หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างตั้งครรภ์ ที่คุณแม่ควรรู้และก็เตรียมต่อกร เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ พฤษภาคม 30, 2019, 01:57:45 am อาการแพ้ท้อง ระหว่างตั้งท้อง กับ 10 อาการแพ้ท้องที่ม่าม้าควรจะรู้ เพื่อจัดการกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างตั้งครรภ์ - แพ้ท้องดียิ่งกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่สบายที่เกิดขึ้นอยู่กับหญิงท้องมากยิ่งกว่า 80-90% ว่าที่แม่ที่กำลังคิดแผนอยากตั้งท้อง หรือ ม่าม้าที่กำลังมีท้องจึงมีเรื่องที่วิตกกังวลเช่นกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งส่วนมากมักมีอาการอ้วกอ้วก ตาลายหัว เหนื่อยง่าย เหน็ดเหนื่อยมากกว่าปกติ แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อมีอายุท้องมากยิ่งกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความร้ายแรงแตกต่างกัน แล้วก็อาการไม่เหมือนกัน ซึ่งมีต้นสายปลายเหตุการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ ครรภ์เป็นพิษ http://www.konthong.com 3 เหตุ ดังนี้ 1. ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่รกสร้างสูงขึ้น 2. อาการกังวลระหว่างท้อง และก็สภาพความพร้อมเพรียงของร่างกายและจิตใจคุณแม่ 3. มูลเหตุอื่นๆดังเช่น ระบบประสาทอัตโนมัติผิดพลาด ทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยน - การแพ้ท้องก็มีข้อดีนะ- แม้ว่าการแพ้ท้องอาจจะส่งผลให้คุณแม่รู้สึกไม่สุข แม้กระนั้นการแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสภาพแวดล้อมของคุณแม่เพื่อป้องกันอันตราย โดยยิ่งไปกว่านั้นอาการจะมีมากมายในตอน 3 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงๆที่สำคัญมากในการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก เช่น สมอง หัวใจ ปอด แขนขา เป็นต้น ร่างกายก็เลยไม่ยอมรับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่คิดว่าเกิดอันตรายต่อเด็กแรกเกิดน้อยในท้องแม่ ยกตัวอย่างเช่น เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินบางสิ่งบางอย่าง เป็นต้น อาการแพ้อย่างงี้ถึงแม้จะสร้างความทรมานคุณแม่ได้แต่ว่าก็เกิดเรื่องที่ดี ที่ชี้ว่าลูกน้อยในครรภ์พวกเราจะมีความแข็งแรงและก็ปลอดภัยจากอันตราย เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาการไม่ยอมรับของกินที่เป็นพิษหรือสิ่งแวดล้อมที่เกิดอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่แม่ควรทราบและก็เตรียมจัดการ 1. อาการแพ้ท้องในม่าม้านั้น เกิดได้หลายอาการและต่างกันในแต่ละคน หรือม่าม้าบางท่านอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้สังกัดต้นสายปลายเหตุของระดับของฮอร์โมน ความกลุ้มอกกลุ้มใจ ตลอดจนสภาพความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังต่อไปนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ อาทิเช่น เหม็นของกินบางชนิด น้ำหอม บางโอกาสเหม็นกลิ่นตัวป๋า แต่กลับชอบกลิ่นอะไรบางอย่างอาทิเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้คลื่นไส้ ผะอืด ผะอม อึดอัดท้องและก็อกจนกระทั่งอยากจะอาเจียนออกมา แม้ว่าจะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะทำให้กล้ามหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับมาขึ้นมาที่หลอดของกินได้ และขณะที่ม่าม้าคลื่นไส้ ทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่อ้วกออกมาจะก่อให้แสบหลอดของกินแล้วก็ขมที่ลิ้นได้ 4. ความชอบสำหรับในการรับประทานเปลี่ยนไป ดังเช่น อยากรับประทานอาหารแปลกๆหรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามเนื้อภายในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. ลักษณะของการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการพักผ่อนหย่อนใจที่น้อยเกินไป 7. อาการง่วงนอนตลอดเวลา ร่างกายต้องการพัก 