ล้อแม็ก แม็ก แม็กล้อ แม็กซ์แต่งรถ ล้อแม็กคุณภาพ รวมล้อแม็กลายใหม่ๆ

Sitemap SMB => สินค้าอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: suChompunuch ที่ กรกฎาคม 31, 2019, 07:18:41 pm



หัวข้อ: เข้าเล่มหลังการพิมพ์งาน ปั๊มนูน สร้างมูลค่าให้สินค้า พลาสติก เข้าหัวปฏิทินด้วยงา
เริ่มหัวข้อโดย: suChompunuch ที่ กรกฎาคม 31, 2019, 07:18:41 pm
สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้า จดหมาย ผ้า ด้วย  ปั๊มไดคัท , ปั๊มเคทอง ปั๊มนูน
การขอเลข ISBN การขอ CIP และการทำบาร์โค้ด (Barcode)

ISBN คืออะไร จะต้องมีหรือไม่
เลข ISBN (International Standard Book Number) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ เป็นรหัสที่กำหนดให้ใช้กับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ เพื่อใช้สำหรับการแบ่งหนังสือแต่ละเรื่องออกมาจากกันครับผม แล้วยังนำไปใช้อำนวนความสะดวกในกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่นำเข้าคลังที่มีไว้เก็บสินค้าตามร้านจำหน่ายหนังสือ ไปจนถึงการขายที่หน้าร้านเลยนะครับ โดยรหัสที่ใช้ในประเทศไทยจะเป็น Code EAN 13 หลัก โดย 3 หลักแรกจะเหมือนกันทั้งหมดทั้งประเทศด้วยเหตุว่าเป็นรหัสกล่าวว่าเป็นหนังสือจากประเทศไทย มันก็คือ 978 ส่วนรหัสหลักในที่สุดจะเป็นรหัส checksum เอาไว้ตรวจทานรหัสในชุดอีกครั้งหนึ่ง


ถ้าสงสัยว่าแล้วหนังสือที่เรากำลังจะพิมพ์จำเป็นจะต้องมีเลข ISBN หรือไม่เช่นไร ง่ายๆเลยก็คือถ้าพวกเรามีแผนในการที่จะวางขายในร้านหนังสือ หรือต้องการให้หนังสือเข้าระบบการขายที่ใช้ barcode ในการตรวจนับผลิตภัณฑ์ ก็ต้องมีเลข ISBN ขอรับ แม้กระนั้นถ้าเป็นหนังสือที่มิได้เข้าระบบการขายตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใช้งานในองค์กรหรือคิดแผนจะทำการขายด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมีก็ได้นะครับ

CIP เป็นยังไง จำเป็นต้องมีหรือเปล่า
CIP (Cataloging in Publication) หรือภาษาไทยเป็น ข้อมูลทางบรรณานุกรมหนังสือ CIP เป็นการกำหนดข้อมูลเนื้อหาทางบรรณานุกรมตามหลักมาตรฐานสำหรับในการทำบัตรรายการ เลขกลุ่มหนังสือ หัวเรื่อง เพื่อให้กำเนิดความสบายในการศึกษาหรือค้นหาในหอสมุดโดยธรรมดาบรรณารักษ์ตามหอสมุดต่างๆจะใช้เลขหมวดเหล่านี้จัดหนังสือขึ้นชั้นในหอสมุดขอรับ ถ้าถามว่าแล้วหนังสือที่จะพิมพ์ ควรต้องมีเลข CIP รึเปล่า ถ้าเกิดพวกเรามีแผนในการที่จะนำหนังสือเข้าไปใช้งานในหอสมุด ก็ควรจะมีไว้ครับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรณารักษ์ แต่หากดูแล้ว หนังสือของเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใส่เข้าไปอยู่ข้างในห้องสมุดแน่นอนก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีก็ได้ครับ

บริการขอเลข ISBN และ CIP
ทางโรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสำหรับเพื่อการขอเลข ISBN และก็ข้อมูล CIP ได้ แต่ว่าลูกค้าต้องเตรียมข้อมูลพื้นฐานสำหรับในการจดเลข ISBN ให้ทางโรงพิมพ์ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์มจากไฟล์นี้แล้วส่งให้โรงพิมพ์ทางอีเมล์ wacharinpp@gmail.com รวมทั้งduudesign@gmail.com นะครับ

