หัวข้อ: เครื่องพิมพ์ 3 มิติ คืออะไร ไปรับชมกัน เริ่มหัวข้อโดย: ceoseo1 ที่ พฤษภาคม 21, 2019, 05:07:02 pm 3D Printer - เทคโนโลยีการผลิตยุค 4.0
เครื่อง 3D Printer เป็นเทคโนโลยีการผลิตซึ่งสามารถแปลงข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น ให้กลายเป็นผลงานจริงที่สามารถจับต้องได้ โดยหลักการของเครื่องเป็นการเติมเนื้ออุปกรณ์ (additive) ครั้งละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่ต้องการ ซึ่งไม่เหมือนกับขั้นตอนการผลิตแบบเริ่มแรกอาทิเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้อวัสดุออก (subtractive) ดังนั้นสิ่งของที่ใช้และสูญเสียสำหรับในการผลิตจึงน้อยกว่ามาก รวมไปถึงการใช้งานของเครื่องที่ใช้เวลาในการศึกษาน้อยกว่ามาก ดังนั้นเราจึงมองเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกผลักดันให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติขั้นต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) เยี่ยมชมเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com ผลดีที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer คือ ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์สิ่งของ อะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านที่รับผลิต โดยทักษะที่ควรจะมีเป็นการผลิตหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งปัจจุบันมีอีกทั้งฟรีและเสียเงินเสียทอง รวมถึงวัตถุประสงค์ของโปรแกรมที่แตกต่างกัน ดังเช่นว่า งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลปะ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D ฯลฯ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) ข้อดีของเทคโนโลยี 3D Printing 1. ต้นทุนการผลิตต่ำ รองรับการสร้างงานต้นแบบหรือผลิตจำนวนน้อย ปัจจุบันเครื่อง 3D Printer แพงถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ ทั้งยังการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนขายในไทย ทำให้กรรมวิธีการผลิตองค์ประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แม้กระนั้นในโรงงานผลิต ซึ่งจำนวนมากรับเฉพาะการสร้างมากไม่น้อยเลยทีเดียว (Mass production) หากเป็นคนทั่วไป หรือยังเป็นแค่งานต้นแบบ (Prototype) คงไม่สามารถสั่งผลิตได้ เว้นแต่ตัวเครื่องแล้ว วัสดุในปัจจุบันทั้งยังแบบ Filament หรือ Resin ก็แพงถูกลง และสมบัติที่หลากหลายตามสิ่งที่มีความต้องการ เพราะฉะนั้นเทคโนโลยี 3D Printing จึงมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่บุคคลทั่วไป จนไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการดีไซน์สินค้า เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเติมเนื้ออุปกรณ์เข้าไป ฉะนั้นก็เลยไม่ต้องคิดถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนภายในชิ้นงาน ซึ่งแตกต่างจากการผลิตทั่วๆไป 3D Printerที่ทำเป็นเฉพาะผิวด้านนอก หรือจะต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาสูงสูงถึงจะผลิตได้ ตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน ในช่วงเวลาที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่กล่าวถึงแล้ว (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงชิ้นงาน เนื่องจากว่าการพิมพ์ 3 มิติ เป็นการผลิตงานครั้งละชิ้น โดยใช้วิธีการเติมเนื้อสิ่งของ ด้วยเหตุผลดังกล่าวสามารถที่จะผลิตชิ้นงานจำนวนหลายชิ้น ที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงรายละเอียดเล็กๆแต่ละชิ้นให้แตกต่างกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว และก็ยังรวมทั้งสีของงาน ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามปรารถนา (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) ขั้นตอนการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มของการใช้งาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบผลงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและรูปร่างที่อยากได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์แล้วก็ราคาไม่แพงได้ง่ายสุดๆ อาทิเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD ต่อจากนั้นก็เลยเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วไปคือสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานถัดไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่สร้างขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องและเทคโนโลยีรองรับ เป็นต้นว่า เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ราวๆ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรซินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมไปถึงระบุค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยว ยกตัวอย่างเช่น ความเร็วสำหรับเพื่อการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ส่วนใหญ่จะเป็นสกุล .Gcode ราวกับเครื่อง CNC หรือเป็นชื่อสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้เป็นนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มการพิมพ์ 4. การตกแต่งผลงานหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการตกแต่งผลงานข้างหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำผลงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) สิ่งของสำหรับเครื่อง 3D Printer วัสดุที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีทั้งยังพลาสติก (Polymer) เรสิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมถึงสิ่งของชีวภาพอย่างเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่โดยทั่วไปแล้ว จะหมายคือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องด้วยเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันมากที่สุด ที่มา บทความ3D Printer https://www.sync-innovation.com Tags : เครื่องพิมพ์ 3D,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|