|
หัวข้อ: 3D Printer คืออะไร ลองดูข้อมูลสิจ๊ะ เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 22, 2019, 07:37:04 am 3D Printer - เทคโนโลยีการสร้างยุค 4.0
เครื่อง 3D Printer คือเทคโนโลยีการสร้างซึ่งสามารถเปลี่ยนข้อมูลดิจิติล หรือแบบจำลอง 3 มิติ ที่ผลิตขึ้น ให้กลายเป็นชิ้นงานจริงที่สามารถจับต้องได้ โดยหลักการของเครื่องคือการเติมเนื้อสิ่งของ (additive) ทีละชั้น (layer by layer) จนได้ตามแบบที่อยากได้ ซึ่งต่างจากขั้นตอนการผลิตแบบดั้งเดิมตัวอย่างเช่น เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องตัด หรือเครื่อง CNC ที่มักใช้การตัด หรือนำเนื้ออุปกรณ์ออก (subtractive) โดยเหตุนั้นอุปกรณ์ที่ใช้รวมทั้งสูญเสียในการผลิตก็เลยน้อยกว่ามาก รวมไปถึงการใช้งานของเครื่องที่ใช้เวลาสำหรับการศึกษาน้อยกว่ามากมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเราจึงเห็นประเทศในฝั่งตะวันตกช่วยเหลือให้มีการใช้ตั้งแต่การเรียนเครื่องพิมพ์ 3 มิติขั้นพื้นฐาน (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/subtractive-manufacturing-1024x337.png) ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์ 3D https://www.sync-innovation.com ผลดีที่เห็นได้ชัดเจนจากเครื่อง 3D Printer เป็น ผู้ใช้สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ข้าวของ อะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งโรงงานร้านค้าที่รับผลิต โดยความสามารถที่ควรมีคือการผลิตหรือเขียน แบบจำลอง 3 มิติ ขึ้นมา โดยใช้โปรแกรมต่างๆซึ่งตอนนี้มีอีกทั้งฟรีและเสียเงินเสียทอง รวมถึงจุดหมายของโปรแกรมที่ต่างกัน ดังเช่นว่า งานปั้นสิ่งมีชีวิต การเขียนแบบศิลป์ สถาปัตยกรรม หรืองานทางวิศวกรรม เครื่องพิมพ์ 3D เป็นต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-house-3d-print3.jpg) จุดเด่นของเทคโนโลยี 3D Printing 1. ต้นทุนการผลิตต่ำ รองรับการสร้างงานต้นแบบหรือผลิตปริมาณน้อย ปัจจุบันเครื่อง 3D Printer แพงถูกลงมาก จนกระทั่งคนทั่วๆไปสามารถหาซื้อได้ อีกทั้งการซื้อจากโรงงานโดยตรงผ่าน Alibaba Lazada Aliexpress หรือตัวแทนจำหน่ายในไทย ทำให้แนวทางการผลิตส่วนประกอบต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ว่าในโรงงานผลิต ซึ่งโดยมากรับเฉพาะการสร้างจำนวนไม่ใช่น้อย (Mass production) ถ้าเกิดเป็นคนทั่วไป หรือยังเป็นแค่งานต้นแบบ (Prototype) คงไม่สามารถสั่งผลิตได้ นอกเหนือจากตัวเครื่องแล้ว วัสดุในปัจจุบันทั้งยังแบบ Filament หรือ Resin ก็แพงถูกลง และทรัพย์สินที่นานาประการตามความจำเป็น ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยี 3D Printing จึงมีใช้ในทุกระดับตั้งแต่บุคคลทั่วไป กระทั่งไปถึงโรงงานขนาดใหญ่ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-FDM-sample-1-1024x768.jpg) 2. อิสระด้านการวางแบบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี 3D Printing เป็นการผลิตแบบเพิ่มเติมเนื้อสิ่งของเข้าไป โดยเหตุนั้นก็เลยไม่ต้องคำนึงถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนข้างในชิ้นงาน ซึ่งไม่เหมือนกับการสร้างทั่วๆไป 3D Printerที่ทำได้เฉพาะผิวข้างนอก หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรที่ราคาแพงมากถึงจะผลิตได้ ยกตัวอย่างเช่น