กระบวนการทำบาร์โค้ด Barcode
เมื่อได้เลข ISBN มาแล้ว ก็จำเป็นต้องนำ ISBN ที่ได้มาทำเป็น Barcode เพื่อที่จะใช้สำหรับในการสแกนตามร้าน ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางสถานที่พิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. มีบริการทำ Barcode ให้ด้วยโดยไม่คิดค่าครองชีพอะไรขอรับ โดยจะรับทำบาร์โค้ดให้เฉพาะเลข ISBN ในระบบEAN 13 หลักแค่นั้น barcode ที่เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆหรืออยู่ในรหัสชุดอื่น ทางสำนักพิมพ์จะก่อให้มิได้ครับ

ข้อเสนอแนะในการทำบาร์โค้ด
สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำบาร์โค้ดใช้งานเองทางสำนักพิมพ์มีข้อเสนอเล็กน้อยดังต่อไปนี้ขอรับ
1. บาร์โค้ดต้องทำเป็นดำโดดเดี่ยวมาเท่านั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดเด็ดขาด(ดำคนเดียว ดำ 4 เม็ดเป็นอย่างไร อ่านได้จากที่นี่)
2. บาร์โค้ดจำต้องทำให้อยู่ในรูปแบบ Vector เท่านั้น เพื่อที่จะใช้ประโยชน์งานต่อในโปรแกรมอย่างเช่น Adobe Illustrator ได้ ห้ามทำเป็นไฟล์ที่เป็นรูปภาพ JPG, PSD มาโดยเด็ดขาด
3. การสรุปหรือขยายบาร์โค้ดสามารถทำเป็น แม้กระนั้นจะต้องย่อ-ขยายตามรูปร่างเพียงแค่นั้น (Proportional Scaling) ห้ามย่อขยายบาร์โค้ดข้างในด้านหนึ่งเพียงแค่นั้น เพราะว่าจะก่อให้รูปทรงของแท่นบาร์โค้ดผิดเพี้ยนไป รวมทั้งจะสแกนมิได้
 
 
ปั๊มไดคัท (Die-Cuting)
การกดกระดาษ หรือชิ้นงานต่างๆ ลงบนบล็อกปั๊ม เพื่อให้กระดาษหรือชิ้นงานมีขนาดหรือรูปร่างตามที่ต้องการ ได้แก่ การ์ดมุมมน เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/embossing-2.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มนูน (Embossing)
การใช้บล็อกดันกระดาษให้นูนสูงขึ้น เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ ปั๊มนูนปกหนังสือ เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/debossing.jpg?w=220&h=126&crop=1)
ปั๊มจม (Debossing)
การใช้บล็อกกดกระดาษให้จมต่ำลง เพื่อทำให้สิ่งพิมพ์หรือชิ้นงานมีมูลค่ายิ่งขึ้น ได้แก่ ปั๊มนูนปกหนังสือ เป็นต้น
(https://rvydiecut.files.wordpress.com/2015/09/stamping-foil.jpg?w=220&h=126&crop=1)
การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นยังไง?
คือ การพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิมพ์ เครื่องปรินเตอร์ที่อยู่ตามบ้านของคนทั่วไป ก็เป็นการพิมพ์ดิจิตอล แต่ว่ายังไม่อาจจะสนองความจำเป็นต้องได้ครบ ทั้งยังด้านปริมาณ ,คุณภาพ,เวลาคราวใช้ในการพิมพ์ เช่น การทำโปสเตอร์ขนาด A3 ราว 100 แผ่น เครื่องปรินท์ตามบ้านสามารถปรินท์ได้ แต่ ประสิทธิภาพ เวลา ที่ได้อาจทำให้ผู้ครอบครองปรินท์เตอร์เกิดความรู้สึกไม่คุ้มค้ากับเวลาทีเสีย และได้มาซึ่งคุณภาพที่ไม่อาจจะสนองตอบการใช้แรงงานได้ จึงเกิดเครื่องปรินท์ ที่มาตอบสนองในสิ่งที่ต้องการในลักษณะนี้ เป็น เครื่อง Digital Press ที่ให้คุณภาพงานพิมพ์เนื้อหาใกล้เคียงกับระบบ offset มากกระทั่งแทบจะแยกไม่ออก รวมทั้งยังทำความเร็วได้ทันความปรารถนา รวมทั้งสามารถพิมพ์ได้นานาประการสิ่งของดังเช่น กระดาษปอนด์,กระดาษอาร์ตมัน, กระดาษมีลวดลาย, กระดาษครึ้มไม่เกิน 300 เอ็งรม, สติกเกอร์pvc ขุ่น-ใส, แผ่นใส, สติ๊กเกอร์วอยย์เปลือกไข่, ฉลากผลิตภัณฑ์, โฮโลเอ็งรม อื่นๆอีกมากมาย

