หัวข้อ: 3D Printer คืออะไร ลองดูข้อมูลสิจ๊ะ เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ เมษายน 28, 2019, 03:35:27 am 3D Printer - เทคโนโลยีการผลิตยุค 4.0
เครื่อง 3D Printer คือเทคโนโลยีการสร้างซึ่งสามารถแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น ให้กลายเป็นงานจริงซึ่งสามารถสัมผัสได้ โดยหลักการของเครื่องคือการเติมเนื้อสิ่งของ (additive) ทีละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่ปรารถนา ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการผลิตแบบเริ่มแรกได้แก่ เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้อสิ่งของออก (subtractive) โดยเหตุนั้นวัสดุที่ใช้รวมทั้งสูญเสียในการผลิตจึงน้อยกว่ามาก รวมไปถึงการใช้งานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับเพื่อการเรียนรู้น้อยกว่ามากมาย โดยเหตุนี้เราจึงมองเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกผลักดันให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติขั้นพื้นฐาน (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) เยี่ยมชมเว็บไซต์และสินค้า เครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com ผลดีที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer คือ ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ องค์ประกอบต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านค้าที่รับผลิต โดยความถนัดที่ต้องมีเป็นการผลิตหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งปัจจุบันมีอีกทั้งฟรีรวมทั้งเสียเงิน รวมทั้งจุดมุ่งหมายของโปรแกรมที่แตกต่าง อย่างเช่น งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลป์ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) ข้อดีของเทคโนโลยี 3D Printing 1. ทุนการผลิตต่ำ รองรับการผลิตงานต้นแบบหรือผลิตจำนวนน้อย ปัจจุบันเครื่อง 3D Printer ราคาแพงถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ ทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนจำหน่ายในไทย ทำให้กรรมวิธีการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ว่าในโรงงานผลิต ซึ่งจำนวนมากรับเฉพาะการสร้างมากมาย (Mass production) แม้เป็นคนทั่วไป หรือยังเป็นแค่งานต้นแบบ (Prototype) คงไม่สามารถที่จะสั่งผลิตได้ นอกจากตัวเครื่องแล้ว วัสดุในตอนนี้ทั้งยังแบบ Filament หรือ Resin ก็มีราคาถูกลง แล้วก็ทรัพย์สินที่หลากหลายตามความอยาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทคโนโลยี 3D Printing ก็เลยมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่คนทั่วๆไป จนไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการวางแบบสินค้า เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเพิ่มเติมเนื้ออุปกรณ์เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ต้องนึกถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนด้านในชิ้นงาน ซึ่งต่างจากการผลิตทั่วๆไป 3D Printerที่ทำได้เฉพาะผิวข้างนอก หรือจำต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงสูงถึงจะผลิตได้ เช่น CNC 5 แกน ในขณะเครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขงาน เพราะเหตุว่าการพิมพ์ 3 มิติ คือการสร้างผลงานครั้งละชิ้น โดยใช้วิธีการเพิ่มเติมเนื้อวัสดุ ด้วยเหตุผลดังกล่าวสามารถที่จะผลิตงานจำนวนไม่ใช่น้อย ที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาเล็กๆแต่ละชิ้นให้แตกต่างกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว และก็ยังรวมทั้งสีของชิ้นงาน ที่เปลี่ยนแปลงได้ตามปรารถนา (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) ขั้นตอนการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการใช้แรงงาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบผลงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและรูปร่างที่อยากได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์และราคาถูกได้ง่ายมาก อย่างเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD ต่อไปจึงเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วไปเป็นสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานต่อไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องรวมทั้งเทคโนโลยีรองรับ ดังเช่นว่า เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่โดยประมาณ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรซินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมไปถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง ดังเช่นว่า ความเร็วสำหรับในการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ส่วนใหญ่จะเป็นนามสกุล .Gcode ราวกับเครื่อง CNC หรือเป็นสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้เป็นนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มการพิมพ์ 4. การตกแต่งผลงานหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายคือการตกแต่งงานหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำผลงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่ต่างกันออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) สิ่งของสำหรับเครื่อง 3D Printer อุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีอีกทั้งพลาสติก (Polymer) เรสิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมไปถึงอุปกรณ์ชีวภาพอย่างเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่ว่าโดยปกติ จะคือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนใหญ่ เพราะเหตุว่าเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันสูงที่สุด Source: บทความเครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|