หัวข้อ: เครื่องพิมพ์ 3 มิติ คืออะไร รับชมด้วยกัน เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 11, 2019, 12:06:11 am 3D Printer - เทคโนโลยีการผลิตสมัย 4.0
เครื่อง 3D Printer คือเทคโนโลยีการสร้างซึ่งสามารถแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น ให้แปลงเป็นผลงานจริงซึ่งสามารถสัมผัสได้ โดยหลักการของเครื่องเป็นการเติมเนื้ออุปกรณ์ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่อยาก ซึ่งไม่เหมือนกับแนวทางการผลิตแบบเริ่มแรกดังเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้ออุปกรณ์ออก (subtractive) ด้วยเหตุนั้นวัสดุที่ใช้แล้วก็สูญเสียสำหรับการผลิตก็เลยน้อยกว่ามาก รวมไปถึงการใช้งานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับเพื่อการเรียนรู้น้อยกว่ามาก ด้วยเหตุดังกล่าวเราก็เลยมองเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกสนับสนุนให้มีการใช้ตั้งแต่การศึกษาเล่าเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติพื้นฐาน (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) เลือกชมผลิตภัณฑ์คลิ๊ก เครื่องพิมพ์ 3 มิติ https://www.sync-innovation.com คุณประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer คือ ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านที่รับผลิต โดยทักษะที่ควรมีคือการสร้างหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งปัจจุบันมีอีกทั้งฟรีและก็เสียเงิน รวมทั้งเป้าหมายของโปรแกรมที่แตกต่างกัน เช่น งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลปะ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing 1. ทุนการสร้างต่ำ รองรับการสร้างงานต้นแบบหรือผลิตจำนวนน้อย ตอนนี้เครื่อง 3D Printer แพงถูกลงมาก จนถึงคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ ทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนขายในไทย ทำให้กระบวนการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ว่าในโรงงานผลิต ซึ่งส่วนใหญ่รับเฉพาะการผลิตเป็นจำนวนมาก (Mass production) ถ้าหากเป็นคนสามัญ หรือยังเป็นเพียงแค่งานต้นแบบ (Prototype) อาจไม่อาจจะสั่งผลิตได้ เว้นเสียแต่ตัวเครื่องแล้ว วัสดุในตอนนี้ทั้งแบบ Filament หรือ Resin ก็มีราคาถูกลง และโภคทรัพย์ที่มากมายตามสิ่งที่จำเป็น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทคโนโลยี 3D Printing ก็เลยมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่บุคคลทั่วไป จนกระทั่งไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเติมเนื้อสิ่งของเข้าไป โดยเหตุนี้ก็เลยไม่ต้องคิดถึงเนื้อหาที่สลับซับซ้อนข้างในชิ้นงาน ซึ่งไม่เหมือนกับการสร้างทั่วๆไป 3D Printerที่ทำเป็นเฉพาะผิวข้างนอก หรือจะต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาแพงมากถึงจะผลิตได้ ยกตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน ตอนที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงผลงาน เพราะว่าการพิมพ์ 3 มิติ เป็นการสร้างชิ้นงานทีละชิ้น โดยใช้แนวทางเพิ่มเนื้อวัสดุ ด้วยเหตุผลดังกล่าวสามารถที่จะผลิตชิ้นงานไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาเล็กๆแต่ละชิ้นให้ไม่เหมือนกันโดยที่ทุนไม่เปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่น ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว หรือแม้กระทั่งสีของผลงาน ที่เปลี่ยนแปลงได้ตามอยากได้ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) ขั้นตอนการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การผลิตแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มของการใช้แรงงาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบชิ้นงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและรูปร่างที่ต้องการ ซึ่งตอนนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์แล้วก็ราคาไม่แพงได้ง่ายมาก ดังเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD จากนั้นก็เลยเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วไปคือสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานถัดไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องแล้วก็เทคโนโลยีรองรับ ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ราวๆ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรซินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมไปถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น ความเร็วสำหรับการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ส่วนมากจะเป็นสกุล .Gcode ราวกับเครื่อง CNC หรือเป็นนามสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้คือนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มการพิมพ์ 4. การตกแต่งชิ้นงานหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายคือการตกแต่งงานหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำชิ้นงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) วัสดุสำหรับเครื่อง 3D Printer สิ่งของที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีอีกทั้งพลาสติก (Polymer) เรสิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมถึงสิ่งของชีวภาพอย่างเนื้อเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่โดยปกติ จะหมายคือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันมากที่สุด Source: บทความเครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|