จุดเด่น ระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing)
1. ย่นเวลาสำหรับในการปฏิบัติงาน ความสบายเร็วทันใจ ลดขั้นตอนกระบวนการทำฟิล์มแล้วก็แม่พิมพ์ แม้งานที่อยากได้นั้นเร่งด่วนก็เลือก เสนอแนะพิมพ์ระบบดิจิตอล

2. ปรับแต่งงานได้ง่าย ในเรื่องที่ต้องการปรับแก้เนื้อหาข้อมูล ก็แค่ส่งไฟล์ใหม่มาแทนไฟล์เดิมข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลใหม่ ปรับแก้ได้โดยทันที

3. ใช้งบประมาณน้อยกว่า (ในกรณีที่พิมพ์ปริมาณน้อย) เนื่องจากว่าไม่ต้องทำเพลทพิมพ์ ซึ่งราคาโดยรวมเวลาจัดพิมพ์จะถูกกว่า

4. มัธยัสถ์ทรัพยากร เหมาะสมกับงานพิมพ์จำนวนน้อย ลดของเสียในขั้นตอนการผลิต เวลา,กระดาษ,น้ำหมึก,แรงงาน

5. มาตรฐานงานพิมพ์ มีระบบระเบียบการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เสมอกันในทุกๆหน้า เพราะไม่ต้องควบคุมน้ำหมึกรวมทั้งน้ำ อย่างเช่นการ พิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) ที่ต้องใช้ผู้ควบคุมที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

6. ผลิตตามจำนวนที่ปรารถนา เหมาะสำหรับงานพิมพ์น้อยกว่า 3000 ชุด ถ้าหากอยากได้ 100 เล่ม ก็พิมพ์แค่ 100 เล่ม ไม่ต้องพิมพ์มากกว่าจำนวนที่อยากได้ มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
 
เทคโนโลยีการพิมพ์ Industrial Technology
การแข่งขันชิงชัยด้านอุตสาหกรรมต่างๆในขณะนี้ มีการเติบโตที่สูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งยังในประเทศและก็ต่างถิ่น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเทคโนโลยีก็เลยมีบทบาทสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการคิดค้นหรือวางแบบประดิษฐ์ของใหม่ๆการผลิตของใหม่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับในการตอบสนองความต้องการของตลาดผู้สร้างจำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในงานที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตนั้นมีคุณภาพแล้วก็ตรงตามต้องการของผู้บริโภคให้สูงที่สุด

บทความนี้จะขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมด้านการบรรจุภัณฑ์รวมทั้งเทคโนโลย ีที่ใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 จำพวกใหญ่ๆคือ

1. บรรจุภัณฑ์ประเภทแข็ง (Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ตัวอย่างเช่น แก้ว กระป๋องโลหะ และก็พลาสติกแข็ง บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้มีความแข็งแรงและก็อาจจะรูปได้ดี สามารถลำเลียงขนถ่ายบนสายพานได้

2. บรรจุภัณฑ์ชนิดกึ่งแข็งตัว (Semi-Rigid Packaging) บรรจุภัณฑ์จำพวกนี้อาทิเช่นขวดพลาสติกแก้วพลาสติก ถ้วยใส่ไอศกรีม สินค้าชนิดนี้จะมีข้อกำหนดในการรับแรงอัดแล้วก็แรงดึง

3. บรรจุภัณฑ์จำพวกอ่อนนุ่ม (Flexible Packaging) บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ได้แก่ซองใส่อาหารสำเร็จรูปต่างๆหรือผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก


เทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งได้ 3 ส่วนสำคัญๆได้แก่...
1. เทคโนโลยีเพื่อช่วยสำหรับเพื่อการดีไซน์จะใช้เครื่องไม้เครื่องมือสองส่วนร่วมกันนั้นก็ คือ ด้าน Hardware และ Software เพื่อช่วยในการคิดค้นวางแบบผลิตภัณฑ์ ดีไซน์ด้านกราฟฟิก บางทีอาจรวมไปถึงเรื่องการปรับปรุงสินค้าในแบบต่างๆSoftware ที่ใช้ออกแบบในปัจจุบันได้พัฒนาให้เป็นแบบ 3D เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการตรวจทานความถูกต้องรวมทั้งการติดต่อสื่อสารที่รู้เรื่องได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมหรือสามารถผลิตผลงานตัวอย่างออกมาเพื่อมองเห็นรูปลักษณ์ของสินค้านั้นๆได้

