หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ ที่คุณแม่ควรจะรู้แล้วก็จัดแจงต่อกร เริ่มหัวข้อโดย: SEO.No1 ที่ มิถุนายน 09, 2019, 02:07:37 pm อาการแพ้ท้อง ระหว่างท้อง กับ 10 อาการแพ้ท้องที่ม่าม้าควรจะรู้ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ - แพ้ท้องดีมากยิ่งกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่สบายที่เกิดขึ้นอยู่กับหญิงมีครรภ์มากกว่า 80-90% ว่าที่แม่ที่กำลังคิดแผนอยากท้อง หรือ คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องจึงมีเรื่องมีราวที่ไม่สบายใจเหมือนกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งส่วนมากมักมีลักษณะคลื่นไส้อ้วก หน้ามืดศีรษะ อ่อนล้าง่าย อ่อนแรงมากยิ่งกว่าธรรมดา แต่ว่าอาการเหล่านี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อแก่ครรภ์มากกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความร้ายแรงไม่เหมือนกัน รวมทั้งอาการแตกต่างกัน ซึ่งมีปัจจัยการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาหารคนท้อง http://www.konthong.com 3 ต้นเหตุ ดังต่อไปนี้ 1. ร่างกายหรูหราฮอร์โมนเอสโตรเจนรวมทั้งฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่รกสร้างสูงมากขึ้น 2. อาการตื่นตระหนกระหว่างท้อง และสภาพความพร้อมเพรียงของร่างกายและจิตใจม่าม้า 3. สาเหตุอื่นๆดังเช่นว่า ระบบประสาทอัตโนมัติผิดพลาด ทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง - การแพ้ท้องก็มีข้อดีนะ- แม้การแพ้ท้องอาจก่อให้คุณแม่รู้สึกไม่สบาย แต่การแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสิ่งแวดล้อมของคุณแม่เพื่อปกป้องอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการจะมีมากมายในตอน 3 เดือนแรกซึ่งเป็นตอนๆที่สำคัญมากสำหรับเพื่อการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก ดังเช่น สมอง หัวใจ ปอด แขนขา เป็นต้น ร่างกายจึงปฏิเสธทุกอย่างที่มีความคิดว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกน้อยในท้องคุณแม่ ดังเช่นว่า เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินอะไรบางอย่าง ฯลฯ อาการแพ้อย่างงี้แม้ว่าจะสร้างความทรมานคุณแม่ได้แม้กระนั้นก็เกิดเรื่องที่ดี ที่แสดงว่าลูกน้อยในครรภ์พวกเราจะมีความแข็งแรงแล้วก็ไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากอันตราย เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาการปฏิเสธของกินที่เป็นพิษหรือสิ่งแวดล้อมที่มีอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่คุณแม่ควรรู้และจัดแจงจัดการ 1. อาการแพ้ท้องในคุณแม่นั้น เกิดได้หลายอาการและก็ต่างกันในแต่ละคน หรือแม่บางท่านอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของระดับของฮอร์โมน ความรู้สึกกังวลใจ ตลอดจนสภาพความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น เหม็นของกินบางจำพวก น้ำหอม บางคราวเหม็นกลิ่นเต่าป๊ะป๋า กลับชอบกลิ่นบางอย่างดังเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้คลื่นไส้ ผะอืด ผะอม อึดอัดท้องรวมทั้งอกจนถึงอยากจะอาเจียนออกมา แม้จะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะทำให้กล้ามหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับไปขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ รวมทั้งเวลาที่ม่าม้าคลื่นไส้ ทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่อาเจียนออกมาจะก่อให้แสบหลอดของกินรวมทั้งขมที่ลิ้นได้ 4. ความชื่นชอบสำหรับเพื่อการรับประทานแปรไป เป็นต้นว่า อยากทานอาหารแปลกๆหรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการอ่อนล้า เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. อาการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป และก็การพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่เพียงพอ 