หัวข้อ: กรรมวิธีทำฐานรากด้วยเสาเข็มเจาะแบบเปียก เสาเข็มเจาะแบบเปียกเป็นอย่างไร มาศึกษากระบวนกา เริ่มหัวข้อโดย: Navaphon11991 ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 10:38:35 am กระบวนการทำฐานรากด้วยเสาเข็มเจาะแบบ Wet Process
เสาเข็มเจาะแบบเปียกมีวิธีสร้างอย่างไร มาเข้าใจกรรมวิธีกันเถอะ 7 ขั้นตอนเสาเข็มเจาะแบบเปียกที่ท่านควรรู้ เสาเข็มเจาะเปียก (Wet Process) เป็นกระบวนการทำฐานรากในที่ สำหรับอาคารขนาดใหญ่ โดยตัวเสาจะมีขนาดตัวเสาอยู่ราวๆ 80 ซม. ถึง 2 ม. โดยเจาะไปที่ระดับความลึกตั้งแต่ 50-70 เมตร กระบวนการการทำเสาเข็มเจาะแบบ Wet Processมีดังนี้ 1.หาพิกัดบอกตำแหน่งของเสา และหาช่องว่าง off set ของเสา ที่ที่จะบ่งบอกที่ตั้งในการตอกCasingต่อไป 2.การปรับหน้าดินและการขุดเจาะนำ เป็นการปรับหน้าดินเพื่อเตรียมไซต์ในการทำฐานรากและขุดนำเพื่อให้ตอกปลอกเหล็ก ได้สะดวกขึ้น และการขุดนำ จะขุดให้ได้ระดับโดยประมาณ 1-3 ม. และมีขนาดราวๆปลอกเหล็กที่จะตอกลงไป 3.ปักปลอกเหล็กกันดิน ลึก 15-18 เมตร โดยใช้เครื่องกดปลอกเหล็ก Vibro Hammer กระทุ้งลงพื้นดิน ตรงตำแหน่งที่ทำการ off set ไว้ โดยต้องกำหนดดิ่งให้ตรงทำมุมฉากกับพื้นดิน 4.การเจาะในช่วง 20 เมตร แรกจะให้หัวเจาะติดเครน จากนั้นจะใช้หัวเจาะเป็นแบบถังเจาะเก็บดิน เจาะให้ถึงขั้นที่ได้คำนวณไว้ โดยขั้นตอนนี้จะทำการใส่สารละลายเบนโทไนต์ เคลือบผนังหลุมเจาะช่วยสร้างแรงดันภายใน ต่อจากนั้นจะตรวจสอบความลึกของหลุมเจาะโดยใช้การวัดโดยแถบวัดระยะ และวิเคราะห์คุณลักษณะของสารละลายพยุงดินภายในหลุม โดยวิธีการดึงขึ้นมาทำการทดลองว่าได้ตามค่าควบคุมหรือไม่ 5.วางเหล็กผูกลงหลุมขุดเจาะ ซึ่งการใส่เหล็กประสานภายในจะช่วยให้เสาแบบเจาะมีกำลังต้านเพิ่มขึ้น แต่กระนั้นเหล็กเสริมคอนกรีตต้องมีการทดสอบคุณลักษณะว่าตรงตามมาตรฐาน มอก. หรือไม่ 6.กระบวนการการเทโฟมและเทคอนกรีต ใส่เศษโฟมจะเป็นกันชนคอนกรีตและสารละลายโดนกัน ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของคอนกรีต จากนั้นจึงทำการใส่คอนกรีตผ่านท่อ trimmie โดยคอนกรีตจะหล่นไปยังปลายหลุม และดุนสารละลายโพลีเมอร์ ออกมายังปากหลุม 7.การถอด casingออก ซึ่งกระบวนการนี้เวลาที่ดึง casingออกแล้ว คอนกรีตที่เทลงไปจะมีการยุบตัวนิดหน่อย ซึ่งวิศวกรจะทำการเทคอนกรีตเผื่อการหดไว้แล้ว ในส่วนการตรวจสอบมาตรฐานของเสาเข็มเจาะนั้น จะต้องปฏิบัติการตรวจสอบทั้งในระหว่างที่ดำเนินการเจาะเสา โดยใช้กรรมวิธีวิเคราะห์ ดังเช่น ตรวจสอบความดิ่งของเสาเข็มเจาะด้วยดิ่ง ดูหลุมเจาะว่า โป่ง คด เอียงหรือไม่ เป็นต้น และหลังจากทำเสาเจาะแล้วเสร็จ จะต้องวิเคราะห์การับน้ำหนักของเสาเข็มเจาะอีกครั้ง โดยการทดลองการรับน้ำหนักบรรทุก การทดสอบการรับน้ำหนักด้วยวิธี (Static pile test) เป็นต้น ในปัจจุบันตลาดเสาเข็มเจาะขยายตัวอย่างยิ่ง มีผู้รับเหมารับงานสร้างเสาเข็มเจาะ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด บางแห่งมีประสบการณ์นับ 10-20 ปี มีเจ้าหน้าที่ประจำ บางเจ้าเป็นบริษัทเล็กต้องว่าจ้างนายช่างมาบังคับการเป็นงานๆ ไป อย่างไรก็ดีที่ต้องระมัดระวังคือกลุ่มรายย่อยที่เป็นลูกจ้างเก่าหันมารับงานเอง ซึ่งผู้รับเหมากลุ่มนี้มีต้นทุนการทำไม่สูงมาก ไม่มีพื้นฐานวิศวกรรม มีแค่เพียงประสบการณ์ ซึ่งค่อนข้างมีความเสี่ยงมากทีเดียว กระนั้นส่วนใหญ่แล้วบริษัททำเสาเข็มเจาะจะไม่ได้รับงานจากผู้ใช้โดยตรง แต่จะเป็นการรับงานมาจากผู้รับเหมาหรือผู้ประมูลงานมาอีกต่อหนึ่ง บางทีผู้บริโภคก็ไม่ได้รู้ว่าผู้รับเหมาก่อสร้างส่งต่องานให้กับบริษัททำเสาเข็มเจาะที่มีคุณภาพดีเพียงใด ซึ่งหากเป็นไปได้ ให้ท่านตรวจสอบดูว่าผู้รับเหมาก่อสร้างได้จ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรงหรือไม่ เพราะงานฐานรากเป็นงานที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก การได้บริษัทที่มีประสบการณ์ น่าเชื่อถือมาทำ จะได้งานที่มีคุณภาพ และปลอดภัยมากกว่า หากโครงสร้างในส่วนฐานของที่อยู่อาศัยไม่ดี หรือวิศวกรขาดความชำนาญในการดีไซน์ฐานรากแล้ว อาจจะส่งผลพวงต่อการการทรุดตัวของตึกได้ได้ เสาเข็มเจาะราคา[/b]มิตรภาพ (https://showss.net/images/2015/06/21/----099-361-6546-----1.jpg) Tags : เสาเข็มเจาะ,เสาเข็มเจาะราคา,เข็มเจาะ
|