|
หัวข้อ: ร้านอุปกรณ์ อุปกรณ์สำรวจ กล้องสำรวจมือหนึ่ง กล้องtotal station งานตรวจเส้นชั้นคว เริ่มหัวข้อโดย: Jeatnarong9898 ที่ กรกฎาคม 03, 2019, 07:00:46 am ร้านค้าเครื่องมือ อุปกรณ์สำรวจ กล้องสำรวจ กล้องtotal station งานสำรวจเส้นชั้นความสูง รังวัดที่ดิน พร้อมส่งทั่วไทย กล้องสำรวจมือสอง ราคาถูก ทุกชนิด, จัดส่งพัสดุสินค้า นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการซ่อม-สอบเทียบกล้องสำรวจ
การสำรวจเพื่อการก่อสร้างอาคาร สามารถที่จะแบ่งได้ 2 ขั้นตอนด้วยกัน คือ 1. การสำรวจเพื่อการออกแบบ เพื่อให้ฝ่ายวางแบบนำไปออกแบบ ซึ่งข้อมูลที่ต้องการทราบ มีดังนี้ 1.1) ขอบเขตของพื้นที่แล้วก็ระดับความสูงของพื้นที่ 1.2) ถนนหนทาง ขอบถนนหนทางรวมทั้งผิวจราจรเป็นการตรวจสอบภาวะเส้นทางเข้าออกโครงการ ส่งผลเมื่อต้องนำวัสดุอุปกรณ์เข้าโครงการถ้าหากเข้าออกไม่สบายอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา 1.3) สิ่งสาธารณูปโภค ดังเช่นว่า ท่อน้ำประปา , สายไฟฟ้า , ท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำทิ้ง , เพื่อสำหรับใช้งานในระหว่างการก่อสร้าง 1.4) ตึกที่อยู่ใกล้กับสถานที่จะก่อสร้างเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงแนวแล้วก็ระดับสำหรับในการก่อสร้าง 1.5) สภาพการรับน้ำหนักของพื้นดิน หรือ ลักษณะของผิวดินหลังจากวางแบบอาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงนำมาซึ่ง การสำรวจในแบบที่ 2 2. การสำรวจเพื่อการก่อสร้าง การสำรวจขั้นนี้หากเป็นการสร้างตึกขนาดใหญ่ จะต้องตรวจ ดังนี้ 2.1) ตรวจภาวะของตึกที่อยู่ใกล้ ดังเช่น ลักษณะ ขององค์ประกอบ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะได้รับความสูญเสียในขณะที่กระทำก่อสร้าง ดังเช่น การตอกเข็ม ซึ่งจะก่อให้เกิดคลื่นของความสะเทือน ทำให้อาคารบ้านเรือนรอบกายมีการยุบและก็พังได้ 2.2) ค่าระดับของสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่แล้วนั้น รวมถึงสิ่งสาธารณูปโภค และรูปแบบของผิวจราจร 2.3) การกำหนดระยะและก็หมุด ควบคุม ต่างๆตัวอย่างเช่น Base lines , Offset แล้วก็หมุด BM โดยอ้างอิงจากแบบก่อสร้างที่ได้ทำดีไซน์ 2.4) หลังจากทำการกำหนดระยะและก็หมุด ควบคุมต่างๆเป็นที่เป็นระเบียบ ก็เลยเริ่มปฏิบัติงานก่อสร้างอาคารถัดไป กล้องระดับ CST/Berger SAL-24 (http://www.p1instrument.com/UploadImage/b35a3911-b34c-4e6c-914f-17c4087e1208.jpg) กล้องระดับอัตโนมัติ AUTO LEVEL CST/Berger SAL-24 ระบบกล้องเล็ง ระบบเห็นภาพตั้งตรงตามธรรมชาติ กำลังขยายของเลนส์ 24 เท่า ขนาดความกว้างของภาพ 100 เมตร 2.6 เมตร1 