารถที่จะผลิตผลงานจำนวนไม่ใช่น้อย ที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาเล็กๆแต่ละชิ้นให้แตกต่างกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว และก็ยังรวมทั้งสีของงาน ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามปรารถนา (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) วิธีการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การผลิตแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการใช้งาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดรวมทั้งรูปร่างที่ปรารถนา ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์รวมทั้งราคาถูกได้ง่ายสุดๆ ตัวอย่างเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD จากนั้นก็เลยเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วๆไปคือนามสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานถัดไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่ผลิตขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องรวมทั้งเทคโนโลยีรองรับ อาทิเช่น เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ประมาณ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรสินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมไปถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวพัน เป็นต้นว่า ความเร็วสำหรับในการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์โดยมากจะเป็นชื่อสกุล .Gcode เสมือนเครื่อง CNC หรือเป็นสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้เป็นนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มต้นการพิมพ์ 4. การตกแต่งชิ้นงานข้างหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการตกแต่งชิ้นงานหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่ต่างกันออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) อุปกรณ์สำหรับเครื่อง 3D Printer อุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีอีกทั้งพลาสติก (Polymer) เรสิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมไปถึงอุปกรณ์ชีวภาพอย่างเนื้อเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่ว่าโดยธรรมดา จะหมายถึงเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนมาก เพราะเหตุว่าเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันสูงที่สุด ขอขอบคุณบทความ บทความเครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|