หัวข้อ: 10 อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ ที่แม่ควรจะทราบและเตรียมความพร้อมรับมือ เริ่มหัวข้อโดย: seoonline12 ที่ มิถุนายน 10, 2019, 08:19:45 am อาการแพ้ท้อง ระหว่างท้อง กับ 10 อาการแพ้ท้องที่คุณแม่ควรจะทราบ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
(https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C.jpg) อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์ - แพ้ท้องดีกว่าไม่แพ้จริงไหม - อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่เป็นสุขที่เกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 80-90% ว่าที่คุณแม่ที่กำลังคิดแผนต้องการมีท้อง หรือ ม่าม้าที่กำลังตั้งครรภ์ก็เลยมีเรื่องที่หนักใจแบบเดียวกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งส่วนใหญ่มักมีอาการอาเจียนอ้วก เวียนหัวหัว เหนื่อยง่าย อ่อนแรงมากยิ่งกว่าปกติ แต่อาการพวกนี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์มากยิ่งกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความรุนแรงแตกต่าง และอาการแตกต่าง ซึ่งมีต้นเหตุการแพ้จาก อาการคนท้อง เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาการคนท้อง http://www.konthong.com 3 ต้นสายปลายเหตุ ดังต่อไปนี้ 1. ร่างกายหรูหราฮอร์โมนเอสโตรเจนรวมทั้งฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่รกสร้างสูงขึ้น 2. อาการไม่สบายใจระหว่างท้อง และก็สภาพความพร้อมเพรียงของร่างกายและจิตใจคุณแม่ 3. ปัจจัยอื่นๆดังเช่นว่า ระบบประสาทอัตโนมัติขาดตกบกพร่อง ทำให้สมดุลฮอร์โมนภายในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง - การแพ้ท้องก็มีข้อดีนะ- ถึงแม้การแพ้ท้องอาจทำให้ม่าม้ารู้สึกไม่สุขสบาย แต่การแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่ สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสภาพแวดล้อมของคุณแม่เพื่อคุ้มครองป้องกันอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการจะมีมากในตอน 3 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงๆที่สำคัญมากสำหรับการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก ตัวอย่างเช่น สมอง หัวใจ ปอด แขนขา เป็นต้น ร่างกายก็เลยไม่ยอมรับทั้งหมดทุกอย่างที่มีความคิดว่าเกิดอันตรายต่อเด็กทารกน้อยในท้องคุณแม่ ดังเช่นว่า เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นอาหารบางสิ่ง ฯลฯ อาการแพ้แบบงี้แม้จะสร้างความทรมาทรกรรมม่าม้าได้แม้กระนั้นก็เกิดเรื่องที่ดี ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยในครรภ์พวกเราจะมีความแข็งแรงและก็ปลอดภัยจากอันตราย เพราะเหตุว่าเป็นปฏิกิริยาการปฏิเสธอาหารที่เป็นพิษหรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้เป็นอันตรายของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ (https://www.konthong.com/images/9c7697a124ed8865c2a5eea155620e9e.gif) 10 อาการแพ้ท้องที่แม่ควรทราบและก็เตรียมตัวต่อกร 1. อาการแพ้ท้องในคุณแม่นั้น กำเนิดได้หลายอาการแล้วก็แตกต่างในแต่ละคน หรือคุณแม่บางท่านบางทีอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้ขึ้นอยู่กับต้นสายปลายเหตุของระดับของฮอร์โมน ความรู้สึกกังวล ตลอดจนภาวะความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังนี้ 2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เหม็นของกินบางจำพวก น้ำหอม บางโอกาสเหม็นกลิ่นเต่าป๋า กลับชอบกลิ่นอะไรบางอย่างเป็นต้นว่า กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ อาการคลื่นใส้อาเจียน ผะพอง ผะอม อึดอัดท้องและก็อกจนกระทั่งอยากจะอาเจียนออกมา แม้ว่าจะท้องว่าง 3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะทำให้กล้ามหูรูดหลอดของกินคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลถอยกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ และก็ในช่วงเวลาที่คุณแม่คลื่นไส้ รับประทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่อ้วกออกมาจะมีผลให้แสบหลอดอาหารและก็ขมที่ลิ้นได้ 4. ความชื่นชอบสำหรับในการกินเปลี่ยนไป อาทิเช่น ต้องการทานอาหารแปลกๆหรือ ของกินที่มีรสเปรี้ยว 5. อาการหมดแรง