หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีท้อง ที่แม่ควรจะทราบและก็เตรียมพร้อมรับมือ เริ่มหัวข้อโดย: Bigbombboomz ที่ พฤษภาคม 28, 2019, 11:12:27 am อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ กับ 10 อาการแพ้ท้องที่แม่ควรทราบ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีท้อง - แพ้ท้องดีกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่สบายที่เกิดขึ้นอยู่กับหญิงตั้งครรภ์มากยิ่งกว่า 80-90% ว่าที่แม่ที่กำลังวางแผนต้องการตั้งครรภ์ หรือ คุณแม่ที่กำลังมีท้องจึงมีเรื่องที่วิตกกังวลเช่นเดียวกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งจำนวนมากมักมีลักษณะคลื่นไส้อาเจียน ตาลายศีรษะ เหนื่อยง่าย เมื่อยล้ามากกว่าปกติ แต่อาการเหล่านี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อมีอายุท้องมากยิ่งกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความร้ายแรงแตกต่างกัน แล้วก็อาการไม่เหมือนกัน ซึ่งมีปัจจัยการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาหารคนท้อง http://www.konthong.com 3 เหตุ ดังต่อไปนี้ 1. ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่เกลื่อนกลาดสร้างสูงมากขึ้น 2. อาการกังวลระหว่างท้อง รวมทั้งภาวะความพร้อมของร่างกายและจิตใจคุณแม่ 3. ต้นสายปลายเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น ระบบประสาทอัตโนมัติบกพร่อง ทำให้สมดุลฮอร์โมนภายในร่างกายมีการเปลี่ยน - การแพ้ท้องก็มีจุดเด่นนะ- แม้การแพ้ท้องอาจก่อให้ม่าม้ารู้สึกไม่มีความสุข แม้กระนั้นการแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสภาพแวดล้อมของคุณแม่เพื่อป้องกันอันตราย โดยยิ่งไปกว่านั้นอาการจะมีมากมายในตอน 3 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับในการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก ได้แก่ สมอง หัวใจ ปอด แขนขา ฯลฯ ร่างกายก็เลยปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กแรกคลอดน้อยในท้องคุณแม่ อาทิเช่น เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินบางอย่าง ฯลฯ อาการแพ้อย่างนี้ถึงแม้ว่าจะสร้างความทรมานคุณแม่ได้แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยในครรภ์พวกเราจะมีความแข็งแรงรวมทั้งไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากอันตราย เพราะเหตุว่าเป็นปฏิกิริยาการไม่ยอมรับอาหารที่เป็นพิษหรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้เป็นอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่คุณแม่ควรจะทราบและก็จัดแจงต่อกร 1. อาการแพ้ท้องในม่าม้านั้น กำเนิดได้หลายอาการแล้วก็แตกต่างกันในแต่ละคน หรือม่าม้าบางคนบางทีอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้ขึ้นอยู่กับเหตุของระดับของฮอร์โมน ความวิตกกังวล ตลอดจนภาวะความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้นว่า เหม็นของกินบางชนิด น้ำหอม บางครั้งเหม็นกลิ่นเต่าป๋า กลับชอบกลิ่นอะไรบางอย่างอย่างเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้อ้วก ผะพอง ผะอม อึดอัดท้องและก็อกจนถึงอยากจะอาเจียนออกมา แม้จะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ รวมทั้งในขณะที่แม่คลื่นไส้ กินอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่อาเจียนออกมาจะมีผลให้แสบหลอดอาหารรวมทั้งขมที่ลิ้นได้ 4. ความชื่นชอบในการกินเปลี่ยนไป ได้แก่ ต้องการรับประทานอาหารแปลกๆหรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการอ่อนแรง เพราะเหตุว่าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นส่งผลทำให้กล้ามภายในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. ลักษณะของการปวดหัว จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป และการพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่เพียงพอ 7. อาการอยากนอนตลอดเวลา ร่างกายต้องการพัก 8. อารมณ์ปรวนแปร จิตใจหวั่นไหว เครียด วิตกง่าย 9. ลักษณะของการปวดเยี่ยวบ่อยๆมีต้นเหตุมาจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นในตอนแรกๆแล้วก็ระยะหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดเยี่ยวเป็นประจำ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย เป็นต้นว่าแม่บางบุคคลเป็นผดผื่น หรือ เป็นกระและก็ฝ้าตามใบหน้า - แนวทางจัดการกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในแม่นั้น มีได้ตั้งแต่อาการน้อย ไปจนกระทั่งรุนแรงกระทั่งต้องนอนในโรงหมอ บางบุคคลเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งท้องยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งเรามีเทคนิคการจัดการและผ่อนคลายอาการแพ้ท้องที่แม่มีท้องสามารถทำได้ง่ายรวมทั้งเห็นผล สามารถสุขสบายกับการตั้งครรภ์ได้ ดังต่อไปนี้คะ 1. สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมโปร่งสบาย เพื่อร่างกายได้บรรเทาสุดกำลัง 2. งดเว้นเครื่องดื่มเย็น แนะนำดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วช่วงเวลาเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดอยากจะอาเจียนแล้วก็ขับลมได้ 3. หากต้องการทานอาหารรสเปรี้ยวชี้แนะทานผลไม้รสเปรี้ยวมากยิ่งกว่าจะนึกถึงของกินมักดองที่ไร้สาระต่อสุขภาพ 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์ช่วงเช้าหลังตื่นนอน ป้องกันท้องว่างรวมทั้งลดลักษณะของการปวดแสบท้องและหลอดของกิน 5. กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย แล้วก็อาหารอุ่นๆสดใหม่เสมอ และ แบ่งมื้อของกินออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกประจำตัว น้ำผลไม้ไว้ กินเป็นของว่างระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจบาปที่มักจะทำระงับความเครียด ดังเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือสนุกๆ 8. เลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมหวน 9. หลังตื่นนอนห้ามลุกโดยทันที คอยร่างกายปรับสภาพอย่างน้อย 5 นาที และหาช่องทางพักหลับในช่วงกลางวัน 10. เลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนแออัด (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมากกว่าปกติ นั้น มีข้อแนะนำเพิ่มเติม เป็นให้สังเกตอาการและระดับความรุนแรงสำหรับเพื่อการแพ้ แล้วกระทำตนดังต่อไปนี้ค่ะอาการแพ้ท้อง 1.แม่ที่มีอาการเล็กน้อย ได้แก่ อ้วก อยากจะอาเจียน แม้กระนั้นยังเพียงพอทานได้ ควรกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย เน้นย้ำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังเช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง หรือ ของกินกลิ่นแรงๆ 2.แม่ที่มีลักษณะปานกลาง มีลักษณะอาการตั้งแต่คลื่นไส้รุนแรง เวียนศีรษะอยู่เป็นประจำรวมทั้งรับประทานอาหารได้น้อย แนะนำให้ไปขอคำแนะนำแพทย์ อาจจำเป็นต้องขอรับยาบรรเทาอาการ อาทิเช่น ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับในการย่อยและก็ขับลม ลดอาการคลื่นไส้ อาการคนท้อง เป็นต้น 3.แม่ที่มีลักษณะอาการร้ายแรง จนถึงไม่สามารถที่จะรับประทานอาหารได้ มีอาการอาเจียนอ้วกตลอดวัน เหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและอาหารน้อยเกินไป แนะนำให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากว่าบางทีอาจต้องเข้านอนรักษาอาการในโรงหมอยกตัวอย่างเช่น ให้ น้ำเกลือชดเชยน้ำและเกลือแร่ เนื่องจากถ้าเกิดปล่อยไว้จะทำให้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยคะ ขอบคุณสำหรับที่มา บทความครรภ์เป็นพิษ http://www.konthong.com Tags : อาหารคนท้อง
|