หัวข้อ: ตำแหน่งที่ตั้งของห้องครัวควรหันไปในด้านที่รับแสงสว่างและก็ลมให้ผ่านเข้ามาในห้องค เริ่มหัวข้อโดย: xcepter2016 ที่ มิถุนายน 11, 2019, 10:55:26 am ทีมสถาปนิกมากฝีมือประสบการณ์สูงทั้งทั้งประเทศไทยและเทศ ออกแบบบ้าน ห้องนอน ห้องครัว ซ่อมซ่อมต่อเติม ต่อเติมห้องนอน คุยต่อรองได้
(http://www.completehome.co.th/images/intro_1373131572/3.png) ตำแหน่งของห้องครัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวเปิดแบบอยู่ข้างในตัวบ้านที่สามารถใช้พื้นที่ได้โดยตลอดหรือเลือกห้องครัวแบบปิด อาจตั้งอยู่นอกบ้าน เเต่ไม่ว่าจะครัวแบบไหนก็ควรหันไปในด้านที่รับแสงสว่างรวมทั้งลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่องประตู หน้าต่าง รวมทั้งช่องแสง รับเหมาต่อเติมบ้าน รีโนเวทให้บริการรับต่อเติมบ้าน[/i] ทิศของเเสงกับห้องครัว เเนวคิดหลักก็คือห้องครัวควรอยู่ในด้านที่มีเเสงสว่างส่องเข้าถึงได้ เพื่อให้เเสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรคต่างๆและไล่ความชื้นด้านในครัว โดยเฉพาะรอบๆอ่างล้างจานควรอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะได้ช่วยให้อากาศระบายรวมทั้งระบายกลิ่นต่างๆเวลาทำกับข้าว นอกนั้นยังทำให้ครัวเย็นสบาย ...มาดูผลจากการตั้งห้องครัวในเเต่ละทิศกันดีกว่า… - เเสงทางทิศเหนือให้ความสว่างกับห้องครัวได้ตลอดวัน เเต่ไม่เกิดความร้อน เพราะเหตุว่าไม่ใช่ทิศทางโคจรของดวงตะวัน - เเสงทางทิศใต้มักจะส่องห้องครัวในช่วงฤดูหนาว เเละจะให้เเสงพอเหมาะพอควรในฤดูร้อน การที่ทำช่องเเสงบนหลังคาด้านทิศใต้จะช่วยทำให้ห้องครัวได้รับเเสงในฤดูหนาวได้สุดกำลัง เนื่องจากว่าในฤดูหนาวพระอาทิตย์จะอ้อมไปทิศใต้ - เเสงทางทิศตะวันออก ครัวที่หันไปทางทิศนี้จะได้รับเเสงแดดตอนเช้า ทำให้ห้องได้รับเเสงสว่างรวมทั้งความร้อนด้วยเหตุว่าเป็นด้านที่ตะวันขึ้น - เเสงทางทิศตะวันตก ห้องครัวจะได้รับแดดบ่ายจนถึงเย็นก็จะไม่ค่อยสบายถ้าเกิดเข้าครัวในเดี๋ยวนี้ ถ้าเกิดมีหน้าต่างใช้มูลี่ปรับเเสงหรือม่านบัง หรือจะปลูกต้นไม้เพื่อลดแสงสว่างกับความร้อนก็ได้ ตำแหน่งที่สมควรของครัวในบ้าน โดยธรรมดาชาวเอเชียมั่นใจว่าตำแหน่งที่สมควรสำหรับครัวที่สุดในบ้านคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นด้านที่รับแสงสว่างและก็ลมได้อย่างเหมาะสม ส่วนถ้าหากเป็นความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จะถูกใจให้ห้องครัวอยู่ทางทิศตะวันออกและก็ทิศใต้ เนื่องจากว่าทางทิศตะวันออกห้องครัวจะได้รับเเสงแดดตั้งเเต่รุ่งเช้าถึงเที่ยงตรง เเละช่วงเวลาเย็นจะเย็นสบายเวลาทำกับข้าว ส่วนทิศใต้นั้นมีลมพัดผ่าน ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี สำหรับผู้ใดที่กำลังก่อสร้างบ้าน เดี๋ยวนี้คงจะตกลงใจเลือกได้เเล้วใช่มั้ยขาว่าจะสร้างครัวไว้ทางทิศไหนดี ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้เลย สิ่งสำคัญเลยก็คือแสงเเละลมต้องส่องผ่านเข้าไปในครัว เพื่อช่วยระบายอากาศ ไม่ให้กลิ่นหลงเหลือในครัวนะคะ เว้นเสียแต่ฮวงจุ้ยที่เหมาะกับสร้างบ้านแล้ว เจ้าของบ้านควรรู้ด้วยว่า ฮวงจุ้ยลักษณะไหน ที่ไม่สมควรไปก่อสร้างบ้านในบริเวณนั้น 1. มีกระแสลมแรงพัดผ่านตลอดระยะเวลา พลังของลมจะพัดพาทรัพย์สินเงินทองไม่ให้เหลือเก็บ แต่ถ้าเกิดไม่มีลมพัดเลย พลังงานที่ดีก็จะไม่หมุนวน ฮวงจุ้ยที่ดีคือมีลมพัดผ่าน อากาศถ่ายเทดี แต่ไม่ใช่พัดแรงตลอดระยะเวลา 2. มืดรวมทั้งเย็น แปลว่ามีพลังหยินมากจนเกินความจำเป็น กระตุ้นให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย รวมถึงเป็นที่อยู่ของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ดี ไม่สมควรพักอาศัยร่วมกับมนุษย์ 3. ทางชันพุ่งเข้าหาประตู ราวกับก่อสร้างบ้านบนปลายอาวุธ มีแต่ว่าอันตราย ไม่ใช่เรื่องดี 4. ถนนพุ่งเข้าบ้าน เป็นรูปแบบของทางสามแพร่งหรือทางผีผ่าน ยิ่งถนนยาว มีรถยนต์มาก ยิ่งอันตราย 5. ใกล้ทางโค้ง คล้ายรูปเคียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพาน หรือวงเวียน เห็นรถหรือสิ่งที่จะเข้ามาในบ้านได้ยาก อาจอันตรายอีกทั้งจากโจรลักขโมยและเป็นจุดดักพลังงานที่ไม่ดี 6. ประชิดด้วยอาคารสูง ทั้งยังซ้ายขวาหรือ หน้าข้างหลัง ในลักษณะราวกับคีบบ้านที่อยู่ตรงกลาง ไม่ดี เพราะว่าเป็นรูปแบบของโลง บ้านที่อยู่กึ่งกลางเป็นศพ ตาย ไม่มีวันฟื้นเท่ากับทำมาหากินไม่ขึ้น 7. มุมแหลมของบ้านข้างๆพุ่งเข้าหาตัวบ้าน ลักษณะนี้เป็นลักษณะของศรพิฆาต พลังของความประสงค์ร้ายต่างๆจะพุ่งเข้ามาที่บ้าน 8. ข้างหน้าบ้าน เป็นโรงพัก ศาลเจ้า เรือนจำสถานดับเพลิง สถานที่พวกนี้เป็นแหล่งรวมของเรื่องเดือดร้อนรวมทั้งความกังวลใจ ซึ่งจะส่งผลมาถึงคนในบ้านด้วย 9. ที่ดินทางเข้าน้ำ จัดว่าไม่เป็นมงคล เพราะว่าน้ำไหลตลอดเวลา เก็บทรัพย์สมบัติไม่ได้ อีกทั้งมีความเสี่ยงต่อการถูกกัดเซาะรวมทั้งน้ำท่วมอีกด้วย 10. มีต้นไม้ยืนต้น เสาไฟ หรือเสาหลัก ขวางตรงประตูหน้า ข้าวของเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งอวมงคล ไม่สมควรให้ตั้งอยู่หน้าบ้าน 11. มีลำคลอง ร่องน้ำ ไหลผ่านตัวบ้าน ทำให้เงินทองเสียหาย 12. มีแอ่งกึ่งกลางบ้าน หรือกลางตัวบ้านเป็นหลุมบ่อ กลางบ้านเป็นหัวใจของพลังงานในบ้าน ถ้ายุบหรือเป็นหลุมลงไปย่อมไม่เป็นมงคล ไม้แต่ละจำพวกมีคุณลักษณะต่างกัน จึงต้องควรรู้จักลักษณะเฉาพะตัวของไม้ที่นิยมใช้กันในบ้านพวกเรา เพื่อจะได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้แรงงาน โดยเรียงลำดับความแข็งแรงของแก่นไม้จากมากไปน้อย ไม้แดง แก่นไม้มีสีแดงอ่อนๆถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอสมควร เนื้อเหนียวแข็งแรงและก็แข็งแรง แม้กระนั้นยืดหดตัวออกจะมาก จึงจำเป็นต้องผ่านการอบมาอย่างดี นิยมใช้ก่อสรา้งในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง ยกตัวอย่างเช่นพื้น วงกบของประตูหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ ถ้าหากปูพื้นต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนักมากยิ่งกว่าไม้ชนิดอื่น ไม้ประดู เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐเข้มมีความแข็งแรงใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลายงามเนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวแล้วก็ชักเงาได้ดิบได้ดี แต่ว่าคนไม่ค่อยถูกใจเพราะบางครั้งสีเป็นจ้ำ ไม้เต็ง แรกๆเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วจะเบาๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ปนแดง เนื้อหยาบแต่สม่ำเสมอ นิยมใช้ทำองค์ประกอบอย่างคาน ตง รวมทั้งพื้น ในตลาดมีทั้งไม้เต็งไทยและไม้เต็งมาเลย์ แม้กระนั้นไม้เต็งไทยจะทนทานกว่า ไม้มะค่า แก่นไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่รวมทั้งจะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งเอาไว้นาน มีเส้นเสี้ยน เนื้อออกจะหยาบ แม้กระนั้นบ่อย เป็นมันเลื่อมมองเห็นลายไม้ชัดเจน ทนมอดปลวกเจริญ มีการยืดหดค่อนข้างน้อย ไม้สัก (บางหนังสือเรียนจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน) แก่นไม้มีสีเหลืองทองคำรวมทั้งเบาๆกลายเป็นสีน้ำตาลและก็น้ำตาลแก่ มีกลิ่นเสมือนหนังฟอกเก่าๆมีคุณลักษณะเด่นที่ลายไม้งามแต่ถ้าใช้งานหนักๆจะเป็นรอยง่ายควรต้องเคลือบด้วยวาร์นิชที่ช่วยทำให้ไม้ทนการขัดถูเพิ่มมากขึ้น พื้นไฟเบอร์ปูนซีเมนต์ เป็นการผสมเส้นใยไม้รวมทั้งปูซีเมนต์ก็เลยมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน รวมทั้งปลวกไม่รับประทาน เนื้อเหนียวเหมือนไม้สามารถทำสีได้ตามอยากได้ เหมือนกับไม้ อายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,000-1,300 บาท ไม้ผสมพอลิพรอพิลีน(PE) คือสิ่งของที่สร้างจากเยื่อไม้ผสมกับวัสดุสังเคราะห์ชนิดพลาสติกหรือพอลิพรอพิลีน (PE) ทำให้มีผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น และคุณลักษณะเหมือนไม้ แต่ว่าแข็งแรงอย่างพลาสติกผู้ผลิตเสร็จจากโรงงาน แล้วก็มีระบบการต่อว่าดตั้งที่สะดวก ผู้ผลิตบางรายออกแบบให้มีทั้งตัวล๊อค ตงแล้วก็ไม้ปิดด้านข้างสำเร็จรูป อายุุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละราวๆ2,000 บาท ไม้สน เป็นไม้นำเข้า ซึ่งมีให้เลือกอีกทั้งไม้สนโตเร็ว (วงปีห่าง) ที่นิยมนำมาปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ และก็ไม้สนโตช้า (วงปีถี่กว่า) ที่นิยมปลุกในประเทศแถบยุโปรตอนเหนือ แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ว่าก็ผ่านการอบ อาบน้ำยาคุ้มครองแมลง และเพิ่มสารเคมีให้มีความคงทน ก็เลยสามารถใช้ภายได้ มีลักษณะเด่นที่มีสีอ่อน รวมทั้งสีสันจะเปลี่ยนเป็นสีอมเทาดูงามไปอีกในลัษณะหนึ่ง อายุการใช้งาน10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท แผ่นไม้พื้นระเบียบปฏิบัติสำเร็จรูป เป็นการนำไม้เนื้อแข็งมาติดบนแผ่นตะแกรงพลาสติกพอลิพรอพิลีน มีระบบล็อกระหว่างแผ่น ส่วนมากมีขนาดมาตราฐาน 30 x 30 และ 45 x 45 ซม. สามารถวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้องเดิมได้โดยทันที ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและดีไซด์ ราคาแผ่นละ 150-300 บาท พื้นไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต(laminated Flooring) เป็นหลักไม้สำเร็จรูปที่นำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนเรสิน เพื่อคุ้มครองปกป้องการขีดข่วน รวมทั้งการยืดหดตัวของแผ่นไม้มีทั้งยังประเภทผิวหน้าเรียบแล้วก็จำพวกมีผิวพิ้นสัมผัส พื้นไม้ปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์(Wood Veneer Flooring) เป็นไม้ปูพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับไม้ลามิเนตแม้กระนั้นมีความแข็งแรงน้อยกว่า มีผิวหน้าเป็นแผ่นวิเนียร์ไม้จริง รองด้วยแผ่นไม้อัดหรือไม้ HDF (High Desity Fiber Board) ฉาบผิวหน้าด้วย น้ำยาฉาบแข็งหรือสารคุ้มครองป้องกันรีงสียูวีเพื่อความทนทาน พิื้นไม้จริงเคล็ดลับเอนจิเนียร์(Prenished Engineered Floor) วัตถุดิบ ด้วยการใช้ผิวหน้าไม้จริงรวมทั้งตามติดด้านล่างด้วยแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF) หรือใช้ไม้จริงที่มีคุณภาพรองลงมาวางซ้อนกันหลายๆชั้นแล้วอัดประสานด้วยการพร้อมอัดน้ำยากันปลวกแล้วก็ฉาบข้างหลังไม้เพื่อปกป้องความชื้้น พื้นไม้จริงสำเร็จรูป (Prenished Solid Floor) เป็นไม้จริงทั้งแผ่นที่ได้พัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยผ่านแนวทางการอบแห้ง อัดน้ำยากันปลวกทำสีและก็เคลือบผิวหน้ามาจากโรงงานพร้อมออกแบบระบบการคุ้มครองป้องกันความชุ่มชื้นและก็การต่อไม้เข้าลิ้นให้จัดตั้งสบายขึ้นก็เลยติดตั้งได้รวดเร็ว ลดปัญหาไม้หดหรือปิดตัว อีกทั้งมีลวดลายและก็สีสันให้เลือกมากมายด้วยเหตุว่ามีอีกทั้งไม้จากยุโรป สหรัฐฯรวมทั้งเอเซีย ราคาพื้นไม้สำเร็จรูป ตารางเมตรละ 700-2000 บาท แผ่นไม้ไผ่อัด สร้างขึ้นจากไม้ไผ่ในประเทศ โดยนำมาผ่านขั้นตอนดูดอากาศ อัพน้ำยา แล้วก็อบแห้ง เพื่อเนื้อไม้แน่นรวมทั้งอยู่ตัว จึงมีความแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปลอดแมลงกันรับประทาน นำมาผ่าซีกรวมทั้งไสตามขนาดที่อยากได้ อัดผสานด้วยกาวในระดับความร้อนสูงให้เป็นแผ่น และนำไปแปรรูปใช้งาน ได้มากมาย ทั้งกรุผนัง ทำพื้นไม้ ฝ้าเพดานเครื่องเรือน รวมทั้งหลังคา ราคาตารางเมตรละ1,000-3,000 บาท สิ่งของทดแทนไม้พร้อมโครงคร่าวสำเร็จรูป ทำมาจากไม้ผสอมพอลิพรอพิลีน(PE) ออกแบบให้มีหลายขนาดพร้อมโครงคร่าวๆ สามารถนำมาประกอบตามแบบที่ปรารถนาได้ เหมาะกับทำผนังและฝ้าเพดานทั้งยังข้างในและก็ภายนนอกราคาตารางเมตรละ 1,500 -2,000 บาท แผ่นฝาผนังไม้สำเร็จรูป เป็นไม้จริงและก็โครงพร้อมจัดตั้ง ขนาด 60×60 ซม. มีทั้งชนิดฝาผนังโปร่งและก็ฝาผนังทึบ สามารถใช้ทำฝาผนังบังตา ผนังตกแต่งทั้งยังด้านในแล้วก็ด้านนอก ราคาตารางเมตรละ 3,500-4,300 บาท ติดต่อใช้บริการได้ที่: บริษัท คอมพลีทโฮม COMPLETE HOME จำกัด รับ: renovateบ้าน และ สำนักงาน โทรศัพท์: 0959502635 Email: completehomecontact@gmail.com เครดิต : http://www.completehome.co.th/ Tags : รับต่อเติมบ้าน, ตกแต่ง , house extension
|