8. อารมณ์ผันแปร จิตใจหวั่นไหว เครียด วิตกกังวลง่าย 9. อาการปวดเยี่ยวเสมอๆเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นในขั้นแรกๆและก็พักหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดแทรกกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดท้องเยี่ยวเสมอๆ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย อย่างเช่นคุณแม่บางบุคคลเป็นผื่นผื่น หรือ เป็นกระรวมทั้งฝ้าตามบริเวณใบหน้า - แนวทางต่อกรกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในแม่นั้น มีได้ตั้งแต่อาการน้อย ไปจนถึงรุนแรงจนถึงจะต้องนอนในโรงหมอ บางคนเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งครรภ์ยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งพวกเรามีวิธีการการจัดการและผ่อนคลายอาการแพ้ท้องที่ม่าม้าตั้งท้องสามารถทำได้ง่ายรวมทั้งสำเร็จ สามารถเป็นสุขกับการตั้งครรภ์ได้ ดังต่อไปนี้ขา 1. สวมเสื้อผ้าที่หละหลวมโปร่งสบาย เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มกำลัง 2. งดเว้นเครื่องดื่มเย็น แนะนำดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังตื่นนอนตอนเวลาเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดอยากจะอาเจียนแล้วก็ขับลมได้ 3. ถ้าหากอยากกินอาหารรสเปรี้ยวแนะนำทานผลไม้รสเปรี้ยวมากยิ่งกว่าจะนึกถึงอาหารมักดองที่ไม่มีสาระต่อสถาพทางร่างกาย 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์รุ่งอรุณหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว คุ้มครองท้องว่างและลดลักษณะของการปวดแสบท้องรวมทั้งหลอดอาหาร 5. รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย แล้วก็อาหารอุ่นๆสดใหม่เสมอ แล้วก็ แบ่งมื้อของกินออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกติดตัว น้ำผลไม้ไว้ กินเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจบาปที่มักจะทำคลายความเครียด ตัวอย่างเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือบันเทิงใจๆ 8. หลบหลีกการใช้น้ำหอมหรือสินค้าที่มีกลิ่นหอมหวน 9. หลังตื่นนอนห้ามลุกโดยทันที รอร่างกายปรับภาวะอย่างต่ำ 5 นาที และก็หาจังหวะพักหลับในกลางวัน 10. เลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนคับแคบ (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนคุณแม่ที่มีลักษณะอาการแพ้ท้องมากกว่าปกติ นั้น มีข้อเสนอเพิ่มเติม คือให้พินิจอาการและก็ระดับความรุนแรงในการแพ้ แล้วกระทำดังนี้คะอาการแพ้ท้อง 1.คุณแม่ที่มีลักษณะเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น คลื่นไส้ อยากจะอ้วก แต่ว่ายังเพียงพอทานได้ ควรจะกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย เน้นของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นต้นว่า น้ำผลไม้สด น้ำขิง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของกินที่มีไขมันสูง หรือ ของกินกลิ่นแรงๆ 2.คุณแม่ที่มีลักษณะอาการปานกลาง มีลักษณะอาการตั้งแต่คลื่นไส้รุนแรง เวียนหัวอยู่เสมอๆรวมทั้งทานอาหารได้น้อย เสนอแนะให้ไปขอคำแนะนำหมอ บางทีอาจจำเป็นต้องขอรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับการย่อยรวมทั้งขับลม ลดอาการอยากจะอาเจียน อาการคนท้อง เป็นต้น 3.ม่าม้าที่มีอาการร้ายแรง จนไม่สามารถที่จะกินอาหารได้ มีลักษณะอ้วกอาเจียนทั้งวัน หมดแรง กระทั่งน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดระยะเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและก็ของกินน้อยเกินไป ชี้แนะให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะว่าบางทีอาจจำเป็นต้องไปนอนรักษาอาการในโรงหมอตัวอย่างเช่น ให้ น้ำเกลือทดแทนน้ำและเกลือแร่ เนื่องจากว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอันตรายต่อลูกน้อยค่ะ แหล่งที่มา บทความอาการคนท้อง http://www.konthong.com Tags : อาการคนท้อง
|