7. อาการอยากนอนตลอดระยะเวลา ร่างกายอยากพักผ่อน 8. อารมณ์ผันแปร จิตใจอ่อนไหว เครียด ไม่สบายใจง่าย 9. อาการปวดปัสสาวะบ่อยๆเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนที่มากขึ้น จะเป็นในระยะแรกๆและระยะหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดปัสสาวะเป็นประจำ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย ดังเช่นว่าม่าม้าบางบุคคลเป็นผดผื่น หรือ เป็นกระแล้วก็ฝ้าตามบริเวณใบหน้า - วิธีรับมือกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในแม่นั้น มีได้ตั้งแต่อาการเล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรงจนต้องนอนในโรงพยาบาล บางคนเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่มีท้องยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งเรามีเทคนิคการจัดการและบรรเทาอาการแพ้ท้องที่ม่าม้าตั้งท้องสามารถทำได้ง่ายรวมทั้งสำเร็จ สามารถเป็นสุขกับการมีท้องได้ ดังนี้คะ 1. ใส่เสื้อผ้าที่หละหลวมโปร่งสบาย เพื่อให้ร่างกายได้บรรเทาสุดกำลัง 2. งดเว้นเครื่องดื่มเย็น เสนอแนะดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วรุ่งเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดอยากจะอ้วกรวมทั้งขับลมได้ 3. ถ้าหากอยากกินอาหารรสเปรี้ยวเสนอแนะทานผลไม้รสเปรี้ยวมากยิ่งกว่าจะรำลึกถึงอาหารมักดองที่ไม่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์ตอนเวลาเช้าหลังตื่นนอน คุ้มครองปกป้องท้องว่างและลดลักษณะของการปวดแสบท้องและก็หลอดของกิน 5. ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และอาหารอุ่นๆสดใหม่เสมอ และ แบ่งมื้อของกินออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกติดตัว น้ำผลไม้ไว้ รับประทานเป็นของหวานระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจบาปที่มักจะทำความเครียดลดลง เป็นต้นว่า ฟังเพลง อ่านหนังสือสนุกสนานๆ 8. เลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมยวนใจ 9. หลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วห้ามลุกในทันที รอร่างกายปรับสภาพอย่างต่ำ 5 นาที และก็หาช่องทางพักหลับในตอนกลางวัน 10. หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนแออัด (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมากยิ่งกว่าปกติ นั้น มีข้อเสนอเพิ่มเติม เป็นให้ดูอาการและก็ระดับความร้ายแรงสำหรับในการแพ้ แล้วปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ค่ะอาการแพ้ท้อง 1.แม่ที่มีลักษณะอาการบางส่วน ดังเช่น อ้วก คลื่นไส้ แต่ยังพอทานได้ ควรจะทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เน้นย้ำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ตัวอย่างเช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง หรือ อาหารกลิ่นฉุนๆ 2.คุณแม่ที่มีอาการปานกลาง มีอาการตั้งแต่อ้วกรุนแรง เวียนหัวอยู่บ่อยๆและก็ทานอาหารได้น้อย เสนอแนะให้ไปขอคำแนะนำหมอ อาจจำเป็นต้องขอรับยาบรรเทาอาการ ดังเช่น ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับในการย่อยรวมทั้งขับลม ลดอาการจะอาเจียน อาการคนท้อง เป็นต้น 3.คุณแม่ที่มีลักษณะอาการรุนแรง จนถึงไม่สามารถที่จะรับประทานอาหารได้ มีลักษณะคลื่นไส้คลื่นไส้ทั้งวัน เมื่อยล้า จนกระทั่งน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดระยะเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและก็อาหารไม่เพียงพอ แนะนำให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากว่าบางทีอาจจำเป็นต้องนอนรักษาอาการในโรงหมออาทิเช่น ให้ น้ำเกลือทดแทนน้ำและเกลือแร่ เพราะเหตุว่าถ้าปลดปล่อยไว้จะทำให้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยค่ะ Source: บทความอาการคนท้อง http://www.konthong.com Tags : ครรภ์เป็นพิษ
|