หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ ที่แม่ควรจะรู้และก็เตรียมความพร้อมต่อกร เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ มิถุนายน 03, 2019, 08:35:28 pm อาการแพ้ท้อง ระหว่างท้อง กับ 10 อาการแพ้ท้องที่ม่าม้าควรจะรู้ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างตั้งครรภ์ - แพ้ท้องดีกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่เป็นสุขที่เกิดสังกัดหญิงตั้งท้องมากยิ่งกว่า 80-90% ว่าที่คุณแม่ที่กำลังวางแผนอยากตั้งครรภ์ หรือ ม่าม้าที่กำลังมีครรภ์ก็เลยมีเรื่องมีราวที่กลุ้มอกกลุ้มใจเช่นเดียวกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งส่วนใหญ่มักมีลักษณะอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ วิงเวียนหัว เหน็ดเหนื่อยง่าย เหน็ดเหนื่อยมากยิ่งกว่าปกติ แม้กระนั้นอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์มากยิ่งกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความรุนแรงแตกต่างกัน แล้วก็อาการต่างกัน ซึ่งมีต้นเหตุการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาการใกล้คลอด http://www.konthong.com 3 สาเหตุ ดังนี้ 1. ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและก็ฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่เกลื่อนกลาดสร้างสูงขึ้น 2. อาการวิตกกังวลระหว่างท้อง รวมทั้งภาวะความพร้อมของร่างกายและจิตใจคุณแม่ 3. สาเหตุอื่นๆเป็นต้นว่า ระบบประสาทอัตโนมัติขาดตกบกพร่อง ทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง - การแพ้ท้องก็มีจุดเด่นนะ- แม้การแพ้ท้องอาจก่อให้ม่าม้ารู้สึกไม่สุข แต่ว่าการแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสิ่งแวดล้อมของคุณแม่เพื่อคุ้มครองปกป้องอันตราย โดยยิ่งไปกว่านั้นอาการจะมีมากในช่วง 3 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับในการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก ยกตัวอย่างเช่น สมอง หัวใจ ปอด แขนขา ฯลฯ ร่างกายก็เลยไม่ยอมรับทุกสิ่งที่รู้สึกว่าทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กทารกน้อยในครรภ์คุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินบางอย่าง เป็นต้น อาการแพ้อย่างนี้แม้จะสร้างความทรมานแม่ได้แม้กระนั้นก็เกิดเรื่องที่ดี ที่ชี้ว่าลูกน้อยในครรภ์เราจะมีความแข็งแรงและปลอดภัยจากอันตราย เพราะว่าเป็นปฏิกิริยาการปฏิเสธอาหารที่เป็นพิษหรือสภาพแวดล้อมที่มีอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่แม่ควรทราบและก็เตรียมพร้อมต่อกร 1. อาการแพ้ท้องในแม่นั้น เกิดได้หลายอาการแล้วก็แตกต่างกันในแต่ละคน หรือแม่บางคนอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้ขึ้นกับต้นสายปลายเหตุของระดับของฮอร์โมน ความกลุ้มอกกลุ้มใจ ตลอดจนสภาพความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยธรรมดาจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นมากเพิ่มขึ้น อย่างเช่น เหม็นของกินบางชนิด น้ำหอม บางครั้งบางคราวเหม็นกลิ่นเต่าคุณพ่อ แต่กลับชอบกลิ่นบางสิ่งบางอย่างยกตัวอย่างเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้อ้วก ผะอืด ผะอม อึดอัดท้องและหน้าอกจนถึงอยากจะอาเจียนออกมา แม้จะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะก่อให้กล้ามหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนไปขึ้นมาที่หลอดของกินได้ และก็ในตอนที่ม่าม้าอาเจียน ทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่คลื่นไส้ออกมาจะทำให้แสบหลอดอาหารแล้วก็ขมที่ลิ้นได้ 4. ความชื่นชอบในการกินเปลี่ยนไป เช่น ต้องการกินอาหารแปลกๆหรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการอ่อนเพลีย เพราะเหตุว่าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. ลักษณะของการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็การพักผ่อนที่ไม่พอ 