หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ ที่ม่าม้าควรทราบแล้วก็เตรียมพร้อมจัดการ เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 06:29:45 am อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ กับ 10 อาการแพ้ท้องที่คุณแม่ควรจะรู้ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ - แพ้ท้องดีมากยิ่งกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่มีความสุขที่เกิดสังกัดหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 80-90% ว่าที่ม่าม้าที่กำลังคิดแผนต้องการท้อง หรือ แม่ที่กำลังตั้งครรภ์จึงมีเรื่องที่กลุ้มใจเช่นเดียวกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งโดยมากมักมีลักษณะคลื่นไส้อาเจียน หน้ามืดหัว อ่อนล้าง่าย หมดแรงมากกว่าปกติ แต่ว่าอาการพวกนี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อมีอายุท้องมากยิ่งกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความรุนแรงไม่เหมือนกัน รวมทั้งอาการแตกต่าง ซึ่งมีต้นเหตุการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาการแพ้ท้อง http://www.konthong.com 3 เหตุ ดังนี้ 1. ร่างกายหรูหราฮอร์โมนเอสโตรเจนรวมทั้งฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่รกสร้างสูงมากขึ้น 2. อาการกังวลระหว่างท้อง และสภาพความพร้อมเพรียงของร่างกายและจิตใจแม่ 3. สาเหตุอื่นๆดังเช่นว่า ระบบประสาทอัตโนมัติขาดตกบกพร่อง ทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง - การแพ้ท้องก็มีข้อดีนะ- ถึงแม้ว่าการแพ้ท้องอาจจะก่อให้แม่รู้สึกไม่เป็นสุข แต่ว่าการแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสภาพแวดล้อมของแม่เพื่อคุ้มครองปกป้องอันตราย โดยเฉพาะอาการจะมีมากมายในช่วง 3 เดือนแรกซึ่งเป็นตอนที่สำคัญมากสำหรับการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก ตัวอย่างเช่น สมอง หัวใจ ปอด แขนขา ฯลฯ ร่างกายก็เลยไม่ยอมรับทั้งหมดทุกอย่างที่มีความคิดว่าทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กแบเบาะน้อยในครรภ์ม่าม้า อาทิเช่น เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินบางอย่าง ฯลฯ อาการแพ้แบบงี้ถึงจะสร้างความทรมานม่าม้าได้แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่ดี ที่แสดงว่าลูกน้อยในครรภ์เราจะมีความแข็งแรงและปลอดภัยจากอันตราย เนื่องจากว่าเป็นปฏิกิริยาการไม่ยอมรับอาหารที่เป็นพิษหรือสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่คุณแม่ควรจะทราบรวมทั้งเตรียมตัวต่อกร 1. อาการแพ้ท้องในแม่นั้น เกิดได้หลายอาการและก็แตกต่างกันในแต่ละคน หรือคุณแม่บางคนอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต้นสายปลายเหตุของระดับของฮอร์โมน ความรู้สึกไม่สบายใจ ตลอดจนภาวะความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยปกติจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังต่อไปนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น เหม็นของกินบางชนิด น้ำหอม บางครั้งเหม็นกลิ่นตัวคุณพ่อ แต่ชอบกลิ่นบางสิ่งบางอย่างอาทิเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้คลื่นไส้ ผะอืด ผะอม อึดอัดท้องแล้วก็หน้าอกกระทั่งอยากจะอาเจียนออกมา แม้จะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะก่อให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ และก็ในเวลาที่แม่อ้วก ทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่อาเจียนออกมาจะทำให้แสบหลอดของกินแล้วก็ขมที่ลิ้นได้ 4. ความชื่นชอบสำหรับในการรับประทานเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น อยากรับประทานอาหารแปลกๆหรือ ของกินที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการเหน็ดเหนื่อย เหตุเพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. อาการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการพักผ่อนที่น้อยเกินไป 