องศา 20 ลิปดา ระยะมองเห็นภาพใกล้สุดไม่เกิน 0.4 เมตร ค่าตัวคูณคงที่ 100 ระบบอัตโนมัติ ( Compensator ) +/- 15 ลิปดา ความละเอียดในการทำระดับในระยะ 1 กม. +/- 3 มม. ระดับน้ำฟองกลมมีความไว 8 ลิปดา ต่อ 2 มิลลิเมตร มีจานองศาอ่านมุมราบ 360 องศา มีขีดกำกับทุกๆ 1 องศา มีโครงสร้างกันน้ำ(Water Proof) - อ่านค่ามุมโดยตรง 1 องศา ระยะการตรวจเช็ค ทุก 6เดือน การรับประกัน 1 ปี พร้อมบริการพิเศษจากทางร้าน นิยามการสำรวจ การสำรวจ เป็นศาสตร์ของกล่าวโทษสัมพันธ์ อยู่บนดิน แล้วก็ใต้ดิน โดยวิธีวัดทางตรงแล้วก็ทางอ้อม การประมาณแนวทาง การหาค่าระดับซึ่งก็จะ เป็นการรังวัดมุม รวมทั้งการรังวัดระยะพื้นฐาน ของการสำรวจ ด้วยเหตุนั้นการที่จะศึกษาเล่าเรียนวิชาสำรวจจะต้อง มีความสามารถทาง คณิตแล้วก็ ฟิสิกส์เป็นอย่างดี
1.การสำรวจบทบังคับแผ่นที่ เป็นการตรวจสอบทางราบ รวมทั้งทางดิ่งรวมถึงการสมมุติเป็นการตรวจสอบแนวทางต่างๆ 2.การสำรวจกรรมสิทธ์ที่ดิน 3.การสำรวจตำแหน่งที่ตั้ง เป็นการสำรวจเพื่อหา ลักษณะ ผิวเจอเราจะได้แผนที่ภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของการสำรวจอย่างย่อๆ - สมัยโบราน (Ancient Times) ประวัติศาสตร์การสำรวจในยุคเริ่มต้นได้รุ่งโรจน์ขึ้นควบคู่มากับวิชาเลข ตามจริงแล้ววิชาคณิตศาสตร์ ได้เจริญขึ้นเพราะการใช้การคำนวณในงานธุรกิจการค้า ซึ่งติดต่อซื่อขายกันในอดีตกาล ตัวอย่างเช่นการกำหนดเขตที่ดิน แล้วก็การวัดที่ดินเพื่อทราบเนื้อที่ ความเกี่ยวข้องระหว่างเลขรวมทั้งการสำรวจนั้นได้ปรากฏอยู่ในคณิตสาขาที่ดั้งเดิมที่สุดหมายถึงเรขาคณิต (Geometry) ซึ่งมาจากภาษากรีก แสดงว่า การประเมินที่ดิน (Earth Measurement) - สมัยอียิปต์ (Egyptians) เป็นชาติที่รุ่งเรืองมานานแล้ว ในยุคนั้นอียิปต์ปกครองโดยมีฟาโรห์เป็นประมุข จัดว่าที่ดินทั้งสิ้นเป็นของฟาโรห์ (Faroh) แต่ได้แบ่งที่ดินเหล่านั้นให้แก่เจ้าขุนมูลนาย เจ้าขุนมูลนายก็ได้แบ่งต่อๆลงไปจนกระทั่งพลเมือง โดยเจ้าขุนมูลนายเก็บภาษีจากราษฎรตามปริมาณเนื้อที่ดินที่ยึดมั่น การนี้ช่างตรวจ(surveyor) เป็นผู้วัดที่ดินและก็พื้นที่การประเมินชาวอียิปต์ได้ใช้เชือกวัด เรียกว่า Harpedonaptae or Rope Stretchers เชือกนี้ยาวเป็นมาตรฐาน มีอยู่ 12 ตอน แต่ละตอนทำเป็มปุ่มไว้ แล้วแบ่ง 12 ช่วงออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ ให้ตอนแรกยาว 3 ปุ่ม ช่วงลำดับที่สองยาว 4 ปุ่ม ช่วงที่สามยาว 5 ปุ่ม เมื่อจะวัดเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก วัดแล้วก็ใช้ไม้ปักไว้เป็นเขต ถัดมาได้ใช้แก่นไม้ปักเพราะมั่นคงแข็งแรงดี น้ำในแม่น้ำไนล์ท่วมไม่พัดพาไป ไม่ต้องรังวัดกันเสมอๆ นอกเหนือจากนี้ ชาวอียิปต์ยังสามารถคำนวนพื้นที่วงกลมได้อีกด้วย คือ กำหนดให้ด้านยาวของเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 ส่วน แล้วลบออกเสีย 1 ส่วน ที่เหลือ 8 ส่วนยกกำลังสอง ก็จะเป็นหลักที่ของวงกลม และก็กำหนด เท่ากับ 3 1605 ซึ่งใช้ถูกต้องกว่าพวก Babylonians รวมทั้ง Hebrews ซึ่งใช้ค่าของ = 3.0000 ในการสร้าง Pyramids ก็ได้วางตำแหน่งให้ชี้ตรงไปทางทิศเหนือ ซึ่งหมายความว่าการคำนวนด้านททางในทางดาราศาสตร์ในยุคนั้นเริ่มใช้กันแล้ว Pyramids และสิ่งก่อสร้างอันอื่นๆชอบสร้างขึ้นเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก โดยอาศัยอัตส่วน 3:4:5 - สมัยชาติบาบิโลน (Babylonians) ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์ (Astronomy) ไว้มาก ได้ให้ชื่อกรุ๊ปดาวต่างๆไว้หลายชื่อ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการตรวจสอบ เขามีความสามารถทางด้านนี้มากยิ่งกว่าทางคณิต หรือการสำรวจ อย่างไรก็ตามในยุคเริ่มแรกนั้น เขารู้ดีว่ารัศมีของวงกลมนั้นสามารถที่ปรับใช้กับเส้นรอบวงได้ โดยกำหนดให้ ชยา (Chord) มีทั้งหมด 6 ชยา และก็แต่ละชยาแบ่งเป็น60 เขาแบ่ง 24 ชั่วโมง ออกเป็น 24ชั่วโมง 1 ชั่วโมงแบ่งได้ 60 นาที 1 นาทีแบ่งได้ 60 วินาที ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้จักแบ่ง 1 วงกลมออกเป็น 360 แต่ละองศาเทียบเคียงเป็นวันที่ล่วงไป 24 ชั่วโมงตามการเดินของดวงตะวัน ตามทางเดินระหว่างหมู่ดาว เราทราบว่าวัฏจักรของวันใน 1 ปีมากยิ่งกว่า 360 วัน - ยุคชาติกรีก (Greek) ได้นำไปสู่วิชาการต่างๆขึ้นหลายชนิด อีกทั้งในทางทางวิทยาศาสตร์ เลขคณิต การแพทย์ ภูมิศาสตร์ ฯลฯ ในด้านการสำรวจนั้นความรู้ทางเรขาคณิต และการประมาณหาเนื้อที่ (Measuration) ของชาวอียิปต์ เมื่อตกมาถึงมือของนักปรัชญาชาวภาษากรีก ก็ได้มีการสร้างสรรค์ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น นักปราชญ์ Plato ได้พูดว่า “ใดๆที่พวกเราชาวกรีกได้รับมา พวกเราก็จะเปลี่ยนแปลงจนถึงสมบูรณ์แบบ” ดังต่อไปนี้ หลักการ 3:4:5 ที่อียิปต์ใช้เชือกวัดที่ดิน Pythagoras ก็ได้สร้างงเป็นแนวความคิดที่มีชื่อเสียงขึ้นเรียกว่า “Pythagoras’ Theorem” แต่ว่าระบุชื่อของ Euclid และ Archimedes ความรุ่งเรืองอย่างหนึ่งที่ชาวภาษากรีกได้ให้ไว้ ก็คือ ชาวภาษากรีกได้ให้ความรู้ความเข้าใจทางคณิตไว้มาก แต่ว่าให้ความรู้ใดการสำรวจไว้น้อย มีเครืองมือประเภทหนึ่งซึ่งชาวกรีกชื่อ Heron พักอยู่ในเมือง Alexandria ระหว่าง 150-180 B.C. ได้ประดิษขึ้นชื่อว่า “Dioptra” และก็มีหนังสือชื่อ“Dioptra” ประกอบการใช้เครื่องไม้เครื่องมือจำพวกนี้ หนังสือเล่มนี้มีหลายเรื่องซึ่งน่าสนใจ ที่มีชื่อมากก็คือ ขั้นตอนการคำนวนพื้นที่ ของรูปสามเหลี่ยมอะไรก็ตามเมื่อรู้ด้าน3 ด้าน กล้องวัดมุมและก็การใช้งาน(Introduction to Theodolite and usages) งานสำรวจภาคสนาม ปริมาณที่อยากได้รังวัดเก็บเนื้อหา ประกอบดว้ยปริมาณต่างๆตัวอย่างเช่น ระยะลาด(Slope Distance, OC) ระยะราบ (Horizontal Distance, OB) ระยะดิ่ง (Vertical Distance, CB) มุมราบ(Horizontal Angle) มุมดิ่ง (Vertical Angle) มุมดิ่งบน (Zenith Angle) โดย ค่าที่วัดไดใ้นสนามสามารถน ามาค านวณปริมาณอื่นได้โดยอาศัยความข้องเกี่ยวทางเรขาคณิต ซึ่งในงานสำรวจรังวัดมุม ก็เป็นจำนวนหน่ึงที่มีความสำคัญ ในเชิงเรขาคณิต การประเมินมุมจึงเป็นขั้นตอนการที่ส าคัญ สำหรับในการตรวจสอบภาคสนาม แล้วก็อุปกรณ์ที่ใชใ้นการวัดมุมไม่ว่า จะเป็นมุมราบหรือมุมตรง เรียกว่า “กล้องสำรวจ”(Theodolite) ภารกิจหลักของการสำรวจ Works design (การออกแบบ) เป็นขั้นตอนที่รับข้อมูลมาจากการสำรวจ มีการออกแบบโค้งในแต่ละลักษณะมีการกำหนดขนาดและวัสดุในการก่อสร้าง โดยทำการคำนวณจากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ อาชีพและสาขาวิชาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคลิกภาพ วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering) เป็นศาสตร์รวมทั้งเทคโนโลยีที่เกี่ยวพันกับการสำรวจ บันทึก ประมวลผล วิเคราะห์ เผยแพร่ รวมทั้ง การใช้แรงงานสารสนเทศที่เกี่ยวพันกับตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นเชิงภูมิศาสตร์ (ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนผิวโลก) อวกาศ แล้วก็ใต้ดิน วิศวกรรมตรวจมีสาขาวิชาต่างๆที่เกี่ยวข้องกันเพื่อรู้เรื่องลักษณะแบบจำลองของการเกิดทางกายภาพต่างๆและสามารถถ่ายทอดสิ่งพวกนั้นลงมาเป็นข้อมูลรูปแผนที่ที่มีความถูกต้องรวมทั้ง น่าไว้ใจทางตำแหน่งรวมทั้งข้อมูลอธิบายการเกิดนั้นๆสาขาวิชาวิศวกรรมตรวจมี - การรังวัดระยะใกล้ด้วยภาพถ่ายทางอากาศ(Close range photogrametry) - การรังวัด - ระบบภูเขามิสารสนเทศ (Geo-Information System, GIS) - การรังวัดด้วยสัญญาณระบบดาวเทียมนำครั้ง (Global Navigation Satellite System, GNSS) - การรังวัดรวมทั้งทำแผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศ (Digital Photogrammetry) - การรังวัดรวมทั้งทำแผนที่จากภาพดาวเทียมเนื้อหาสูง (High Resolution Satellite Imagery) - การสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) - การเขียนแผนที่ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-assisted Mapping) - งานรังวัดขั้นสูง (Geodetic Surveying) รวมทั้งงานรังวัดความละเอียดสูง (High Precision Measurement) ช่างเทคนิคการสำรวจ (Survey Technician) สภาพการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ ทำงานทั้งใน และนอกสถานที่ทำงานในการสำรวจสภาพพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย อาจต้องปีนป่ายในที่สูงหรือบุกป่าฝ่าดง ทำงานกลางแดดหรือฝน ต้องแบกอุปกรณ์ในการสำรวจ เช่น กล้องรังวัด เข็มทิศ ต้องคิดคำนวณ สภาพการทำงานหนักปานกลาง ต้องใช้ความอดทนต่อสภาพความร้อน และบางโอกาสทำงานตามลำพัง ต้องใช้ความระมัดระวัง และรอบคอบสูงพอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน บางครั้งต้องทำงานเกินเวลาต้องปฏิบัติงานทั้งในสำนักงาน และกลางแจ้ง อาจจะต้องประสานงานกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่องานการสำรวจคุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ อยากเป็นนักธรณีวิทยา? สภาพการทำงานของนักธรณีวิทยาล้วนแต่ต่างกันออกไปตามหน้าที่ข้างต้น มีการทำงานในห้องทำงาน แล้วก็การออกตรวจสอบภาคสนาม ซึ่งบางทีอาจจะจำต้องออกสำรวจภาคสนามนานนับเดือน ในพื้นที่ไกลห่าง ในแล้วก็ต่างแดน ทั้งบนบกแล้วก็กึ่งกลางทะเล ถ้าเกิดเป็นงานในบ่อแร่บางทีก็อาจจะจำต้องปฏิบัติงานใต้ดินอีกด้วย ซึ่งแต่ละสถานที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง รวมทั้งอาจจะเป็นผลให้เกิดความตึงเครียดได้ ดังนั้นคนที่พึงพอใจในอาชีพนักธรณีวิทยาที่ดีควรมีจิตใจมั่นคงไม่ท้อถอย ชอบท่องเที่ยว เสี่ยงภัย ขยันขันแข็ง สุจริต มีวินัย มีความคิดเริ่ม มีความจำดี ชอบสังเกต สุขภาพแข็งแรง อดทน เรียบง่าย สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ดิบได้ดี ลักษณะการเล่าเรียนธรณีวิทยาเป็นอย่างไร? การเล่าเรียนการสอนเป็นลักษณะการบรรยายในห้องเรียน รวมทั้งห้องปฏิบัติการ ร่วมกับการออกภาคสนามในสถานที่ต่างๆในระหว่างภาคการศึกษา รวมทั้งช่วงปิดภาคการศึกษา รายละเอียดมีการท่องจำค่อนข้างเยอะพอสมควร โดยเฉพาะการศึกษาเกี่ยวกับแร่ หิน และก็ซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐาน มีการคำนวณบ้างสุดแต่รายวิชา ธรณีวิทยาเป็นวิชาความสามารถที่ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ บางทีอาจจะจำเป็นต้องทำงานในห้องทดลองนอกเวลาเรียนเพิ่มเติมอีก มีการประมวลผลการทำงานเป็นกลุ่มรวมทั้งลำพัง ในรูปแบบของรายงาน การบ้าน การทำแผนที่ รายงานการสำรวจ การเขียนแบบ วาดภาพระบายสี การนำเสนอหน้าชั้นเรียน งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยค้นคว้าอิสระ การสอบที่มีทั้งการสอบข้อเขียนเล่า สอบปากเปล่า