หัวข้อ: ทำความรู้จักโรคซิฟิลิส โรคทางเพศสัมพันธ์ที่ป้องกันได้ เริ่มหัวข้อโดย: guupost ที่ พฤษภาคม 23, 2019, 08:00:17 pm (https://i.ibb.co/DWxZ2vj/syphilis.jpg)
ซิฟิลิส เป็นโรคที่สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อมักจะไม่มีอาการใดๆ ในระยะแรก ทำให้สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยป้องกันท่านจากการติดเชื้อได้ ซิฟิลิสคืออะไร โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ทริปโปนีมา พัลลิดุม (Treponema pallidum) ซึ่งมีขนาดเล็กมาก และสามารถอาศัยอยู่ได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย โดยหากส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเชื้อตัวนี้มีลักษณะเหมือนเกลียวสว่าน (Spirochete bacteria) สำหรับสถิติของโรคซิฟิลิสนั้น ตั้งแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1990 จะพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่จากรายงานที่ผ่านมา กลับพบว่าในปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อซิฟิลิสเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มชายรักชาย การติดเชื้อซิฟิลิสในระยะแรกนั้นสามารถรักษาให้หายได้ง่าย แต่หากผู้ติดเชื่อโรคซิฟิลิสไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงทางสุขภาพจนถึงแก่ชีวิตได้ ด้วยเหตุนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคซิฟิลิส คือเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคซิฟิลิสนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โรคซิฟิลิสติดต่อกันได้อย่างไร เชื้อแบคทีเรียที่เป็นตัวการให้เกิดโรคซิฟิลิสสามารถแพร่จากคนเข้าสู่คนผ่านการสัมผัสแผลที่เกิดจากโรคโดยตรง ซึ่งแผลดังกล่าวมักเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือภายในช่องปาก เพราะฉะนั้น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือการออรัลเซ็กส์กับผู้ป่วยซิฟิลิส จึงล้วนทำให้เกิดการติดเชื้อซิฟิลิสได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ เชื้อยังสามารถติดต่อได้โดยการจูบหรือสัมผัสแผลบริเวณหน้าอก แผลในปาก หรืออวัยวะเพศ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อนี้ก็สามารถแพร่เชื้อซิฟิลิสไปยังทารกในครรภ์ ทำให้เกิดโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกมีความผิดปกติหรืออาจเสียชีวิตได้ ถึงกระนั้นก็ตาม เชื้อซิฟิลิสจะไม่ติดต่อผ่านการใช้ของใช้หรือการรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผ้าเช็ดตัว การใช้ช้อน การสัมผัสลูกบิดประตู การว่ายน้ำในสระแห่งเดียวกัน หรือการนั่งบนฝารองชักโครกร่วมกัน อาการของโรคซิฟิลิส ผู้ป่วยโรคนี้โดยมากมักไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ จึงทำให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย อาการของโรคซิฟิลิสแบ่งออกเป็นระยะต่างๆ ดังนี้ ระยะที่ 1 ในระยะแรกของการติดเชื้อซิฟิลิส ผู้ป่วยจะพบว่ามีแผลลักษณะแข็งๆ สีแดง ขอบนูน ที่มักเรียกว่า "แผลริมแข็ง" (Chancre) ปรากฎขึ้นบริเวณช่องคลอด ทวารหนัก องคชาต หรือปาก อาจมีเพียงตำแหน่งเดียวหรือหลายตำแหน่งก็ได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณที่ได้รับเชื้อ และไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยในระยะนี้ด้วย แผลริมแข็งจะหายไปภายใน 3-6 อาทิตย์ แม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษาก็ตาม แต่เชื้อจะยังคงแฝงตัวอยู่ในร่างกาย นั่นหมายความว่าหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการของโรคก็จะกำเริบรุนแรงกว่าเดิมเมื่อเชื้อโรคเดินเข้าสู่ระยะถัดไป เชื้อซิฟิลิสสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมาก ๆในระยะแรก อีกทั้งผู้ป่วยในระยะนี้มักจะไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจนนัก ไม่มีอาการเจ็บปวด หรือแผลที่เกิดขึ้นอยู่ในบริเวณที่มองไม่เห็น อย่างเช่น ในปาก ใต้หนังหุ้มปลายองคชาต ปากมดลูก หรือที่ทวารหนัก ทำให้ผู้ติดเชื้ออาจไม่รู้ตัวและแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ระยะที่ 2 เมื่อติดเชื้อซิฟิลิสแล้วไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยซิฟิลิสจะเริ่มแสดงอาการมากขึ้น โดยมีผื่นขึ้นตามฝ่ามือและฝ่าเท้า แต่ไม่มีอาการคัน ยิ่งไปกว่านี้อาจมีอาการของไข้ รู้สึกอ่อนเพลีย ผมร่วง และปวดเมื่อยตามตัว โดยมีอาการเกิดขึ้นประมาณ 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือนหลังจากเกิดแผลริมแข็งในระยะแรก ซึ่งผื่นในระยะนี้จะยังเป็นผื่นจางๆ มีลักษณะคล้ายผดผื่นที่เกิดจากการติดเชื้อทั่วไป ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่สนใจและไม่สังเกตเห็น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีแผลบริเวณริมฝีปาก ในปาก ในลำคอ ช่องคลอด และทวารหนักร่วมด้วย แต่โดยมากแล้วผู้ติดเชื้อในระยะนี้จะไม่มีแผลเกิดขึ้นเลย อาการในระยะที่ 2 นี้จะหายไปเองได้ แม้ไม่ได้รับการรักษาเช่นเดียวกับอาการในระยะแรก แต่อาการของโรคก็จะรุนแรงมากขึ้นอีก และเชื้อซิฟิลิสยังคงแพร่กระจายได้ง่ายในระยะที่ 2 นี้ ติดตามอ่านต่อได้ที่ https://www.honestdocs.co/what-is-syphilis
|