ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 14, 2019, 02:29:00 am



หัวข้อ: 3D Printer คืออะไร รับชมด้วยกัน
เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 14, 2019, 02:29:00 am
3D Printer - เทคโนโลยีการสร้างยุค 4.0​
     เครื่อง 3D Printer เป็นเทคโนโลยีการผลิตซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น ให้เปลี่ยนเป็นงานจริงที่สามารถสัมผัสได้ โดยหลักการของเครื่องคือการเติมเนื้อวัสดุ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่อยากได้ ซึ่งต่างจากกรรมวิธีการผลิตแบบเริ่มแรกตัวอย่างเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้ออุปกรณ์ออก (subtractive) ฉะนั้นสิ่งของที่ใช้และสูญเสียสำหรับการผลิตก็เลยน้อยกว่ามาก รวมถึงการใช้แรงงานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจน้อยกว่ามากมาย เพราะฉะนั้นเราจึงมองเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกส่งเสริมให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนรู้เครื่องพิมพ์ 3 มิติขั้นต้น

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png)
 
เลือกชมสินค้าคลิ๊ก 3D Printer https://www.sync-innovation.com

ผลดีที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer คือ ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ ส่วนประกอบต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านที่รับผลิต โดยความสามารถที่ควรจะมีเป็นการสร้างหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งเดี๋ยวนี้มีทั้งฟรีและเสียตังค์ รวมทั้งจุดหมายของโปรแกรมที่แตกต่าง ดังเช่น งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลป์ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg)

จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing

     1. เงินลงทุนการผลิตต่ำ รองรับการผลิตงานต้นแบบหรือผลิตจำนวนน้อย
ปัจจุบันเครื่อง 3D Printer แพงถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ อีกทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนขายในไทย ทำให้กระบวนการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แม้กระนั้นในโรงงานผลิต ซึ่งส่วนใหญ่รับเฉพาะการสร้างจำนวนหลายชิ้น (Mass production) ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป หรือยังเป็นเพียงแค่งานต้นแบบ (Prototype) คงจะไม่สามารถสั่งผลิตได้ นอกเหนือจากตัวเครื่องแล้ว วัสดุในปัจจุบันทั้งแบบ Filament หรือ Resin ก็ราคาแพงถูกลง และทรัพย์สมบัติที่มากมายตามความอยากได้ โดยเหตุนี้เทคโนโลยี 3D Printing ก็เลยมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่บุคคลทั่วไป กระทั่งไปถึงโรงงานขนาดใหญ่

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg)

     2. อิสระด้านการออกแบบสินค้า​
เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเติมเนื้ออุปกรณ์เข้าไป โดยเหตุนี้จึงไม่ต้องคำนึงถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนด้านในผลงาน ซึ่งแตกต่างจากการสร้างทั่วๆไป 3D Printerที่ทำได้เฉพาะผิวภายนอก หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงมากถึงจะผลิตได้ ตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน เวลาที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg)
     3. การปรับปรุงและทำการแก้ไขผลงาน​
เพราะการพิมพ์ 3 มิติ คือการผลิตผลงานครั้งละชิ้น โดยใช้วิธีการเพิ่มเติมเนื้ออุปกรณ์ ด้วยเหตุนั้นสามารถที่จะผลิตชิ้นงานจำนวนหลายชิ้น ที่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆแต่ละชิ้นให้ไม่เหมือนกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง อาทิเช่น ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว หรือแม้กระทั่งสีของงาน ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามอยาก

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg)

แนวทางการทำงานของเครื่อง 3D Printer

     1. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling)​
เป็นขั้นตอนเริ่มของการใช้งาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบชิ้นงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและก็รูปร่างที่ปรารถนา ซึ่งปัจจุบันสามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์แล้วก็ราคาถูกได้ง่ายดาย ดังเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD หลังจากนั้นจึงเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วๆไปเป็นนามสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานต่อไป

     2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing)
ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องแล้วก็เทคโนโลยีรองรับ อาทิเช่น เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่โดยประมาณ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรสินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมไปถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น ความเร็วสำหรับเพื่อการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์จำนวนมากจะเป็นสกุล .Gcode ราวกับเครื่อง CNC หรือเป็นชื่อสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง

     3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing)
ขั้นตอนนี้คือนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มการพิมพ์

     4. การตกแต่งงานข้างหลังการพิมพ์ (Post processing)
ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการตกแต่งผลงานหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำชิ้นงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่ไม่เหมือนกันออกไป

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg)

     อุปกรณ์สำหรับเครื่อง 3D Printer
วัสดุที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีทั้งยังพลาสติก (Polymer) เรซิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมถึงอุปกรณ์ชีวภาพอย่างเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่โดยปกติ จะเป็นเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากว่าเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันเยอะที่สุด
 
ขอขอบคุณบทความ บทความเครื่องพิมพ์ 3 มิติ https://www.sync-innovation.com

Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