7. อาการง่วงนอนตลอดระยะเวลา ร่างกายปรารถนาพัก 8. อารมณ์ปรวนแปร จิตใจอ่อนไหว เครียด ตื่นตระหนกง่าย 9. ลักษณะของการปวดเยี่ยวเสมอๆมีสาเหตุมาจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นในขั้นแรกๆและก็ช่วงหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดท้องเยี่ยวบ่อยๆ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย ดังเช่นว่าแม่บางคนเป็นผื่นผื่น หรือ เป็นกระและก็ฝ้าตามใบหน้า - แนวทางรับมือกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในคุณแม่นั้น มีได้ตั้งแต่อาการน้อย ไปจนถึงรุนแรงจนถึงต้องนอนในโรงหมอ บางบุคคลเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งท้องยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งพวกเรามีวิธีการการจัดการแล้วก็ผ่อนคลายอาการแพ้ท้องที่แม่มีครรภ์สามารถทำเป็นง่ายและได้ผล สามารถมีความสุขกับการมีท้องได้ ดังนี้ขา 1. ใส่เสื้อผ้าที่หลวมโปร่งสบาย เพื่อร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มกำลัง 2. งดเครื่องดื่มเย็น เสนอแนะดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังตื่นนอนรุ่งเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดอยากจะอาเจียนและก็ขับลมได้ 3. ถ้าหากต้องการรับประทานอาหารรสเปรี้ยวชี้แนะทานผลไม้รสเปรี้ยวมากกว่าจะระลึกถึงอาหารมักดองที่ไม่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์รุ่งเช้าหลังตื่นนอน คุ้มครองปกป้องท้องว่างและก็ลดอาการปวดแสบท้องรวมทั้งหลอดอาหาร 5. กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย รวมทั้งของกินอุ่นๆสดใหม่เสมอ และ แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกติดตัว น้ำผลไม้ไว้ กินเป็นของหวานระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจบาปที่ชอบทำความเครียดลดลง เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือบันเทิงใจๆ 8. หลบหลีกการใช้น้ำหอมหรือสินค้าที่มีกลิ่นหอมหวน 9. หลังตื่นนอนห้ามลุกทันที รอร่างกายปรับภาวะอย่างน้อย 5 นาที และหาโอกาสพักหลับในช่วงเวลากลางวัน 10. หลบหลีกสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนคับแคบ (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนม่าม้าที่มีลักษณะแพ้ท้องมากกว่าธรรมดา นั้น มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีก เป็นให้พิจารณาอาการแล้วก็ระดับความร้ายแรงในการแพ้ แล้วกระทำตัวดังต่อไปนี้ค่ะอาการแพ้ท้อง 1.ม่าม้าที่มีลักษณะเล็กน้อย อย่างเช่น คลื่นไส้ คลื่นไส้ แต่ว่ายังเพียงพอทานได้ ควรจะรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ย้ำของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังเช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง เลี่ยงอาหารรสจัด ของกินที่มีไขมันสูง หรือ อาหารกลิ่นฉุนๆ 2.คุณแม่ที่มีอาการปานกลาง มีอาการตั้งแต่คลื่นไส้ร้ายแรง เวียนหัวอยู่บ่อยๆและทานอาหารได้น้อย แนะนำให้ไปขอคำแนะนำหมอ บางทีอาจจำเป็นต้องขอรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ดังเช่นว่า ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับการย่อยและขับลม ลดอาการคลื่นไส้ อาการคนท้อง ฯลฯ 3.คุณแม่ที่มีลักษณะอาการร้ายแรง จนกระทั่งไม่สามารถที่จะทานอาหารได้ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนตลอดวัน อ่อนเพลีย จนกระทั่งน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและของกินน้อยเกินไป ชี้แนะให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะว่าอาจต้องเข้านอนรักษาอาการในโรงหมอยกตัวอย่างเช่น ให้ น้ำเกลือทดแทนน้ำรวมทั้งเกลือแร่ ด้วยเหตุว่าหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยขา ที่มา บทความอาหารคนท้อง http://www.konthong.com Tags : อาการแพ้ท้อง
|