2. เทคโนโลยีการผลิตและก็การพิมพ์นำมาใช้สำหรับการพิมพ์ฉลาก เพื่อใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ขวดเครื่องแต่งตัวหรือถุงใส่เครื่องแต่งหน้า อาหารเเละอุตสาหกรรมอื่นๆมากมายซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์นั้นมีนานัปการต้นแบบ ยกตัวอย่างเช่นการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบเกรียวกราวเวียร์ แล้วก็การพิมพ์แบบเฟ็กโซ เดี๋ยวนี้เครื่องมือแล้วก็อุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับเพื่อการพิมพ์มีความล้ำยุคแล้วก็มีเทคโนโลยีสูงเพื่อได้สีสันที่สวยงามและก็ยั่วยวนใจความต้องการของผู้ซื้อ

3. เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ จำนวนของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตหรือบรรจุได้ในขณะนี้ บางทีอาจยังไม่ใช้ปริมาณสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบันเท่านั้น การเลือกเครื่องจักรจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะจะต้องรองรับการผลิตในอนาคตและยังจะต้องปฏิบัติงานร่วมกับสิ่งของบรรจุภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการขนย้ายขน ใส่ หรือหน้าที่อื่นๆได้อย่างแม่นยำและก็รวดเร็วทันใจ

การบรรจุภัณฑ์ หรือการบรรจุ เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกรรมวิธีการทางการตลาดเนื่องมาจากในขณะนี้บริษัทต่างๆได้ปรับปรุงตัวสินค้าและบริการจนมีคุณภาพทัดเทียมกันดูเหมือนจะทุกยี่ห้อแบรนด์ โดยเหตุนี้นักการตลาดก็เลยได้หันมาเน้นหัวข้อการบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนารูปแบบของการบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยอีกทั้งในด้านการรักษาแนวทางการขาย การตลาด การโฆษณา การบรรจุภัณฑ์ก็เลยเข้ามามีบทบาททางการตลาดมากเพิ่มขึ้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีและก็สมควร จะช่วยทำให้การปฏิบัติการจัดจำหน่าย การขนส่งโยกย้ายและการกระจายผลิตภัณฑ์ดำเนินไปได้ด้วยดีสบายเร็วทันใจ มัธยัสถ์

อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นนั้นก็คือประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติในสังคมตอนนี้ ผู้อุปโภคบริโภคสนใจต่อบรรจุภัณฑ์มากเป็นทวีคูณ ผู้ใช้นอกเหนือจากที่จะมีความต้องการความสวยงามด้านนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังปรารถนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม

การออกแบบบรรจุภัณฑ์จำเป็นต้องพิจารณาถึงความสามารถสำหรับการลดปริมาณบรรจุภัณฑ ์ที่ใช้แล้วสิ่งที่ต้องการดังที่กล่าวมาแล้วนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสทางด้านสังคมในประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่งผลให้สินค้าที่ส่งไปขายประเทศพวกนี้ ต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบทางด้านสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆด้วยยกตัวอย่างเช่น ในประเทศเยอรมันการนำเอากล่องกระดาษแข็งกลับมาใช้ใหม่ในลูกค้าจะนำเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นใน เป็นต้นว่า ขวดที่ใส่ผลิตภัณฑ์กลับไปอยู่บ้าน ส่วนตัวกล่องชั้นนอกจะให้คนขายนำกลับไปใช้ใหม่ แผนการนำกลับมาใช้ ซึ่งออกจะใหม่นี้ย่อมช่วยเหลือกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้หมดไปในช่วงเวลาอันใกล้
 
รับเข้าหัวปฏิทินทุกชนิด  ‪#‎ปั๊มเคทอง ‪#‎debossing  ‪#‎นามบัตร ต่อรองราคาได้
บริกาเข้ารูปเล่มหนังสือ ด่วนติดต่อ คุณวิลาวรรณ มือถือ 089-088-2848

เครดิตบทความจาก : https://rvydiecut.com/

Tags : ปั๊มเคทอง,ปั๊มจม, ตอกตาไก่
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