ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 10:57:25 pm



หัวข้อ: 3D Printer คืออะไร ไปรับชมกัน
เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 10:57:25 pm
3D Printer - เทคโนโลยีการสร้างยุค 4.0​
     เครื่อง 3D Printer เป็นเทคโนโลยีการผลิตซึ่งสามารถเปลี่ยนข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น ให้เปลี่ยนเป็นผลงานจริงซึ่งสามารถสัมผัสได้ โดยหลักการของเครื่องคือการเติมเนื้ออุปกรณ์ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่ต้องการ ซึ่งไม่เหมือนกับกระบวนการผลิตแบบเริ่มแรกยกตัวอย่างเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้ออุปกรณ์ออก (subtractive) เพราะฉะนั้นสิ่งของที่ใช้และก็สูญเสียสำหรับเพื่อการผลิตก็เลยน้อยกว่ามาก รวมถึงการใช้แรงงานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้น้อยกว่ามากมาย โดยเหตุนั้นพวกเราก็เลยเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกสนับสนุนให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนรู้เครื่องพิมพ์ 3 มิติขั้นต้น

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png)
 
ดูรายละเอียดสินค้า เครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com

ผลดีที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer เป็น ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านค้าที่รับผลิต โดยความถนัดที่ต้องมีเป็นการสร้างหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งเดี๋ยวนี้มีอีกทั้งฟรีและเสียเงิน รวมถึงเป้าหมายของโปรแกรมที่ต่างกัน อาทิเช่น งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลปะ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg)

ข้อดีของเทคโนโลยี 3D Printing

     1. ต้นทุนการสร้างต่ำ รองรับการสร้างงานต้นแบบหรือผลิตปริมาณน้อย
เดี๋ยวนี้เครื่อง 3D Printer ราคาแพงถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ ทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนขายในไทย ทำให้แนวทางการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ว่าในโรงงานผลิต ซึ่งโดยมากรับเฉพาะการสร้างจำนวนมาก (Mass production) ถ้าเป็นคนทั่วไป หรือยังเป็นแค่งานต้นแบบ (Prototype) คงจะไม่สามารถสั่งผลิตได้ เว้นแต่ตัวเครื่องแล้ว สิ่งของในขณะนี้ทั้งแบบ Filament หรือ Resin ก็มีราคาถูกลง รวมทั้งทรัพย์สินที่นานาประการตามสิ่งที่ต้องการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทคโนโลยี 3D Printing จึงมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่คนทั่วๆไป จนถึงไปถึงโรงงานขนาดใหญ่

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg)

     2. อิสระด้านการดีไซน์สินค้า​
เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเพิ่มเนื้อวัสดุเข้าไป โดยเหตุนั้นก็เลยไม่ต้องคิดถึงเนื้อหาที่ซับซ้อนด้านในชิ้นงาน ซึ่งต่างจากการสร้างทั่วไป 3D Printerที่ทำเป็นเฉพาะผิวด้านนอก หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงมากถึงจะผลิตได้ อย่างเช่น CNC 5 แกน เวลาที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่กล่าวถึงแล้ว

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg)
     3. การดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน​
เพราะว่าการพิมพ์ 3 มิติ เป็นการสร้างชิ้นงานครั้งละชิ้น โดยใช้วิธีการเพิ่มเติมเนื้อสิ่งของ โดยเหตุนี้สามารถที่จะผลิตชิ้นงานไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ดัดแปลงแก้ไขรายละเอียดเล็กๆแต่ละชิ้นให้ไม่เหมือนกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง เป็นต้นว่า ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว และก็ยังรวมทั้งสีของผลงาน ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg)

กระบวนการทำงานของเครื่อง 3D Printer

     1. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling)​
เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการใช้งาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD เขียนแบบชิ้นงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและก็รูปร่างที่อยาก ซึ่งตอนนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์และราคาไม่แพงได้ง่ายมาก ได้แก่ Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD หลังจากนั้นก็เลยเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วๆไปเป็นชื่อสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานต่อไป

     2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing)
ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่ผลิตขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องและเทคโนโลยีรองรับ ได้แก่ เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ราว 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรซินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมถึงกำหนดค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยว ได้แก่ ความเร็วสำหรับเพื่อการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อสกุล .Gcode เหมือนเครื่อง CNC หรือเป็นชื่อสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง

     3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing)
ขั้นตอนนี้เป็นนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มต้นการพิมพ์

     4. การตกแต่งชิ้นงานหลังการพิมพ์ (Post processing)
ขั้นตอนสุดท้ายคือการตกแต่งชิ้นงานหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำผลงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป

(https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg)

     สิ่งของสำหรับเครื่อง 3D Printer
สิ่งของที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีอีกทั้งพลาสติก (Polymer) เรซิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมไปถึงวัสดุชีวภาพอย่างเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่โดยธรรมดา จะหมายคือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนมาก เพราะเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันสูงที่สุด
 
เครดิตบทความ บทความเครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com

Tags : 3D Printer
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