และก็การสอบแบบจับเวลา การศึกษาต่อธรณีวิทยาในระดับสูง? บัณฑิตที่จบปริญญาตรี จากสาขาวิชาธรณีวิทยา จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย สามารถศึกษาต่อปริญญาโท และปริญญาเอก ได้ใน แล้วก็ต่างชาติ โดยสามารถเรียนเฉพาะด้าน หรือร่วมกับสาขาอื่น เช่น วิทยาแร่ หินวิทยา แผ่นดินเคมี พื้นดินฟิสิกส์ ธรณีวิทยาบ่อแร่ อุทกธรณีวิทยา ธรณีวิทยาปิโตรเลียม วิทยาศาสตร์สภาพแวดล้อม วิศวกรรมเหมืองแร่ ธรณีเคล็ดลับ วิศวกรรมพสุธา เรียนธรณีวิทยาแล้วได้ทำงานบริษัทน้ำมัน? คนจำนวนไม่น้อยตั้งความหวังไว้ว่า ถ้าหากเป็นนักธรณีวิทยาแล้วจะได้เข้าทำงานในบริษัทตรวจสอบน้ำมันและก็ก๊าซธรรมชาติ ที่ซึ่งให้ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนรายเดือนค่อนข้างสูง แต่ว่าจริงๆแล้วตำแหน่งงานที่เปิดรับในสายนี้มีปริมาณจำกัด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เรียนจบธรณีวิทยาทั้งประเทศในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ทำงานในสายนี้ แนวโน้มตลาดงานธรณีวิทยาในอนาคต งานในประเทศไทยมีจำกัด นักธรณีวิทยาไทยจะมีการดำเนินการในเมืองนอกเพิ่มมากขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นด้านการสำรวจ การสมัครเข้าทำงานงานแข่งขันกับนักธรณีวิทยาต่างชาติ การศึกษาในระดับค่อนข้างสูงกว่าปริญญาตรีจะมีความสำคัญ ปัจจุบันนี้เมืองไทยอยากนักธรณีวิทยาด้านงานค้นคว้าและก็การสอนจำนวนไม่ใช่น้อย วิศวกรรมองค์ประกอบ (Structural Engineering) เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบและก็คำนวณ สิ่งปลูกสร้าง การเรียนรู้ในสาขานี้จะเน้นในทางด้านงานคำนวณพินิจพิจารณา ดีไซน์โครงสร้างของอาคารบ้านเรือน รวมทั้งความต้านทานของอุปกรณ์ เพื่อหาวัสดุและก็ขนาดของสิ่งของที่เหมาะสมกับงานนั้นๆงานที่เกี่ยวดังเช่นว่า การก่อสร้างตึก เขื่อนหรือสะพาน เป็นต้น วิศวกรรมก่อสร้างและก็การจัดการ (Construction Engineering and Management) ศึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารเป็นหลัก โดยย้ำเล่าเรียนทางด้านระบบการสร้างอาคาร การวางเป้าหมายงาน การวัดราคาค่าก่อสร้าง นอกจากนี้ ในบางสถาบันจะมีการสอนเกี่ยวกับระบบกระแสไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ รวมทั้งระบบสุขาภิบาลด้านในอาคาร วิศวกรรมขนส่ง (Transportation Engineering) เรียนแยกเป็น 2 สาขาหลักคือระบบและก็วัสดุ โดยงานทางด้านระบบจะเน้นทางด้านการวางผัง การจราจร รวมทั้งการจัดการทางด้านงานจราจร โดยทำการศึกษาถึงประโยชน์รวมทั้งค่าครองชีพสำหรับเพื่อการก่อสร้างระบบถนนหนทาง สำหรับงานทางด้านอุปกรณ์จะย้ำในการศึกษาวัสดุสำหรับการทำถนน