CNC 5 แกน ในระหว่างที่เครื่อง 3D Printer ไม่มีข้อจำกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-wanhao-d7-sample-1024x768.jpg) 3. การดัดแปลงแก้ไขงาน เนื่องมาจากการพิมพ์ 3 มิติ คือการผลิตชิ้นงานทีละชิ้น โดยใช้แนวทางเติมเนื้อสิ่งของ โดยเหตุนั้นสามารถที่จะผลิตงานเยอะๆ ที่ดัดแปลงเนื้อหาเล็กๆแต่ละชิ้นให้แตกต่างกันโดยที่ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ ป้ายชื่อ ขนาดเกลียว และยังรวมไปถึงสีของชิ้นงาน ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามอยากได้ (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/P3160001-1024x768.jpg) วิธีการทำงานของเครื่อง 3D Printer 1. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ (3D modelling) เป็นขั้นตอนเริ่มของการใช้งาน โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หรือ CAD วาดแบบงานออกมาเป็น 3 มิติ ตามขนาดและก็รูปร่างที่ปรารถนา ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถหาโปรแกรมฟรีแวร์รวมทั้งราคาไม่แพงได้ง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น Autodesk Fusion 360, Blender, TinkerCAD ต่อจากนั้นก็เลยเซฟหรือ export เป็นไฟล์ 3 มิติ ที่ใช้กันทั่วๆไปคือสกุล .stl หรือ .obj เพื่อใช้งานถัดไป 2. การสไลด์แบบจำลอง 3 มิติ (Slicing) ขั้นตอนนี้เป็นการนำแบบจำลอง 3 มิติ ที่ทำขึ้น มาแบ่งเป็นชั้นๆตามความละเอียดที่เครื่องและเทคโนโลยีรองรับ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี FDM 3D Printing อยู่ที่ราวๆ 50-300 ไมครอน (0.05-0.3 mm) หรือแบบเรสินอยู่ที่ 25-100 ไมครอน (0.025-0.1 mm) รวมถึงระบุค่าตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวโยง ได้แก่ ความเร็วสำหรับในการพิมพ์ อุณหภูมิ การผลิต support โดยไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อสกุล .Gcode ราวกับเครื่อง CNC หรือเป็นนามสกุลอื่นๆที่เข้ารหัสเฉพาะเครื่อง 3. การพิมพ์ 3 มิติ (Printing) ขั้นตอนนี้คือนำไฟล์ที่ได้จากการสไลด์ในข้อที่ 2 มาป้อนให้กับตัวเครื่อง 3D Printer เพื่อเริ่มการพิมพ์ 4. การตกแต่งงานข้างหลังการพิมพ์ (Post processing) ขั้นตอนสุดท้ายคือการตกแต่งชิ้นงานข้างหลังการพิมพ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะขัด (Polishing) ทำสี (Painting) หรือนำผลงานหลายๆชิ้นมาประกอบหรือติดกาวเข้าด้วยกัน โดยแต่ละเทคโนโลยีของเครื่อง 3D Printer ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างออกไป (https://www.sync-innovation.com/wp-content/uploads/2019/03/sync-innovation-3d-printing-process-1024x307.jpg) อุปกรณ์สำหรับเครื่อง 3D Printer วัสดุที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีทั้งพลาสติก (Polymer) เรสิน (Resin) โลหะ (Metal) เซรามิกส์ (Ceramic) ปูน (Cement) ซิลิโคน รวมไปถึงสิ่งของชีวภาพอย่างเนื้อเยื่อหรือที่เรียกกันว่า “BioInk” แต่โดยปกติ จะคือเครื่องที่ใช้เส้นพลาสติก (Filament) เป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุว่าเป็นเครื่องที่นิยมใช้กันเยอะที่สุด Source: บทความเครื่องพิมพ์ 3 มิติ https://www.sync-innovation.com Tags : 3D Printer,เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
|