7. อาการง่วงตลอดระยะเวลา ร่างกายต้องการพักผ่อน 8. อารมณ์ปรวนแปร จิตใจหวั่นไหว เครียด วิตกง่าย 9. อาการปวดเยี่ยวเป็นประจำมีต้นเหตุจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นในขั้นแรกๆและก็พักหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดฉี่เป็นประจำ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย อาทิเช่นม่าม้าบางบุคคลเป็นผื่นผื่น หรือ เป็นกระแล้วก็ฝ้าตามใบหน้า - แนวทางต่อกรกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในม่าม้านั้น มีได้ตั้งแต่อาการเล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรงจนถึงจำต้องนอนในโรงพยาบาล บางคนเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งครรภ์ยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งพวกเรามีเทคนิคการจัดการและก็บรรเทาอาการแพ้ท้องที่ม่าม้าตั้งครรภ์สามารถทำได้ง่ายแล้วก็สำเร็จ สามารถแฮปปี้กับการมีท้องได้ ดังต่อไปนี้ขา 1. สวมใส่เสื้อผ้าที่หละหลวมโปร่งสบาย เพื่อร่างกายได้บรรเทาสุดกำลัง 2. งดเครื่องดื่มเย็น แนะนำดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วช่วงเวลาเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดอยากจะอาเจียนและขับลมได้ 3. ถ้าเกิดอยากรับประทานอาหารรสเปรี้ยวเสนอแนะทานผลไม้รสเปรี้ยวมากยิ่งกว่าจะระลึกถึงอาหารมักดองที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์ตอนเวลาเช้าหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว คุ้มครองปกป้องท้องว่างและก็ลดอาการปวดแสบท้องแล้วก็หลอดของกิน 5. รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และก็ของกินอุ่นๆสดใหม่เสมอ และก็ แบ่งมื้อของกินออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกติดตัว น้ำผลไม้ไว้ รับประทานเป็นของหวานระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจกรรมที่มักจะทำเครียดน้อยลง อย่างเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือสนุกๆ 8. หลบหลีกการใช้น้ำหอมหรือสินค้าที่มีกลิ่นหอมสดชื่น 9. หลังตื่นนอนห้ามลุกทันที รอร่างกายปรับภาวะอย่างต่ำ 5 นาที แล้วก็หาจังหวะพักหลับในช่วงเวลากลางวัน 10. หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนคับแคบ (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนม่าม้าที่มีลักษณะอาการแพ้ท้องมากยิ่งกว่าปกติ นั้น มีข้อเสนอเพิ่มอีก คือให้สังเกตอาการรวมทั้งระดับความร้ายแรงสำหรับการแพ้ แล้วกระทำตัวดังนี้คะอาการแพ้ท้อง 1.คุณแม่ที่มีอาการน้อย ดังเช่น อาเจียน จะอาเจียน แม้กระนั้นยังพอเพียงทานได้ ควรจะทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ย้ำของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังเช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง หรือ อาหารกลิ่นฉุนๆ 2.คุณแม่ที่มีอาการปานกลาง มีอาการตั้งแต่อาเจียนรุนแรง เวียนหัวอยู่บ่อยๆและก็รับประทานอาหารได้น้อย ชี้แนะให้ไปขอคำแนะนำหมอ บางทีอาจต้องขอรับยาบรรเทาอาการ เป็นต้นว่า ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยในการย่อยและก็ขับลม ลดอาการผะอืดผะอม อาการคนท้อง ฯลฯ 3.คุณแม่ที่มีลักษณะอาการรุนแรง จนไม่อาจจะรับประทานอาหารได้ มีลักษณะอาการอ้วกอาเจียนตลอดวัน อ่อนล้า จนกระทั่งน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดระยะเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและของกินไม่พอ แนะนำให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะบางทีอาจต้องนอนรักษาอาการในโรงหมอเป็นต้นว่า ให้ น้ำเกลือทดแทนน้ำและเกลือแร่ เพราะเหตุว่าถ้าเกิดปล่อยไว้จะเกิดอันตรายต่อลูกน้อยค่ะ เครดิตบทความ บทความอาการแพ้ท้อง http://www.konthong.com Tags : อาการคนท้อง
|