ตัวอย่างเช่น คอนกรีตและยางมะตอย เป็นหลัก โดยเรียนรู้ถึงกรรมวิธีสำหรับการสร้างถนนและเปลี่ยนแปลงถนนหนทาง วิศวกรรมวิธีพื้นดิน (Geotechnical engineering) เล่าเรียนเกี่ยวกับคุณลักษณะทางด้านฟิสิกส์และก็วิศวกรรมของดิน เพื่อการวิเคราะห์ วางแบบ และแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมธรณี (Geological engineering) เรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์ วิศวกรรมของหิน รวมทั้งธรณีวิทยาปรับใช้ เพื่อการวิเคราะห์ ดีไซน์ รวมทั้งขจัดปัญหาด้านวิศวกรรมโยธารวมทั้งเหมือง วิศวกรรมสภาพแวดล้อม (Environmental Engineering) ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมในน้ำและในอากาศ การปรับแก้ประสิทธิภาพของของเสีย วิศวกรรมทรัพยากรน้ำ (Water Resource engineering) ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับงานทางด้านแหล่งน้ำ ปริมาณน้ำฝน และก็ระบบการระบายน้ำ รวมทั้งการก่อสร้างคู ลำคลอง รวมทั้งแม่น้ำ วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering) เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำรังวัดและก็งานทางด้านตรวจสอบ สำหรับใช้ในทางด้านแผนที่ รวมทั้งการศึกษาทางด้าน จีพีเอส (GPS) รวมทั้ง ภูเขามิสารสนเทศ (Geoinformatics หรือ Geographic information system;GIS) กล้องระดับ BOSCH GOL32D (http://www.p1instrument.com/UploadImage/204d32dc-1c52-4f07-8217-52121bf132a3.png) กล้องระดับอัตโนมัติ AUTO LEVEL BOSCH GOL32D ระบบกล้องเล็ง ระบบเห็นภาพตั้งตรงตามธรรมชาติ กำลังขยายของเลนส์ 32 เท่า ขนาดความกว้างของภาพ 100 เมตร 2.6 เมตร1 องศา 20 ลิปดา ระยะมองเห็นภาพใกล้สุดไม่เกิน 0.3 เมตร ค่าตัวคูณคงที่ 100 ระบบอัตโนมัติ ( Compensator ) +/- 15 ลิปดา ความละเอียดในการทำระดับในระยะ 1 กม. +/- 3 มม. ระดับน้ำฟองกลมมีความไว 8 ลิปดา ต่อ 2 มิลลิเมตร มีจานองศาอ่านมุมราบ 360 องศา มีขีดกำกับทุกๆ 1 องศา มีโครงสร้างกันน้ำ(Water Proof) - อ่านค่ามุมโดยตรง 1 องศา ระยะการตรวจเช็ค ทุก 6เดือน การรับประกัน 1 ปี อุปกรณ์ที่มีมี : กล่องใส่กล้องกันกระเทือน -ขาตั้งกล้องที่เอาไว้สำหรับสำรวจ-ขาตั้งอลูมินัม -อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับกล้องถ่ายภาพเซอร์เวย์ บริการให้พิเศษจากทางร้าน : -ค้ำประกันฟรีเงินเดือนซ่อม 1ปี -คาลิเบสกล้องฟรี 1ปี หรือ 2ครั้ง -ทางร้านค้ำประกันประสิทธิภาพสินค้า - ถ้าหากสินค้าไม่ได้คุณภาพยินดีคืนเงินข้างใน 90 วัน เครดิตบทความจาก : http://www.p1instrument.com/ Tags : กล้องสำรวจ, Total Station,ขายกล้องระดับ
|