เนื่องด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามเนื้อภายในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง 6. อาการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป และก็การพักผ่อนที่ไม่พอ 7. อาการง่วงนอนตลอดเวลา ร่างกายอยากได้พักผ่อน 8. อารมณ์แปรปรวน จิตใจหวั่นไหว เครียด ตื่นตระหนกง่าย 9. ลักษณะของการปวดฉี่บ่อยๆมีต้นเหตุมาจากระดับฮอร์โมนที่มากขึ้น จะเป็นในขั้นแรกๆรวมทั้งระยะหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดท้องฉี่บ่อยๆ 10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย อาทิเช่นคุณแม่บางบุคคลเป็นผดผื่น หรือ เป็นกระแล้วก็ฝ้าตามใบหน้า - วิธีรับมือกับอาการแพ้ท้อง - อาการแพ้ท้องในม่าม้านั้น มีได้ตั้งแต่อาการนิดหน่อย ไปจนถึงรุนแรงจนถึงจำต้องนอนในโรงพยาบาล บางคนเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งท้องยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งพวกเรามีแนวทางการจัดการและบรรเทาอาการแพ้ท้องที่คุณแม่ตั้งท้องสามารถทำเป็นง่ายแล้วก็ได้ผล สามารถแฮปปี้กับการมีครรภ์ได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมโปร่งสบาย เพื่อให้ร่างกายได้บรรเทาสุดกำลัง 2. งดเว้นเครื่องดื่มเย็น ชี้แนะดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังตื่นนอนเวลาเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดคลื่นไส้รวมทั้งขับลมได้ 3. ถ้าเกิดอยากกินอาหารรสเปรี้ยวเสนอแนะทานผลไม้รสเปรี้ยวมากกว่าจะนึกถึงอาหารมักดองที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย 4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์ช่วงเช้าหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว ป้องกันท้องว่างและลดอาการปวดแสบท้องแล้วก็หลอดอาหาร 5. กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย และอาหารอุ่นๆสดใหม่เสมอ และก็ แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 5-6 มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม 6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกติดตัว น้ำผลไม้ไว้ กินเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด 7. หากิจกรรมที่มักจะทำระงับความเครียด ดังเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือบันเทิงใจๆ 8. หลบหลีกการใช้น้ำหอมหรือสินค้าที่มีกลิ่นหอม 9. หลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วห้ามลุกโดยทันที รอร่างกายปรับภาวะอย่างน้อย 5 นาที แล้วก็หาโอกาสพักหลับในช่วงเวลากลางวัน 10. เลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนคับแคบ (https://www.konthong.com/wp-content/uploads/2019/01/logo-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-272x90.png) ส่วนแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมากกว่าธรรมดา นั้น มีข้อเสนอเพิ่ม คือให้พิจารณาอาการรวมทั้งระดับความรุนแรงสำหรับการแพ้ แล้วปฏิบัติตนดังนี้คะอาการแพ้ท้อง 1.แม่ที่มีอาการนิดหน่อย อาทิเช่น อาเจียน คลื่นไส้ แต่ยังพอทานได้ ควรจะรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ย้ำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง หลีกเลี่ยงของกินรสจัด ของกินที่มีไขมันสูง หรือ อาหารกลิ่นแรงๆ 2.คุณแม่ที่มีลักษณะปานกลาง มีอาการตั้งแต่คลื่นไส้ร้ายแรง เวียนศีรษะอยู่เสมอๆแล้วก็กินอาหารได้น้อย เสนอแนะให้ไปหารือหมอ บางทีอาจจะต้องขอรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับในการย่อยและก็ขับลม ลดอาการจะอาเจียน อาการคนท้อง ฯลฯ 3.คุณแม่ที่มีลักษณะร้ายแรง จนกระทั่งไม่อาจจะทานอาหารได้ มีอาการอ้วกอ้วกทั้งวัน หมดแรง จนน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดระยะเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำรวมทั้งอาหารไม่เพียงพอ ชี้แนะให้ไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เพราะเหตุว่าอาจต้องนอนรักษาอาการในโรงพยาบาลยกตัวอย่างเช่น ให้ น้ำเกลือชดเชยน้ำและเกลือแร่ เพราะถ้าปลดปล่อยไว้จะทำให้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยขา แหล่งที่มา บทความครรภ์เป็นพิษ http://www.konthong.com Tags : อาการใกล้คลอด
|