หัวข้อ: 3D Printer คืออะไร รับชมด้วยกัน เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 06, 2019, 07:36:43 pm 3D Printer - เทคโนโลยีการผลิตสมัย 4.0
เครื่อง 3D Printer คือเทคโนโลยีการสร้างที่สามารถแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น ให้กลายเป็นชิ้นงานจริงที่สามารถสัมผัสได้ โดยหลักการของเครื่องคือการเติมเนื้อสิ่งของ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่ปรารถนา ซึ่งต่างจากกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้อสิ่งของออก (subtractive) เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ที่ใช้และสูญเสียสำหรับการผลิตก็เลยน้อยกว่ามาก รวมไปถึงการใช้แรงงานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับในการเรียนรู้น้อยกว่ามาก ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราก็เลยเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกสนับสนุนให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติพื้นฐาน (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) เยี่ยมชมเว็บไซต์และสินค้า เครื่องพิมพ์ 3 มิติ https://www.sync-innovation.com คุณประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer เป็น ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์สิ่งของ อะไหล่ ส่วนประกอบต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านที่รับผลิต โดยทักษะที่ต้องมีคือการสร้างหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งปัจจุบันมีทั้งฟรีรวมทั้งเสียเงิน รวมถึงจุดมุ่งหมายของโปรแกรมที่ต่างกัน ได้แก่ งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลปะ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D ฯลฯ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing 1. เงินลงทุนการสร้างต่ำ รองรับการผลิตงานต้นแบบหรือผลิตปริมาณน้อย เดี๋ยวนี้เครื่อง 3D Printer มีราคาถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ อีกทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนขายในไทย ทำให้กระบวนการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ในโรงงานผลิต ซึ่งส่วนมากรับเฉพาะการผลิตมากมาย (Mass production) ถ้าเป็นคนสามัญ หรือยังเป็นเพียงแค่งานต้นแบบ (Prototype) อาจจะไม่สามารถสั่งผลิตได้ เว้นแต่ตัวเครื่องแล้ว สิ่งของในตอนนี้อีกทั้งแบบ Filament หรือ Resin ก็แพงถูกลง แล้วก็โภคทรัพย์ที่หลากหลายตามความอยากได้ โดยเหตุนั้นเทคโนโลยี 3D Printing จึงมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่บุคคลทั่วไป กระทั่งไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการดีไซน์สินค้า เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเติมเนื้ออุปกรณ์เข้าไป โดยเหตุนี้จึงไม่ต้องนึกถึงเนื้อหาที่สลับซับซ้อนภายในชิ้นงาน ซึ่งต่างจากการผลิตทั่วไป 3D Printerที่ทำได้เฉพาะผิวข้างนอก หรือจำต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงมากถึงจะผลิตได้ ยกตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน ขณะที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การปรับปรุงและทำการแก้ไขงาน เหตุเพราะการพิมพ์ 3 มิติ เป็นการผลิตงานครั้งละชิ้น โดยใช้แนวทางเติมเนื้อสิ่งของ โดยเหตุนี้สามารถที่จะผลิตงานเยอะมากๆ ที่ดัดแปลงแก้ไขเนื้อหาเล็กๆแต่ละชิ้นให้ไม่เหมือนกันโดยที่เงินลงทุนไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว หรือแม้กระทั่งสีของชิ้นงาน ที่เปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) แนวทางการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การผลิตแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มของการใช้แรงงาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD เขียนแบบงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและก็รูปร่างที่อยากได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์รวมทั้งราคาไม่แพงได้ง่ายสุดๆ อย่างเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD หลังจากนั้นจึงเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วๆไปเป็นนามสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานถัดไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องและเทคโนโลยีรองรับ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ประมาณ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรสินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง อย่างเช่น ความเร็วในการพิมพ์ อุณหภูมิ การสร้าง support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์โดยมากจะเป็นชื่อสกุล .Gcode เสมือนเครื่อง CNC หรือเป็นสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้เป็นนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มต้นการพิมพ์ 4. การตกแต่งงานข้างหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการตกแต่งผลงานข้างหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) วัสดุสำหรับเครื่อง 3D Printer วัสดุที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีทั้งพลาสติก (Polymer) เรซิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมไปถึงสิ่งของชีวภาพอย่างเนื้อเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่ว่าโดยปกติ จะซึ่งก็คือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนมาก เหตุเพราะเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันเยอะที่สุด ขอบคุณสำหรับที่มา บทความเครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|